ตร.ทางหลวง ถูกเก๋งชนสาหัส อาการยังวิกฤติ-ส่งตัวขึ้น ฮ.ไม่ได้

ลพบุรี 17 เม.ย.- ตำรวจทางหลวงลพบุรีถูกรถเก๋งชนสาหัส ขณะอำนวยการจราจรช่วงสงกรานต์ เบื้องต้นยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่ง รพ.ตำรวจได้ แพทย์จึงปรับแผน ย้ายผ่าตัดด่วนที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัดแทน


ความคืบหน้า กรณีดาบตำรวจ ปิยนันท์ สีเสื้อ ตำรวจทางหลวง หมวดทางหลวงบ้านดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ถูกรถเก๋ง สีขาวพุ่งชน โดยมี น.ส.พรเพชร อายุ 27 ปี เป็นผู้ขับ ร่างตำรวจกระเด็นลอยไปไกลราว 10 เมตร ศีรษะกระแทกกับพื้นหมดสติอาการสาหัส ขณะปฏิบัติติหน้าที่อำนวยความสะดวกจราจรช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา เหตุเกิดบนทางหลวงหมายเลขที่ 21 หลักกิโลเมตร ที่ 22-23 หมู่ที่ 4 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม

ล่าสุดรักษาราชการแทน ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ได้สั่งการให้นำเฮลิคอปเตอร์รับร่าง ด.ต.ปิยนันท์ มารักษาต่อที่รพ.ตำรวจ โดย ตำรวจทางหลวงลพบุรีประสานงานกองบินตำรวจ ขอสนับสนุนนำเฮลิคอปเตอร์ มารับผู้บาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลพัฒนานิคม แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์ กองบินตำรวจ พร้อมแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ฉุกเฉิน ได้บินมาลงจอด ที่สนามโรงเรียนพัฒนานิคม เพื่อรับตัว ด.ต.ปิยนันท์ แต่หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ ได้ยกตัวขึ้นไปได้ 3 นาที นักบินได้ประสานนำเฮลิคอปเตอร์บินกลับมาลงจอดที่จุดเดิม เพราะทีมแพทย์บนเครื่องว่าแจ้งว่าชีพจรของ ด.ต.ปิยนันท์ ตก กะทันหัน ความดันไม่คงที จึงไม่สามารถส่งต่อได้ในขณะนี้


ทั้งนี้ ทีมแพทย์จึงปรับแผนเคลื่อนย้าย ด.ต.ปิยนันท์ ทางรถยนต์ ไปรักษา ต่อโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช อ.เมืองลพบุรี แทน เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลใหญ่ มีอุปกรณ์ และแพทย์ที่ครบครัน ระหว่างเคลื่อนย้าย ตำรวจทางหลวงลพบุรี ได้วิทยุประสานขอความร่วมมือตำรวจจราจรรวมถึงมูลนิธิต่างๆ ช่วยอำนวยความสะดวกในการปิดเส้นทางการจราจรชั่วคราว เป็นกรณีพิเศษ ในขณะที่รถ Ambulance ทำการเคลื่อนย้าย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เบื้องต้นทีมแพทย์ประเมินว่า ด.ต.ปิยนันท์ เสียเลือดมาก มีภาวะสมองบวม ถือเป็นอาการที่รุนแรงมาก หากไม่ได้รับการรักษาอาจถึงขั้นเสียชีวิต หรือหากรับการรักษาช้าเกินไป ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัดด่วน โดยเบื้องต้นได้ให้ยากระตุ้น เพื่อให้ชีพจรและความดันกลับมาคงที่ แต่ต้องดูอาการหลังการผ่าตัดอีกครั้ง และยังคงต้องอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากขณะนี้ ยังไม่พ้นขีดอันตราย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย