นำ 2 ผู้ต้องหาทำแผนฯ คดีทำร้ายร่างกายหนุ่มไทใหญ่เสียชีวิต

ลำพูน 26 เม.ย. – เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัว 2 ผู้ต้องหา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หอพักจังหวัดลำพูน เผยปมมาจากการทะเลาะวิวาท เตรียมล้อมจับผู้ต้องหาอีก 2 ราย ที่หลบหนี ยันยังอยู่ในไทย มั่นใจจับได้เร็วๆ นี้


เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ได้พาผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่หอพักในตำบลอุโมงค์ จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่คนร้ายไปทำร้ายร่างกายนายจ่อมวัน หนุ่มไทใหญ่จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ระหว่างการทำแผนผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถานายต้าว่า ปมเหตุทะเลาะวิวาทมาจากอะไร นายต้าบอกว่าเรื่องกินเหล้า เมื่อถามอีกว่าหากย้อนเวลากลับไปได้จะทำแบบนี้ไหม นายต้าตอบว่าไม่ทำครับ
เมื่อถามว่าได้บังคับลูกน้องหรือไม่ นายต้า บอกไม่ครับ พร้อมบอกอยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ระบุเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากไปขอขมาครอบครัวคนตาย ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวขึ้นรถไปทำแผนที่อำเภอแม่ริมเชียงใหม่ต่อไป

โดยมีชาวบ้านมาร่วมดูการทำแผนด้วย หลังจากทำแผนเสร็จสิ้นแล้วชาวบ้านต่างปรบมือให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับตัวคนร้ายได้โดยเร็วและสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้านระแวกนั้นกลับคืนมาได้


ก่อนหน้านี้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และ พล.ต.ต.บุณยวัต เกิดกล่ำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ร่วมกันสอบสวนนายอุ่น ลุงฮ่อง หรือต้า ผู้รับเหมารายย่อย ชาวไทใหญ่วัย 45 ปี หัวหน้ากลุ่มคนร้าย พร้อมกับนายวู้นีเลี่ยง ลูกน้องที่เป็นผู้ใช้ค้อนทุบหัวนายจ๋อมวัน หนุ่มชาวไทใหญ่จนเสียชีวิต ที่ สภ.เมือง ลำพูน โดยจากการสอบสวน พล.ต.ต.ธวัชชัย ยืนยันว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง และสาเหตุมาจากการทะเลาะวิวาท ซึ่งทั้งหมดรู้จักกันดีและกินเหล้าด้วยกันมาก่อน เที่ยวด้วยกันและก็ทะเลาะกันจนมาก่อเหตุ ซึ่งพบว่ามีการท้าทายกันในแอพพลิเคชั่น LINE ด้วย ทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดบันดาลโทสะ และสั่งการให้ลูกน้องไปทำร้ายร่างกาย แต่คาดว่าเสียชีวิตบนรถกระบะที่ลากตัวเลยจ๋อมวัน ผู้เสียชีวิตขึ้นรถมาแล้ว ก่อนที่จะนำศพไปทิ้งที่ อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่

จากกรณีที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการวางแผนมาทำร้ายร่างกายอย่างแน่นอนเพราะมีการเตรียมค้อนและเชือกมาเป็นอย่างดี ส่วนต้องการจะวางแผนมาฆ่าเลยหรือไม่ต้องดูเจตนาอีกที แต่ไม่ปฏิเสธว่าเป็นการกระทำที่โหดร้าย และถึงแก่ชีวิตแน่นอน เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย แต่ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่เกิดการทะเลาะวิวาทกัน ส่วนภาพรวมการดูแลกลุ่มแรงงานต่างด้าวและคนไทยทั้งเชียงใหม่และลำพูนยังเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย

สำหรับความผิดถือว่าผู้ก่อเหตุทั้งหมดมีความผิดร่วมกันในทางเดียวกันในฐานเดียวกัน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งล้อมจับผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 2 ราย โดยมั่นใจว่ายังอยู่ในประเทศไทย ยังไม่ได้ข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และคาดว่าจะได้ตัวเร็ว ๆ นี้. -719-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง