ฟังอีกมุมหนุ่มวัย 16 เตะก้านคอโจ๋ต่างหมู่บ้าน

อุดรธานี 16 ก.พ. – ปัญหาวุ่นๆ ของวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน ทำผู้ใหญ่ 2 หมู่บ้าน ในอุดรธานี ต้องนัดเคลียร์ใจ หวั่นปัญหาบานปลายจนชาวบ้านเดือดร้อน


ภาพจะเห็นกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 11-16 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เบิ้ลเครื่องเสียงดังวิ่งด้วยความเร็วอยู่บนถนนเส้นหนึ่งใน อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี สร้างความเดือดร้อนและหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก เพราะกลุ่มวัยรุ่นมีอาวุธปืน ระเบิด มีด ขี่รถจักรยานยนต์มาป่วนหมู่บ้าเป็นขบวนทั้งตอนเย็น-กลางคืน ลากมีดตามถนน ยิงปืนขึ้นฟ้า ปาระเบิด เดือนที่ผ่านมามีวัยรุ่นในหมู่บ้านถูกยิงได้รับบาดเจ็บและลูกกระสุนฝังในยังเอาออกไม่ได้ ล่าสุดมีเหตุชก “หมูหยอง” อายุ 15 ปี ซึ่งตามข่าวบอกว่ากำลังจะไปตัดผมแล้วไปเจอวัยรุ่นกลุ่มนี้เข้า พูดจาหาเรื่อง บอกว่า “อยากชกเฉยๆ เพราะหล่อเกินหน้าเกินตาพวกตน เหม็นขี้หน้าโว้ย” ก่อนชกจนสลบคาเท้า โชคดีมีเพื่อนผ่านมาเห็นพอดีจึงพาส่งโรงพยาบาล อาการบาดเจ็บใบหน้าปูดบวม เท้าขวาเป็นแผลเห็นแต่กระดูก และไม่ได้สติอยู่ 2 วัน

ความคืบหน้าวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านผู้บาดเจ็บอีกครั้ง พบกับแม่ของหมูหยอง ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มเพื่อนของหมูหยอง สอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยหมูหยองยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชบ้านดุง รักษาอาการบาดเจ็บที่เท้าและหมอให้นอนโรงพยาบาล เช็กอาการสมองว่ากระทบกระเทือนมากน้อยแค่ไหน


นายพิเชษฐ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านนาเจริญ ต.บ้านจันทน์ เปิดเผยว่า กลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นเคยมาก่อความวุ่นวายในพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลงานบุญจะนัดแนะกันมาไล่ตีกัน ทั้งในงานหรือช่วงเลิก แม้เจ้าหน้าที่จะป้องกันความปลอดภัย ปมปัญหาส่วนใหญ่เรื่องผู้หญิง กรณีล่าสุดตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่จากการบอกเล่าทราบว่ามีการยิงปืนและขับรถไล่กัน จากนั้นไปทะเลาะวิวาทกันที่ฝ่ายน้ำล้น รอยต่อบ้านหนองกล้ากับบ้านเหล่า อ.บ้านดุง

ล่าสุดตำรวจลงพื้นที่มาสอบถามข้อมูลกับทางชาวบ้านแล้ว กรณีของนายหมูหยองถูกทำร้ายกับกลุ่มโจ๋อายุยังน้อย ขี่รถจักรยานยนต์ลากมีดป่วนหมู่บ้าน เป็นคนละเรื่องกัน วัยรุ่นมีหลายกลุ่ม และอยากจะท้าชกต่อยกับวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน

ด้านนายเวียร์ และนายปาย อายุ 15 ปี เพื่อนของนายหมูหยอง บอกว่า วันเกิดเหตุหมูหยองมาชวนไปเป็นเพื่อนตัดผม พอตัดเสร็จก็ชวนออกไปนั่งเล่นที่ฝายน้ำล้น พอไปถึงมีการทะเลาะวิวาทกัน ส่วนปมเหตุนั้นไม่รู้ว่าทำไมถึงตีกัน ตอนตีเห็นเขาพูดว่าขอเดี่ยว มาเห็นอีกพบว่านายหมูหยองสลบแล้ว จากนั้นพานายหมูหยองไปรักษาตัวที่ รพ.สต.บ้านหนองกา ส่วนกลุ่มของตนกับกลุ่มนั้นรู้จักกันมาก่อน แต่ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นนี้


ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับแม่ของน้องบาส ที่บ้านเหล่าผักไส่ ต.ห้วยหลัว อ.บ้านม่วง จ.อุดรธานี ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำสงคราม โดยมีนายบุญโฮม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านหนองกา เดินทางไปรับฟังข้อเท็จจริงด้วย

