5 มี.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือกำลังเผชิญไฟไหม้ป่ารุนแรงขึ้น ซึ่งต้องระดมเจ้าหน้าที่ดับไฟและเฝ้าระวังจนเกิดเหตุสลด เมื่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติขุนน่านต้องพลีชีพ หลังเกิดอาการลมแดดเสียชีวิตกลางป่า ต้องหามศพข้ามดอยออกมาใช้เวลาข้ามคืน กลายเป็นความสูญเสียแรกของฤดูไฟป่าปีนี้
ร่างของนายพันธ์ศักดิ์ ใจมงคล เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติขุนน่าน วัย 31 ปี ถูกนำออกมาจากพื้นที่ป่าข้ามสันเขาจนถึงหมู่บ้านดงผาปูน ตำบลบ่อเกลือใต้ ชายแดนไทย-ลาว ด้านอำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นจุดที่รถสามารถเข้าถึงได้เมื่อช่วงสายของวันนี้ ใช้เวลานานกว่า 7 ชั่วโมง หลังจากพันธ์ศักดิ์เสียชีวิตอย่างฉับพลันเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ขณะออกลาดตระเวนเฝ้าระวังไฟป่าในเขตอุทยานแห่งชาติขุนน่าน พร้อมกับเจ้าหน้าที่อีก 3 นาย คาดเกิดจากภาวะลมแดด หรือฮีตสโตรก
หนึ่งในชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังไฟป่าพร้อมกับพันธ์ศักดิ์ เล่าว่า เดินลาดตระเวนตามสันเขาที่สูงชันกันตั้งแต่เช้า จนน้ำที่เตรียมมาแทบไม่เหลือ จึงเดินตัดสันเขาลงลำห้วย แต่นายพันธ์ศักดิ์บ่นว่าปวดหัว ก่อนจะพบหมดสติ จึงพยายามช่วยเหลือแต่ไม่สามารถยื้อไว้ได้
หลังติดต่อหน่วยได้ ทีมช่วยเหลือเดินเท้าถึงจุดเกิดเหตุราวเที่ยงคืน ใช้ผ้าห่อร่างใช้ไม้หามออกมาจากป่าราวตี 2 ลัดเลาะตามดอยสูงจนนำร่างออกมาได้สำเร็จ
โดยร่างของพันธ์ศักดิ์นำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดในหมู่บ้านนากอก อำเภอบ่อเกลือ ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัว เพราะนายพันธ์ศักดิ์เป็นเสาหลักในการดูแลแม่ ที่ผ่านมาทราบเพียงว่านายพันธ์ศักดิ์ป่วยเป็นดีซ่าน แต่อาการไม่รุนแรง จนกระทั่งมาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน
นับเป็นความสูญเสียแรกในฤดูกาลไฟไหม้ป่าปีนี้ หลังจากก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าทั้งที่เชียงใหม่ แม่จริม น่าน และแม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน ที่บาดเจ็บไปแล้ว 3 ราย ทั้งสำลักควัน ฮีตสโตรก และเส้นเลือดในสมองแตก ในขณะที่ยังต้องสู้กับไฟไหม้ป่าไปอีกหลายเดือน.-สำนักข่าวไทย