สำนักสิ่งแวดล้อมฯ เชียงใหม่ เสนอยกระดับแก้ปัญหาฝุ่นพิษ 2 ระดับ

เชียงใหม่ 7 มี.ค. – สำนักสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เสนอยกระดับแก้ปัญหาฝุ่นพิษ 2 ระดับหากวิกฤติเวิร์คฟอร์มโฮมเต็ม 100


วันนี้ภาคเหนือตอนบนหลายจังหวัดยังประสบปัญหาค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ที่สูงจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ ขึ้นจากอันดับ 2 มาเป็นอันดับ 1 เมืองที่มีมลพิษของโลก โดยสำนักสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เสนอยกระดับแก้ปัญหาฝุ่นพิษ 2 ระดับหากวิกฤติเวิร์คฟอร์มโฮมเต็ม 100 ขณะที่ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมออกประกาศให้หน่วยงานเวิร์คฟอร์มโฮม เลี่ยงผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน

ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ มีนายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน ประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาหมอกควันที่ปกคลุมดอยสุเทพจนมองไม่เห็นเป็นวันที่ 2 แล้ว และขึ้นเป็นอันดับ 1 เมืองมลพิษโลก ซึ่งนายประดิษฐ์ สีใส ผู้อำนวยการสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 สำนักงานฯ เชียงใหม่ ได้เสนอมาตรการยกระดับในที่ประชุม 2 ระดับ ดังนี้ ระดับที่ 1.กรณีค่าพีเอ็ม2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าตั้งแต่ 75.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ติดต่อกัน 3 วัน ให้ปิดป่าในพื้นที่เสี่ยง, จัดหน่วยลาดตระเวน 24 ชั่วโมง และมีบทลงโทษเรื่องการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าและผู้ที่ลักลอบเผาป่าเด็ดขาด, ห้ามโรงงานรับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบ และห้ามรถโดยสารที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลมาบริการรับส่งประชาชน พร้อมขอความร่วมมือแหล่งกำเนิดในโรงงานขนาดใหญ่ลดกำลังการผลิตลง รวมถึงให้ WFH 50%


ระดับที่ 2.กรณีค่าพีเอ็ม 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าตั้งแต่ 150ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ติดต่อกันเกิน 5 วัน ให้ผู้ว่าฯ ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ,ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งปิดป่าพื้นที่อนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ , ให้กระทรวงการต่างประเทศหารือแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน ,ห้ามรถบรรทุกที่ใช้ดีเซลเข้าเมือง, ให้กระทรวงอุตสาหกรรมออกคำสั่งหยุดกิจการชั่วคราวโรงงานที่ก่อให้เกิดฝุ่น และให้สถานศึกษา หน่วยงานรัฐ-เอกชน ประกาศเวิร์คฟอร์มโฮม 100%

ขณะที่นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมออกประกาศแนะนำหน่วยงานต่างๆ พิจารณาให้บุคลากรที่ไม่จำเป็นต้องออกมาทำงานข้างนอกหรือในออฟฟิศ ให้สามารถเวิร์คฟอร์มโฮมได้ เพื่อเลี่ยงผลกระทบด้านสุขภาพ โดยดูตามความเหมาะสมแต่ละพื้นที่ประกอบด้วย เพื่อช่วยลดการเดินทางของผู้คนที่จะออกมาจากบ้านและรับผลกระทบจากฝุ่นได้ แต่ประกาศนี้ยังไม่ได้เป็นการบังคับแต่เป็นการแนะนำเท่านั้น อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้จะมีการประเมินสถานการณ์และออกประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.-719-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

เมืองพัทยาเอาจริง เร่งจัดการผู้ลักลอบจุดพลุชายหาด

เมืองพัทยาสั่งแล้ว เร่งจัดการผู้ลักลอบจุดพลุบนชายหาด หลังเกิดเหตุพลุล้ม วิ่งไประเบิดใส่เด็กบาดเจ็บทั่วร่าง ในคืนเคานท์ดาวน์

SET ปิดตลาดซื้อขายวันแรกปี 68 ร่วงลง 20.36 จุด

ดัชนี SET วันแรกของการซื้อขายปี 2568 ปิดที่ 1,379.85 จุด ปรับตัวลดลง 20.36 จุด หรือ 1.45% มูลค่าการซื้อขาย 36,852.83 ล้านบาท ตลาดกังวลนโยบายการค้าระหว่างประเทศ-นโยบายภาษี

สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์คว่ำ-กระบะชนต้นไม้

ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำและกระบะหักหลบรถตู้รับส่งนักเรียนชนต้นไม้ หลังพบเป็นถนนตัดใหม่ การก่อสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์

บขส.โคราชแน่น คนแห่เข้ากรุง หลังฉลองปีใหม่

บขส.โคราชแน่นต่อเนื่อง แห่ซื้อตั๋วรถโดยสารกลับกรุงเทพฯ คึกคัก ขณะที่ขนส่งจังหวัดฯ ตรวจสารเสพติดพนักงานขับรถเข้ม ป้องกันอุบัติเหตุ