บุรีรัมย์ 21 ก.พ. – สลด หนุ่มบุรีรัมย์วัย 47 ปี เครียดถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกดูดเงินเก็บทั้งชีวิต 4 แสน ผูกคอลาโลก แม่วอนเร่งล่าตัวดำเนินคดี
ครอบครัวและญาติ นำศพของ นายวีราพัชร์ อายุ 47 ปี หนุ่มอาชีพรับจ้างทั่วไป มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดปานใจนาราม อ.ละหานทราย หลังจากพบศพผูกคอเสียชีวิต บนต้นมะขามบริเวณหลังบ้านเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา
นายวีราพัชร์ ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเพราะเครียด หลังจากถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาแอบอ้างว่า เป็นตำรวจ สภ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน แล้วหลอกว่านายวีราพัชร์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ต้องโอนย้ายเงินในบัญชีทั้งหมดที่มีไปอีกธนาคาร แล้วหลอกล่อให้ทำแอปพลิเคชันธนาคารในมือถือ ก่อนจะใช้กลอุบายหลอกดูดเงินในบัญชีที่ผู้ตายเก็บสะสมมาทั้งชีวิตจำนวน 400,000 บาท เพื่อจะเก็บไว้ใช้เลี้ยงดูแม่วัยชราและส่งเสียลูกเรียนหมดเกลี้ยง
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบมือถือของผู้ตาย พบว่ามีข้อความการสนทนาผ่านไลน์ กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.66 ทั้งยังมีการส่งข้อความข่มขู่ด้วยว่า “หากคิดจะหลบหนีหรือบ่ายเบี่ยงจะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปคุมตัว ผมช่วยอะไรไม่ได้” ทำให้ผู้ตายกลัวและหลงเชื่อทำตามที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกทุกอย่าง
กระทั่งเวลา 10.48 น. วันที่ 29 พ.ย.66 พบมีข้อความแจ้งเตือนว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีจำนวน 400,000 บาท คงเหลือเงินในบัญชีเพียง 98.64 บาท พอผู้ตายรู้ตัวว่าหลงกลแก๊งคอลเซ็นเตอร์จนสูญเงินที่เก็บมาทั้งชีวิตหมดเกลี้ยง ก็เกิดความเครียดมาตลอด จนสุดท้ายจึงตัดสินใจผูกคอเสียชีวิต
นางคืน อายุ 76 ปี แม่ของผู้ตาย เล่าว่า เวลาลูกรับโทรศัพท์จะไม่คุยให้แม่ได้ยิน ชอบไปคุยบนบ้านคนเดียว กระทั่งรู้ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกดูดเงินค่อยมาระบายให้แม่ฟัง แล้วก็เกิดความเครียดมาตลอด เพราะเงินที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ดูดเอาไป เป็นเงินเก็บสะสมมาทั้งชีวิต ทั้งส่วนของแม่และของลูกชายเอง แต่ตนให้ลูกเป็นคนเก็บไว้ในบัญชีของลูก ไม่คิดว่าลูกจะหลงเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถูกดูดเงินจนหมดเกลี้ยง ก็พยายามปลอบลูกว่าหมดแล้วก็ตั้งใจทำงานหาใหม่ แต่ไม่คิดว่าลูกจะเครียดถึงขั้นคิดสั้น ก็อยากฝากถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้เอาเงินมาคืน พร้อมวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับใครอีก .-สำนักข่าวไทย