พัทยา 20 ก.พ. – คดีสาวชาวจีนวัย 29 ปี เข้าแจ้งความ ถูกชายไทยลวงไปข่มขืนในป่า แต่ไม่สำเร็จ ซ้ำพยายามฆ่าเผาปิดปาก เมื่อวานคาดไม่ใช่เรื่องจริง แต่วันนี้ตำรวจตรวจวงจรปิด มั่นใจคดีมีมูล และได้เบาะแสชายไทยรายนี้แล้ว
ช่วงเช้าวันนี้ (20 ก.พ.) พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภาค 2 เรียกหัวหน้าชุดทำงาน ประกอบด้วย สืบสวนภาค 2 สืบสวน จ.ชลบุรี และสืบสวน สภ.หนองปรือ เพื่อสรุปข้อมูลในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ และวางแนวทางในการลงพื้นที่ เพื่อเร่งติดตามคลี่คลายและจับกุมคนร้ายรายนี้ให้เร็วที่สุด พร้อมไล่กล้องวงจรปิด และสืบสวนหาข้อมูลคนร้าย รถจักรยานยนต์ที่ใช่ก่อเหตุ คาดว่าเป็นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟิน สีเทา ซึ่งถึงวันนี้มีรายละเอียดและข้อมูลด้านคดีคืบหน้าพอสมควร
กรณีนี้ นักท่องเที่ยวสาวชาวจีน นางสาวเหมยหลิน (นามสมมติ) อายุ 29 ปี อัดคลิปขณะที่นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์รับจ้าง มีการพูดคุยกับปลายสายเป็นภาษาจีน แปลเป็นไทยได้ว่า “ช่วยส่งโลเคชั่นของเธอมาให้ฉันทีเพราะตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันอยู่ตรงไหน แถวโรงแรมฉันหารถไม่ได้เลย แถวนี้ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตด้วย ฉันเจอรถของคนในพื้นที่ เธอจะต้องแปลกใจแน่ เมื่อเราไปถึงโรงแรม” ซึ่งขณะนั้น นางสาวเหมยหลินอยู่บนเส้นทางสายห้วยใหญ่ มุ่งหน้าไปทางถนนสุขุมวิท จ.ชลบุรี
คลิปนี้เกิดขึ้นหลังจากผู้เสียหาย อ้างว่า ถูกหนุ่มไทยลวงไปข่มขืนในป่าแต่ไม่สำเร็จ และหวังฆ่าเผาตัวเพื่อปิดปากด้วย แล้วก่อนจะหนีไป ยังชิงเงินสด 15,000 หยวน (หรือประมาณ 74,936 บาท) และเงินบาทไทย อีก 10,000 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 85,000 บาท เมื่อกลางดึกของวันที่ 18 ก.พ.
หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความตำรวจภูธรหนองปรือ พอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหาหลักฐาน พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งใกล้กับถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 2081 ต.โป่ง อ.บางละมุง ลักษณะเป็นป่าหญ้าติดกับไร่มันสำปะหลัง ห่างจากถนนเข้าไปประมาณ 400 เมตร โดยรอบๆ ไม่มีไฟส่องสว่าง และพบร่องรอยป่าหญ้าถูกไฟไหม้เป็นวงกว้างกว่า 70-80 เมตร ซึ่งตรงกับที่ผู้เสียหายอ้าง
ตำรวจได้เชิญตัว นายใหม่ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง และเป็นคนพาน้องชายของผู้เสียหายไปส่งที่พัทยา มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งนายใหม่พูดกับผู้สื่อข่าวด้วยอาการฉุนเฉียวว่า “ไม่อยากเป็นข่าว กลัวพ่อแม่เครียด และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้”
พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภาค 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นจริง เนื่องจากตอนนี้ได้ข้อมูลของตัวคนร้ายมาบางส่วนแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันที่รับ ผู้เสียหาย และน้องชาย .-สำนักข่าวไทย