แม่ของน้องบาส เปิดเผยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น น้องหมูหยองมาหาเรื่องก่อน ต่างคนต่างทักมาท้าทายกัน จากนั้นฝั่งโน้นนัดกันไปท้าต่อยกันที่ฝ่ายน้ำล้น เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นหากจะถามว่าลูกตนเองผิดไหม ยอมรับว่าผิดที่ใช้กำลังแก้ไขปัญหา แต่ทางน้องหมูหยองเป็นคนท้าออกไปต่อย พร้อมนำหลักฐานเป็นแชทที่กลุ่มหมูหยองเป็นคนนัดน้องบาส ลูกชายของตนไปเดี่ยว และมีคลิปเสียงที่วัยรุ่นบ้านหนองกาโนนสิมกา ท้าให้มาชกต่อยกัน อ้างว่ามีหมูหยองเป็นลูกพี่ เรื่องที่เกิดขึ้นอยากขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวด้วย เพราะทางนายหมูหยองพูดไม่หมด อ้างว่าลูกชายเตะก้านคอเพราะหล่อเกิน ไม่ใช่แต่อย่างใด แต่เป็นฝั่งนายหมูหยองชวนมาท้าเดี่ยว แม่ไม่ได้ว่าลูกเป็นคนดี เขาก็มีเกเรบ้างตามประสาวัยรุ่น

ส่วนน้องบาส อายุ 16 ปี ที่เตะก้านคอหมูยองจนสลบ เปิดเผยว่า ตนกับนายหมูหยองมีเรื่องกันมาก่อน โดยนายหมูหยองมากดคอมเมนต์ขำหัวเราะในสตอรี่ทางเฟซบุ๊ก โต้กันไปมา จากนั้นนายหมูหยองท้าให้ออกมาเดี่ยวๆ กัน นายหมูหยองเป็นคนนัดต่อยเดี่ยวก่อนด้วย พอไปถึงเขาก็ถ่ายรูปมาให้ดูว่าถึงแล้ว เขามา 4 คน พวกตนก็ไป 4 คน พอไปถึงก็เดินเข้าหาตีกันเลย ระหว่างชุลมุน ตนโดนนายหมูหยองชกต่อยจนล้มเหมือนกัน พอตนลุกขึ้นได้ก็เตะก้านคอนายหมูหยอง สู้กันหมัดแลกหมัด และที่นายหมูหยองอ้างว่าตนเหม็นขี้หน้าเพราะหล่อเกิน ตนก็ไม่ได้พูด จริงๆ แล้วตนกับนายหมูหยองก็เป็นเพื่อนกัน แต่มีปัญหาตามประสาวัยรุ่น และมีปัญหากับวัยรุ่นในหมู่บ้านนั้น ใช่ว่าจะมีพวกตนไปกวนเขา เขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นสิบๆ คันถือมีด ถือไม้ มาป่วนที่หมู่บ้านตนเหมือนกัน

ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหมู่บ้านที่เดินทางมารับฟังด้วย พูดคุยไม่อยากให้มีเรื่องมีราวกัน และจะหาทางออกโดยจะให้แม่และนายบาส นายหมูหยอง และครอบครัว พูดคุยตกลงทำความเข้าใจ และจะได้ประชุมกับทางอำเภอ เพื่อหามาตรการในการป้องกันวัยรุ่นป่วนกันไปมาอีก เพราะห่วงชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้านถูกลูกหลงเจ็บหรือเสียชีวิตได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุวิภา ฝนตกหนักหลายพื้นที่

21 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนเช้าพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) ส่งผลไทยตอนบนฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าชายฝั่งเวียดนามเช้าวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณลุ่มน้ำโขงตอนบนของลาวและเวียดนาม ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมแรงหลายพื้นที่ 60 จังหวัดทั่วประเทศ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 2–4 เมตร อาจเกิน 4 เมตรในบางพื้นที่ เรือเล็กงดออกจากฝั่งเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 21–25 กรกฎาคมนี้ พร้อมยังจัดตั้งศูนย์ติดตามพิเศษ หรือ War Room ตั้งแต่วันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์แบบเรียลไทม์ และสื่อสารเตือนภัยต่อเนื่อง ตลอด […]

