ฟังอีกมุมหนุ่มวัย 16 เตะก้านคอโจ๋ต่างหมู่บ้าน

อุดรธานี 16 ก.พ. – ปัญหาวุ่นๆ ของวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน ทำผู้ใหญ่ 2 หมู่บ้าน ในอุดรธานี ต้องนัดเคลียร์ใจ หวั่นปัญหาบานปลายจนชาวบ้านเดือดร้อน


ภาพจะเห็นกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 11-16 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เบิ้ลเครื่องเสียงดังวิ่งด้วยความเร็วอยู่บนถนนเส้นหนึ่งใน อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี สร้างความเดือดร้อนและหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก เพราะกลุ่มวัยรุ่นมีอาวุธปืน ระเบิด มีด ขี่รถจักรยานยนต์มาป่วนหมู่บ้าเป็นขบวนทั้งตอนเย็น-กลางคืน ลากมีดตามถนน ยิงปืนขึ้นฟ้า ปาระเบิด เดือนที่ผ่านมามีวัยรุ่นในหมู่บ้านถูกยิงได้รับบาดเจ็บและลูกกระสุนฝังในยังเอาออกไม่ได้ ล่าสุดมีเหตุชก “หมูหยอง” อายุ 15 ปี ซึ่งตามข่าวบอกว่ากำลังจะไปตัดผมแล้วไปเจอวัยรุ่นกลุ่มนี้เข้า พูดจาหาเรื่อง บอกว่า “อยากชกเฉยๆ เพราะหล่อเกินหน้าเกินตาพวกตน เหม็นขี้หน้าโว้ย” ก่อนชกจนสลบคาเท้า โชคดีมีเพื่อนผ่านมาเห็นพอดีจึงพาส่งโรงพยาบาล อาการบาดเจ็บใบหน้าปูดบวม เท้าขวาเป็นแผลเห็นแต่กระดูก และไม่ได้สติอยู่ 2 วัน

ความคืบหน้าวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านผู้บาดเจ็บอีกครั้ง พบกับแม่ของหมูหยอง ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มเพื่อนของหมูหยอง สอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยหมูหยองยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชบ้านดุง รักษาอาการบาดเจ็บที่เท้าและหมอให้นอนโรงพยาบาล เช็กอาการสมองว่ากระทบกระเทือนมากน้อยแค่ไหน


นายพิเชษฐ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านนาเจริญ ต.บ้านจันทน์ เปิดเผยว่า กลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นเคยมาก่อความวุ่นวายในพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลงานบุญจะนัดแนะกันมาไล่ตีกัน ทั้งในงานหรือช่วงเลิก แม้เจ้าหน้าที่จะป้องกันความปลอดภัย ปมปัญหาส่วนใหญ่เรื่องผู้หญิง กรณีล่าสุดตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่จากการบอกเล่าทราบว่ามีการยิงปืนและขับรถไล่กัน จากนั้นไปทะเลาะวิวาทกันที่ฝ่ายน้ำล้น รอยต่อบ้านหนองกล้ากับบ้านเหล่า อ.บ้านดุง

ล่าสุดตำรวจลงพื้นที่มาสอบถามข้อมูลกับทางชาวบ้านแล้ว กรณีของนายหมูหยองถูกทำร้ายกับกลุ่มโจ๋อายุยังน้อย ขี่รถจักรยานยนต์ลากมีดป่วนหมู่บ้าน เป็นคนละเรื่องกัน วัยรุ่นมีหลายกลุ่ม และอยากจะท้าชกต่อยกับวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน

ด้านนายเวียร์ และนายปาย อายุ 15 ปี เพื่อนของนายหมูหยอง บอกว่า วันเกิดเหตุหมูหยองมาชวนไปเป็นเพื่อนตัดผม พอตัดเสร็จก็ชวนออกไปนั่งเล่นที่ฝายน้ำล้น พอไปถึงมีการทะเลาะวิวาทกัน ส่วนปมเหตุนั้นไม่รู้ว่าทำไมถึงตีกัน ตอนตีเห็นเขาพูดว่าขอเดี่ยว มาเห็นอีกพบว่านายหมูหยองสลบแล้ว จากนั้นพานายหมูหยองไปรักษาตัวที่ รพ.สต.บ้านหนองกา ส่วนกลุ่มของตนกับกลุ่มนั้นรู้จักกันมาก่อน แต่ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นนี้


ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับแม่ของน้องบาส ที่บ้านเหล่าผักไส่ ต.ห้วยหลัว อ.บ้านม่วง จ.อุดรธานี ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำสงคราม โดยมีนายบุญโฮม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านหนองกา เดินทางไปรับฟังข้อเท็จจริงด้วย

แม่ของน้องบาส เปิดเผยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น น้องหมูหยองมาหาเรื่องก่อน ต่างคนต่างทักมาท้าทายกัน จากนั้นฝั่งโน้นนัดกันไปท้าต่อยกันที่ฝ่ายน้ำล้น เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นหากจะถามว่าลูกตนเองผิดไหม ยอมรับว่าผิดที่ใช้กำลังแก้ไขปัญหา แต่ทางน้องหมูหยองเป็นคนท้าออกไปต่อย พร้อมนำหลักฐานเป็นแชทที่กลุ่มหมูหยองเป็นคนนัดน้องบาส ลูกชายของตนไปเดี่ยว และมีคลิปเสียงที่วัยรุ่นบ้านหนองกาโนนสิมกา ท้าให้มาชกต่อยกัน อ้างว่ามีหมูหยองเป็นลูกพี่ เรื่องที่เกิดขึ้นอยากขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวด้วย เพราะทางนายหมูหยองพูดไม่หมด อ้างว่าลูกชายเตะก้านคอเพราะหล่อเกิน ไม่ใช่แต่อย่างใด แต่เป็นฝั่งนายหมูหยองชวนมาท้าเดี่ยว แม่ไม่ได้ว่าลูกเป็นคนดี เขาก็มีเกเรบ้างตามประสาวัยรุ่น

ส่วนน้องบาส อายุ 16 ปี ที่เตะก้านคอหมูยองจนสลบ เปิดเผยว่า ตนกับนายหมูหยองมีเรื่องกันมาก่อน โดยนายหมูหยองมากดคอมเมนต์ขำหัวเราะในสตอรี่ทางเฟซบุ๊ก โต้กันไปมา จากนั้นนายหมูหยองท้าให้ออกมาเดี่ยวๆ กัน นายหมูหยองเป็นคนนัดต่อยเดี่ยวก่อนด้วย พอไปถึงเขาก็ถ่ายรูปมาให้ดูว่าถึงแล้ว เขามา 4 คน พวกตนก็ไป 4 คน พอไปถึงก็เดินเข้าหาตีกันเลย ระหว่างชุลมุน ตนโดนนายหมูหยองชกต่อยจนล้มเหมือนกัน พอตนลุกขึ้นได้ก็เตะก้านคอนายหมูหยอง สู้กันหมัดแลกหมัด และที่นายหมูหยองอ้างว่าตนเหม็นขี้หน้าเพราะหล่อเกิน ตนก็ไม่ได้พูด จริงๆ แล้วตนกับนายหมูหยองก็เป็นเพื่อนกัน แต่มีปัญหาตามประสาวัยรุ่น และมีปัญหากับวัยรุ่นในหมู่บ้านนั้น ใช่ว่าจะมีพวกตนไปกวนเขา เขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นสิบๆ คันถือมีด ถือไม้ มาป่วนที่หมู่บ้านตนเหมือนกัน

ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหมู่บ้านที่เดินทางมารับฟังด้วย พูดคุยไม่อยากให้มีเรื่องมีราวกัน และจะหาทางออกโดยจะให้แม่และนายบาส นายหมูหยอง และครอบครัว พูดคุยตกลงทำความเข้าใจ และจะได้ประชุมกับทางอำเภอ เพื่อหามาตรการในการป้องกันวัยรุ่นป่วนกันไปมาอีก เพราะห่วงชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้านถูกลูกหลงเจ็บหรือเสียชีวิตได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]