คุมไฟไหม้โกดังสารเคมี จ.ระยอง ได้ในวงจำกัด

ระยอง 23 เม.ย. – เหตุไฟไหม้โกดังสารเคมีใน จ.ระยอง หลังผ่านมาเกิน 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่คุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด ก่อนนำรถแบ็กโฮเข้าไปเคลียร์พื้นที่และทยอยดับไฟไปทีละส่วน พร้อมวางแผนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ


ภาพขณะเจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮเข้าไปในบริเวณรอยต่อระหว่างโกดังที่ 3 และ 4 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจุดต้นเพลิง หลังจากควบคุมไฟไม่ให้ลุกลาม แต่ยังต้องระมัดระวังอย่างสูง เนื่องจากยังไม่ทราบชนิดสารแน่ชัด ต้องค่อยๆ เขี่ย ค่อยๆ ดับไปทีละส่วน เพื่อไม่ให้ไฟปะทุขึ้นมาอีก นอกจากนี้ยังต้องระวังโครงสร้างอาคารที่อาจพังถล่มลงมา

ขณะที่บริเวณรอบๆ โกดัง ยังคงเต็มไปด้วยแกลลอนสารเคมีและถุงบิ๊กแบ็กที่บรรจุกากเคมีจากบ่อบำบัด ซึ่งทีมข่าวได้ข้อมูลว่าน่าจะเกิดจากปัญหาภายในระหว่างตัวโรงงานเองกับผู้รับเหมาขนย้ายสาร ทำให้การขนย้ายไปทำลายหลังจากมีคำสั่งศาลให้ปิดกิจการ ทำได้ล่าช้า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จากกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่สำรวจโดยรอบบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าสารที่ถูกเพลิงไหม้เป็นสารชนิดใด หลังจากประชุมร่วมกับทางจังหวัด ที่ที่ทำการ อบต.บางบุตร แล้วจะแถลงข้อมูลทั้งหมดให้ทราบอีกครั้ง


ด้านชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง กล่าวว่า ที่ยังอยู่ตามปกติเพราะควันไฟเมื่อวานพัดไปอีกทางหนึ่ง ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้รับผลจากกลิ่นเหม็นมาตลอด และชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่พอใจที่มีโรงงานรีไซเคิลกากสารเคมีมาอยู่ก่อนแล้ว อยากให้รีบจัดการให้แล้วเสร็จไปโดยเร็วที่สุด

ในส่วนของความกังวลด้านสุขภาพที่เกิดจากควันและสารเคมี นายสุนทร อุปมาณ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ กรมควบคุมมลพิษ แจ้งว่าจากการวัดระดับมลพิษยังไม่เกินเกณฑ์ที่เป็นอันตราย ยกเว้นในกลุ่มที่อยู่ใต้ลมและสูดดมควันไฟเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) ทำให้เกิดอาการสำลักได้ แต่ยืนยันว่าวันนี้ควันเบาบางลงมากแล้ว และสามารถแพร่กระจายไปประมาณ 4-5 กม. แม้จะได้กลิ่นเหม็น แต่ปริมาณสารที่ลอยในอากาศจะไม่เข้มข้นและจะเจือจางลงเรื่อยๆ จึงแนะนำให้เปิดประตู หน้าต่าง เพื่อให้อากาศหมุนเวียนได้ดีขึ้น แต่หากมีผู้สูงวัยหรือเด็ก และผู้ที่อยู่ในกลุ่มเปราะบางด้านสุขภาพ อาจเกิดอาการผิดปกติจากการได้รับควัน สามารถติดต่อรับความช่วยเหลือได้ที่ที่ทำการ อบต.บางบุตร ได้ทันที และในส่วนของการแพร่กระจายทางน้ำอยู่ระหว่างมอบหมายเจ้าหน้าที่กระจายตัวออกไปยังพื้นที่ที่คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำมาตรวจสอบ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจตั้งด่าน เจ็บ 6 นาย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจขณะตั้งด่าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บ 6 นาย เด็ก 3 ขวบ เจ็บ 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนครบรอบ 21 ปี ไฟใต้