พบอีก 2 ทุ่นระเบิดสภาพใหม่ ในพื้นที่ช่องบก

กองทัพบก 21 ก.ค.-ทบ. เผยพบทุ่นระเบิดสภาพใหม่เพิ่มเติม จำนวน 2 ทุ่น ในพื้นที่ช่องบก ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิม ชี้ชัดขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ด้านกรมข่าวทหารบก เตรียมเชิญผู้ช่วยทูตทหารมารับทราบข้อเท็จจริง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี จนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ล่าสุดวานนี้ (20 ก.ค.68) กองกำลังสุรนารี และหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยผลจากการตรวจพื้นที่พบการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN2 ในสภาพใหม่พร้อมทำงาน จำนวน 2 ทุ่น ห่างจากหลุมระเบิดเดิม 30 เซนติเมตร โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 (นปท.3) ได้ทำการรื้อถอนทุ่นระเบิดที่ตรวจพบใหม่ออกแล้วทั้ง 2 ทุ่น การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน และแสดงถึงเจตนาในการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทั้งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล […]

“พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนเขมรป่วนปราสาทตาเมือนธม

ทำเนียบ 21 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนกัมพูชาป่วนปราสาทตาเมือนธมหลักพันคนวานนี้ ขอคนไทยเข้าใจ หากอ่อนหรือแข็งไป จะหาที่ลงไม่ได้ ทำ 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อน เผยมีมาตรการรับมือป่วนซ้ำ แต่ไม่ขอแจงรายละเอียด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศบ.ทก. ถึงกรณีกัมพูชาขนมวลชนมาป่วนที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า รัฐบาลกัมพูชาจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะมาเป็นหลักพันคน แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องแก้ไขทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนกัมพูชามาทำแบบเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยดูอยู่ทั้งหมด เราไม่อยากให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเครียด อยากจะบอกกับสื่อมวลชนว่าขณะนี้ประชาชนตามแนวชายแดน 7 จังหวัด เดือดร้อนมาก “เขากดดันผมว่า เมื่อไหร่จะจบเสียทีผมอยู่ตรงนี้ผมต้องรักษาบรรยากาศจะต้องไม่อ่อนแอหรือเข้มแข็งเกินไป จนหาที่ลงไม่ได้ ผมจะโดนทั้ง 2 ทาง ขณะนี้ พี่น้องอีก 70 จังหวัดก็จะมาด่าว่า ทำไมดูไม่เข้มแข็งเด็ดขาด เหมือนหมานำราชสีห์ แต่ไม่เคยสนใจ พี่น้อง 7 จังหวัดชายแดน ว่าเขาเดือดร้อนอย่างไร แต่ผมไม่อยากให้ ไปทำข่าวว่าพี่น้อง 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อนอย่างไร เพราะไม่อยากให้กัมพูชาทราบว่าของเราก็แย่อยู่ […]

ปปป.ประชุมสอบเส้นเงิน “ทิดสฤษดิ์” เอี่ยวทุจริตเงินวัด-เสพเมถุนหรือไม่

บก.ปปป. 21 ก.ค. – ผู้การ ปปป. เรียกประชุมชุดทำงาน ตรวจสอบเส้นเงิน “ทิดสฤษดิ์” เอี่ยวทุจริตเงินวัด-เสพเมถุนเศรษฐินีหรือไม่ ขณะเดียวกันยังแบ่งชุดสืบ ลงพื้นที่วัดนครสวรรค์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง ช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เรียกประชุมชุดทำงานคดี “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ที่ต้องสงสัยว่ามีสัมพันธ์กับเศรษฐีนีปากน้ำโพ อายุ 57 ปี และใช้ชีวิตอยู่กินด้วยกัน ส่งเสียเลี้ยงดูฉันผัวเมียมานานกว่า 15 ปี รวมไปถึงอยู่ระหว่างขยายผลและตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินวัดหรือไม่ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง โดยสาระสำคัญวันนี้ ทาง ปปป.ได้เรียกพนักงานสอบสวนประชุมเพื่อวางแนวทาง และกรอบการทำงานในกรณีของเส้นเงินเท่านั้น ส่วนเรื่องอื้อฉาวนั้น พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากได้เปิดศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย จึงได้มอบหมายให้ ปคม. เป็นเจ้าของคดีหลัก ให้ตรวจสอบถึงเรื่องราวทั้งหมดว่ามีสีกาเกี่ยวข้องกับทิดสฤษดิ์กี่คนและเข้ามามีสัมพันธ์ด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ ในฐานะอะไร ซึ่งคดีนี้เป็นเรื่องความผิดทางอาญา จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีการร่วมกันทุจริตจริงหรือไม่ จากนั้นทั้ง ปปป. และ ปคม.ก็จะเอาข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน […]