fbpx

“น้องตาล” เข้าพบตำรวจ ยันไม่รู้เห็นกับคดี

สมุทรปราการ 27 ก.พ. – คดีฆ่าหมกศพ “ชายไต้หวัน” ที่สุวรรณภูมิ ล่าสุด “น้องตาล” หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ถูกส่งตัวจากกัมพูชามาให้ปากคำที่ไทยแล้ว ยันไม่รู้เห็นเหตุฆาตกรรม


ความคืบหน้ากรณีพบศพนาย ชิ โหมว เชียง ชายชาวไต้หวัน ถูกฆ่าโหด นำศพไปทิ้งบริเวณอาคารร้าง ริมถนนสุวรรณภูมิ สาย 4 พื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยถูกอุ้มฆ่า โดยชาวไต้หวัน 4 คน ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดพบชาวไต้หวันทั้ง 4 คน ได้หลบหนีหลังก่อเหตุ โดยใช้ยานพาหนะเป็นรถเก๋ง ยี่ห้อมาสด้า สีแดง ก่อนจะเหมารถตู้ไปยังชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมกับหญิงไทย 1 คน

กระทั่งพบว่าทั้งหมดเดินทางออกนอกประเทศทางด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ไปยังฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ช่วงเย็นวันเดียวกัน โดยในจำนวนนี้ 3 คน เชื่อว่ายังกบดานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนอีก 1 คน ได้เดินทางต่อไปยังไต้หวันแล้ว ตำรวจอยู่ระหว่างประสานทางการไต้หวันติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนผู้ที่ให้การช่วยเหลืออีก 1 คน ที่ทำหน้าที่ขับรถตู้รับจ้างรับกลุ่มผู้ต้องหาไปส่งที่ชายแดน ก็สามารถควบคุมตัวได้แล้วเช่นกัน โดยอยู่ระหว่างสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง เบื้องต้นเจ้าตัวอ้างว่าเพียงไปรับ และส่งที่ชายแดนเท่านั้น


ล่าสุด เมื่อเวลา 16.15 น. ที่สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และฝ่ายสืบสวนของ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คุมตัว นางสาวปียานุช อายุ 22 ปี หรือตาล หญิงไทยที่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตน และร่วมกันปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ และหลบหนีออกนอกประเทศไปพร้อมกับผู้ต้องหาชาวใต้หวันอีก 4 คน ซึ่งตำรวจไทยได้ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับผู้ต้องหาข้ามชาติไปยังตำรวจของกัมพูชา จนสามารถตามจับกุมตัวนางสาวปียานุช ได้แถวกาสิโนฝั่งปอยเปต ก่อนจะคุมตัวส่งให้กับทางตำรวจไทยนำตัวมาสอบปากคำเบื้องต้น และคุมตัวมาสอบขยายผลที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

โดยนางสาวปียานุช เปิดใจว่า ตนเองไม่รู้เห็นเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมชาวไต้หวัน คืนวันเกิดเหตุตนนอนพักอยู่บนชั้น 3 ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ ย่านซอยลาดปลาเค้า กรุงเทพมหานคร และเป็นจุดสังหาร ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในบ้าน แต่ตนเองไม่กล้าลงมาดู หลังเกิดเหตุ แฟนชาวไต้หวันของตน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนี บอกให้เก็บเสื้อผ้า เพื่อเตรียมตัวหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จึงทราบว่าน่าจะเกิดเรื่อง ด้วยความกลัวจึงเดินทางตามไปด้วย ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องชู้สาว และตนเองก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้ตาย ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นเรื่องขัดแย้งธุรกิจ แต่เป็นธุรกิจคอลเซ็นเตอร์หรืออะไรนั้น ตนเองไม่รู้ลึกเกี่ยวกับธุรกิจที่เค้าทำอยู่

นางสาวปียานุช ยอมรับว่า นายหวัง คง เตง อายุ 42 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่หลบหนี เป็นคนขับรถคันแดงนำศพออกจากบ้านพักไป ซึ่งสอดคล้องกับภาพกล้องวงจรปิดที่ริมถนนพัฒนาชนบท 3 ที่พบชายผู้ต้องหาสองคนทิ้งรถเดินเท้าออกมาเรียกแท็กซี่กลับไปที่บ้านเกิดเหตุ


ส่วนอีกคนที่นั่งมาในรถคือ นาย ริน ควร ยุ่น อายุ 26 ปี และเป็นชายเสื้อดำที่ปรากฏในร้านสะดวกซื้อที่ลงไปซื้อน้ำยากำจัดกลิ่นและคราบ และ นายริน ควร ยุ่น อายุ 26 ปี เป็นคนเดียวกันที่ขับรถเก๋งยาริสสีขาวมาจากพัทยาพร้อมกับคนตาย

ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือชาวไต้หวันอีก 3 คน คือ 1. นาย ริน ควร ยุ่น อายุ 26 ปี ยังหลบหนีในกรุงพนมเปญ 2.นาย โฉ ยู่ ฟาย อายุ 25 ปี คนนี้หลบหนีจากกัมพูชากลับไปยังใต้หวันแล้ว 3.นาย สู่ ฟง หยอน อายุ 33 ปี และ 4.นายหวัง คง เต่ง อายุ 42 ปี คือแฟนของนางสาวปียานุช ยังคงหลบหนีอยู่ในประเทศกัมพูชา

นอกจากนี้ หลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจพบ กล่องใส่อาวุธปืนในรถเก๋งมาสด้า สีแดง รถที่ผู้ก่อเหตุใช้ในการนำศพไปทิ้งอำพราง ซึ่งปรากฏเลขทะเบียนปืน และทราบว่า นายธนพล คือผู้ครอบครอง ในวันนี้นายธนพล อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของปืน ได้เดินทางมาให้ข้อมูล และแสดงความบริสุทธิ์ใจ ที่สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังทราบว่า ปืนแบบออโตเมติก .45 กระบอกนี้ เกี่ยวข้องกับคดี โดยเจ้าตัวบอกว่า ขายปืนกระบอกนี้ ให้กับร้านจำหน่ายปืนแห่งหนึ่ง ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ในราคา 40,000 บาท โดยมีการซื้อ-ขาย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย กระทั่งมีตำรวจติดต่อมาว่า ปืนกระบอกนี้เป็นปืนที่ใช้สังหารชายชาวไต้หวัน พร้อมย้ำว่าไม่มีความหนักใจ เนื่องจากยืนยันว่า ซื้อ-ขายถูกต้อง และไม่เกี่ยวข้องกับคดี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ข่าวแนะนำ

Made in Thailand แดนไทยเท่ : ภูเก็ตฟิตเนสมวยไทยซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์

ช่วง Made in Thailand แดนไทยเท่ วันนี้ จะพาไปที่จังหวัดภูเก็ต ที่นั่นมวยไทยไม่ได้เป็นแค่ศิลปะการต่อสู้เพื่อป้องกันตัว แต่ภูเก็ตยังเป็นแหล่งรวบรวมฟิตเนสมวยไทย ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ไปต่อยมวยเพื่อออกกำลังกาย จนทำให้มวยไทยกลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ส่งออกไปไกลทั่วโลก

ถกประเด็น กกต. กำหนดกรอบ สว. ห้ามหาเสียง ?

27 เม.ย. – คุยกับนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ประเด็นที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ออกคำสั่งเด็ดขาดให้ยกเลิกและยุติแคมเปญชักชวนคนมาสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภา ชี้ผิดกฎหมาย รวมถึงการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ก็เป็นที่วิจารณ์อย่างกว้างขวาง .-สำนักข่าวไทย

ทหารอเมริกันยกพลเที่ยวเมืองพัทยาเงินสะพัด

พัทยาช่วงนี้คึกคัก เพราะทหารอเมริกันยกพลขึ้นบก บุกพัทยากว่า 6,000 คน ผู้ประกอบการยิ้มรับ คาดเงินสะพัดจำนวนมาก

จนท.นำหุ่นยนต์ 4 ขา ช่วยตรวจจับความร้อน

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย จ.ระยอง ก่อนที่ นายกฯ จะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนยังคงระดมกำลังหล่อเย็นพื้นที่โรงงาน ด้านตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นำหุ่นยนต์โรบอท 4 ขา ช่วยตรวจจับสัญญาณความร้อน