รองปลัดมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามปัญหาที่ภูเก็ต กำชับปฏิบัติตามกฎหมาย

9 มี.ค. – รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดย มท. กำชับเน้นย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติตามกฎหมายและใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์การเป็นเมืองท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ส่วนการจัดตั้งมูลนิธิ ส่งหนังสือให้ชี้แจงภายใน 30 วัน หากพบนำไปแสวงหาประโยชน์ จะเสนออัยการสั่งปิด


วันนี้ (9 มี.ค. 67) ห้องประชุมมุกอันดา ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายศรัณย์ศักด์ ศรีเครือเนตร รองอธิบดีกรมการปกครอง นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวการติดตามความคืบหน้ากรณีปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ให้ความเป็นห่วงกับกรณีปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยให้ยึดการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จากการติดตามในทุกเรื่องที่เป็นประเด็นปัญหา ทราบว่าทุกหน่วยได้มีการดำเนินการตรวจสอบและมีความคืบหน้าแล้วในทุกประเด็น และได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เร่งรัดในการดำเนินการให้ทุกประเด็นมีความเรียบร้อยโดยเร็วที่สุด เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มองถึงความสงบเรียบร้อยที่จะส่งผลให้การท่องเที่ยวฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว และจังหวัดภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาล และเป็นเมืองที่ทำรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนมาก


ด้านนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากกรณีประเด็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจเกี่ยวกับการกระทำของชายชาวสวิตเซอร์แลนด์ กรณีทำร้ายร่างกายแพทย์หญิงชาวไทย ขณะอยู่ขั้นตอนกระบวนการของการดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนประเด็นวิลล่าที่มีการก่อสร้างรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ ทางเทศบาลตำบลป่าคลอกได้แจ้งความดำเนินคดี และมีการรื้อถอนในส่วนที่มีการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะเรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีวีซ่าของชายชาวสวิตเซอร์แลนด์ ตม. ได้เพิกถอนวีซ่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กำลังเข้าสู่คณะกรรมการฯพิจารณาการขอยื่นอุทธรณ์ของชายชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่ขณะนี้ได้ขอยื่นประกันตัว โดยเจ้าหน้าที่ได้กำหนดให้อยู่ในพื้นที่และห้ามออกนอกพื้นที่ และให้มารายงานตัวทุก 15 วัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยังกล่าวถึงการตรวจสอบมูลนิธิ กรีน อีเลเฟนท์ ไวด์ไลฟ์ ที่มีการจดทะเบียนถูกต้อง ชำระภาษีถูกต้อง โดยยกเว้นภาษีปี 2566 ที่ยังไม่ดำเนินการ และในส่วนของโลโก้ ของมูลนิธิ และโลโก้ของปางช้าง ที่มีลักษณะเหมือนกัน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ ว่ามีมูลเหตุของการนำมูลนิธิไปใช้ประโยชน์หรือไม่ โดยได้แจ้งให้มูลนิธิฯ ทำการชี้แจงมาภายใน 30 วัน ซึ่งหากพบการกระทำผิด จะดำเนินการตามข้อกฎหมายทันที

ส่วนประเด็นของปางช้างซึ่งมีกฎหมายหลายฉบับ โดยทราบว่ามีการจดทะเบียนพาณิชย์ ซึ่งได้ให้ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมด โดยปางช้างมีช้างในการครอบครอง 14 เชือก 13 เชือก เป็นช้างที่เช่ามา อีก 1 เชือก เป็นช้างที่ซื้อมา และจากการตรวจสอบมีเอกสารเช่าและซื้อขายถูกต้อง และทุกตัวมี ไมโครชิพ


ส่วนประเด็นปัญหาการครอบครองปืนจำนวน 2 กระบอก ทั้งส่วนของบุคคลโดยชายชาวสวิตเซอร์แลนด์ และของมูลนิธิ ทางสำนักทะเบียนอำเภอถลาง ได้ตรวจสอบพฤติกรรมและอิงตามหลักฐานของ ตม. จึงได้เพิกถอนทะเบียนอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอกแล้ว และกรณีข้อสงสัยของการฟอกเงิน ทาง DSI จะมาตรวจสอบในวันที่ 15 มีนาคม 2567

ด้าน พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า กรณีการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ตามข้อสั่งการ ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ตั้งศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดของบุคคลต่างด้าวทั้งที่เข้ามาท่องเที่ยวและประกอบธุรกิจ โดยจะมีการเพิ่มช่องทางการแจ้งเบาะแส ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และในห้วงเวลาสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการบูรณาการกวาดล้างปราบปรามการกระทำความผิดของชาวต่างชาติ สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติได้ทั้งหมด 33 คน เป็นชาวรัสเซีย 11 คน เมียนมา 5 คน โดยส่วนใหญ่เป็นคดีทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตและใบอนุญาตให้พำนักในพื้นที่หมดอายุ รวมทั้งคดีอาชญากรรมและยาเสพติด พร้อมกันนี้ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.เข้มงวดกวดขันการกระทำผิดทุกประเภท พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปราม ผู้ที่ฝ่าฝืนกระทำผิดกฎหมายในทุกพื้นที่ เพื่อความสงบสุขของประชาชนและพร้อมอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว. -718 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