กาฬสินธุ์ 1 เม.ย. – จับแล้ว พระชื่อดังข่มขืนผู้หญิง ถ่ายคลิปอนาจาร-ข่มขู่จะฆ่าสามี พร้อมยึดอาวุธปืนและยาเสพติด ก่อนคุมตัวไปสึก เบื้องต้นยังให้การภาคเสธ บอกเพียงสั้นๆ ว่า “มันเป็นกรรม”
หลังจากที่เมื่อวานนี้ (31 มี.ค.) “กัน จอมพลัง” พร้อมด้วยตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ติดตามเรื่องกรณีพระสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ แอบมีสัมพันธ์กับหญิงวัย 48 ปี แล้วถ่ายคลิปแบล็กเมล ส่งภาพโป๊เปลือยตอนมีสัมพันธ์กับหญิงผู้เสียหาย ให้คนในครอบครัวและส่งไปหยามใจสามี และมีการครอบครองอาวุธปืน โดยมักจะอ้างว่า มีไว้ใช้ในการประกอบพิธีต่างๆ และเคยใช้อาวุธปืนตบเข้าที่บริเวณใบหน้าของผู้หญิง ยิงถากไปที่แขน บังคับให้หญิงบอกเลิกกับสามี ขู่จะฆ่าจะยิงหัวสามี และยังมีพฤติกรรมเสพยา กระทั่งลูกสาวของหญิงรายนี้ส่งเรื่องมาขอความช่วยเหลือกับ “กัน จอมพลัง” และแจ้งความไว้ที่ สภ.กุฉินารายณ์
เมื่อเจ้าหน้าที่บุกไปที่เกิดเหตุสำนักสงฆ์ ในตำบลเหล่าใหญ่ ซึ่งเป็นที่พักของพระผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้ถูกออกหมายจับแล้วตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา หลังถูกผู้เสียหายแจ้งความในข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพโดยมีอาวุธ ตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุไม่พบตัวพระรูปดังกล่าว จากการตรวจสอบบริเวณด้านหลังสำนักสงฆ์ พบร่องรอยการใช้แผ่นกระเบื้องเป็นเป้าในการยิงปืน พบแมกกาซีนและปลอกกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
“กัน จอมพลัง” เล่าว่า พระรูปนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ มีลูกศิษย์เป็นถึงระดับผู้ใหญ่ แต่กลับมีพฤติกรรมแอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแม่ของน้องผู้หญิงที่เข้ามาร้องเรียน ซึ่งทางพ่อไม่รู้ ระหว่างพระและแม่มีสัมพันธ์กัน 2 ปี มักจะมีการทำร้าย ข่มขู่ แอบถ่ายคลิปจำนวนมากเพื่อแบล็กเมล และส่งคลิปเหล่านี้มาให้ครอบครัวดู
ด้านหญิงวัย 48 ปี เล่าว่า ยอมรับในการทำผิดพลาด ผิดศีลธรรมจริยธรรมในช่วงแรก แต่เมื่อรู้สึกผิดและอยากกลับตัว ก็ไม่สามารถทำได้แล้ว เพราะตลอดระยะเวลาที่คบกันกับพระรูปดังกล่าวนั้น ตนพยายามจะหยุดความสัมพันธ์ที่เกินเลย แต่ถูกขู่ด้วยปืน และทำร้ายร่างกายบ่อยครั้งถูกบังคับให้ทำเรื่องดังกล่าวจนมาถึงปัจจุบัน จึงได้ปรึกษาทางครอบครัวนำเรื่องไปจะแจ้งความดำเนินคดีกับพระและขอความช่วยเหลือกับ “กัน จอมพลัง” เพราะไม่อยากทำผิดไปมากกว่านี้และไม่อยากให้พระรูปดังกล่าวไปกระทำกับคนอื่นอีก
โดยเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ชุดสืบสวนภาค 4 ตร.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ได้จับกุมตัวพระชัยชนะ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ พร้อมยึดของกลางอาวุธปืนและยาบ้าจำนวนหนึ่งได้ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ก่อนคุมตัวไปลาสิกขาบท และนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.กุฉินารายณ์
เช้านี้ ตำรวจคุมตัวอดีตพระผู้ก่อเหตุ ไปค้นกุฏิพัก พบอาวุธปืนแบลงค์กัน 4 กระบอก กระสุนปืน และยาบ้า 14 เม็ด โดยในระหว่างที่อดีตพระถูกควบคุมตัว ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่อดีตพระชัยชนะไม่ให้สัมภาษณ์ แต่บอกเพียงสั้นๆ ว่า “มันเป็นกรรม” พร้อมบอกปฏิเสธ โดยจะให้การในชั้นศาล และรอให้ทนายเป็นคนให้ข้อมูล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อหาทนายมาต่อสู้คดีอยู่
ด้าน พ.ต.อ.เมธาพงษ์ บุญศรี ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ ระบุว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยจะขอให้การในชั้นศาล หลังจากสอบปากคำจะส่งไปฝากขัง และจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพฤติกรรมข่มขู่ผู้เสียหาย และหลบหนี.-สำนักข่าวไทย