ฟังอีกมุมหนุ่มวัย 16 เตะก้านคอโจ๋ต่างหมู่บ้าน

อุดรธานี 16 ก.พ. – ปัญหาวุ่นๆ ของวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน ทำผู้ใหญ่ 2 หมู่บ้าน ในอุดรธานี ต้องนัดเคลียร์ใจ หวั่นปัญหาบานปลายจนชาวบ้านเดือดร้อน


ภาพจะเห็นกลุ่มวัยรุ่นอายุระหว่าง 11-16 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เบิ้ลเครื่องเสียงดังวิ่งด้วยความเร็วอยู่บนถนนเส้นหนึ่งใน อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี สร้างความเดือดร้อนและหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก เพราะกลุ่มวัยรุ่นมีอาวุธปืน ระเบิด มีด ขี่รถจักรยานยนต์มาป่วนหมู่บ้าเป็นขบวนทั้งตอนเย็น-กลางคืน ลากมีดตามถนน ยิงปืนขึ้นฟ้า ปาระเบิด เดือนที่ผ่านมามีวัยรุ่นในหมู่บ้านถูกยิงได้รับบาดเจ็บและลูกกระสุนฝังในยังเอาออกไม่ได้ ล่าสุดมีเหตุชก “หมูหยอง” อายุ 15 ปี ซึ่งตามข่าวบอกว่ากำลังจะไปตัดผมแล้วไปเจอวัยรุ่นกลุ่มนี้เข้า พูดจาหาเรื่อง บอกว่า “อยากชกเฉยๆ เพราะหล่อเกินหน้าเกินตาพวกตน เหม็นขี้หน้าโว้ย” ก่อนชกจนสลบคาเท้า โชคดีมีเพื่อนผ่านมาเห็นพอดีจึงพาส่งโรงพยาบาล อาการบาดเจ็บใบหน้าปูดบวม เท้าขวาเป็นแผลเห็นแต่กระดูก และไม่ได้สติอยู่ 2 วัน

ความคืบหน้าวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านผู้บาดเจ็บอีกครั้ง พบกับแม่ของหมูหยอง ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มเพื่อนของหมูหยอง สอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยหมูหยองยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชบ้านดุง รักษาอาการบาดเจ็บที่เท้าและหมอให้นอนโรงพยาบาล เช็กอาการสมองว่ากระทบกระเทือนมากน้อยแค่ไหน


นายพิเชษฐ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านนาเจริญ ต.บ้านจันทน์ เปิดเผยว่า กลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นเคยมาก่อความวุ่นวายในพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลงานบุญจะนัดแนะกันมาไล่ตีกัน ทั้งในงานหรือช่วงเลิก แม้เจ้าหน้าที่จะป้องกันความปลอดภัย ปมปัญหาส่วนใหญ่เรื่องผู้หญิง กรณีล่าสุดตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่จากการบอกเล่าทราบว่ามีการยิงปืนและขับรถไล่กัน จากนั้นไปทะเลาะวิวาทกันที่ฝ่ายน้ำล้น รอยต่อบ้านหนองกล้ากับบ้านเหล่า อ.บ้านดุง

ล่าสุดตำรวจลงพื้นที่มาสอบถามข้อมูลกับทางชาวบ้านแล้ว กรณีของนายหมูหยองถูกทำร้ายกับกลุ่มโจ๋อายุยังน้อย ขี่รถจักรยานยนต์ลากมีดป่วนหมู่บ้าน เป็นคนละเรื่องกัน วัยรุ่นมีหลายกลุ่ม และอยากจะท้าชกต่อยกับวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน

ด้านนายเวียร์ และนายปาย อายุ 15 ปี เพื่อนของนายหมูหยอง บอกว่า วันเกิดเหตุหมูหยองมาชวนไปเป็นเพื่อนตัดผม พอตัดเสร็จก็ชวนออกไปนั่งเล่นที่ฝายน้ำล้น พอไปถึงมีการทะเลาะวิวาทกัน ส่วนปมเหตุนั้นไม่รู้ว่าทำไมถึงตีกัน ตอนตีเห็นเขาพูดว่าขอเดี่ยว มาเห็นอีกพบว่านายหมูหยองสลบแล้ว จากนั้นพานายหมูหยองไปรักษาตัวที่ รพ.สต.บ้านหนองกา ส่วนกลุ่มของตนกับกลุ่มนั้นรู้จักกันมาก่อน แต่ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นนี้


ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับแม่ของน้องบาส ที่บ้านเหล่าผักไส่ ต.ห้วยหลัว อ.บ้านม่วง จ.อุดรธานี ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำสงคราม โดยมีนายบุญโฮม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านหนองกา เดินทางไปรับฟังข้อเท็จจริงด้วย

แม่ของน้องบาส เปิดเผยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น น้องหมูหยองมาหาเรื่องก่อน ต่างคนต่างทักมาท้าทายกัน จากนั้นฝั่งโน้นนัดกันไปท้าต่อยกันที่ฝ่ายน้ำล้น เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นหากจะถามว่าลูกตนเองผิดไหม ยอมรับว่าผิดที่ใช้กำลังแก้ไขปัญหา แต่ทางน้องหมูหยองเป็นคนท้าออกไปต่อย พร้อมนำหลักฐานเป็นแชทที่กลุ่มหมูหยองเป็นคนนัดน้องบาส ลูกชายของตนไปเดี่ยว และมีคลิปเสียงที่วัยรุ่นบ้านหนองกาโนนสิมกา ท้าให้มาชกต่อยกัน อ้างว่ามีหมูหยองเป็นลูกพี่ เรื่องที่เกิดขึ้นอยากขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวด้วย เพราะทางนายหมูหยองพูดไม่หมด อ้างว่าลูกชายเตะก้านคอเพราะหล่อเกิน ไม่ใช่แต่อย่างใด แต่เป็นฝั่งนายหมูหยองชวนมาท้าเดี่ยว แม่ไม่ได้ว่าลูกเป็นคนดี เขาก็มีเกเรบ้างตามประสาวัยรุ่น

ส่วนน้องบาส อายุ 16 ปี ที่เตะก้านคอหมูยองจนสลบ เปิดเผยว่า ตนกับนายหมูหยองมีเรื่องกันมาก่อน โดยนายหมูหยองมากดคอมเมนต์ขำหัวเราะในสตอรี่ทางเฟซบุ๊ก โต้กันไปมา จากนั้นนายหมูหยองท้าให้ออกมาเดี่ยวๆ กัน นายหมูหยองเป็นคนนัดต่อยเดี่ยวก่อนด้วย พอไปถึงเขาก็ถ่ายรูปมาให้ดูว่าถึงแล้ว เขามา 4 คน พวกตนก็ไป 4 คน พอไปถึงก็เดินเข้าหาตีกันเลย ระหว่างชุลมุน ตนโดนนายหมูหยองชกต่อยจนล้มเหมือนกัน พอตนลุกขึ้นได้ก็เตะก้านคอนายหมูหยอง สู้กันหมัดแลกหมัด และที่นายหมูหยองอ้างว่าตนเหม็นขี้หน้าเพราะหล่อเกิน ตนก็ไม่ได้พูด จริงๆ แล้วตนกับนายหมูหยองก็เป็นเพื่อนกัน แต่มีปัญหาตามประสาวัยรุ่น และมีปัญหากับวัยรุ่นในหมู่บ้านนั้น ใช่ว่าจะมีพวกตนไปกวนเขา เขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นสิบๆ คันถือมีด ถือไม้ มาป่วนที่หมู่บ้านตนเหมือนกัน

ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหมู่บ้านที่เดินทางมารับฟังด้วย พูดคุยไม่อยากให้มีเรื่องมีราวกัน และจะหาทางออกโดยจะให้แม่และนายบาส นายหมูหยอง และครอบครัว พูดคุยตกลงทำความเข้าใจ และจะได้ประชุมกับทางอำเภอ เพื่อหามาตรการในการป้องกันวัยรุ่นป่วนกันไปมาอีก เพราะห่วงชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้านถูกลูกหลงเจ็บหรือเสียชีวิตได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

แก๊งมอดไม้เหิม! โค่นป่า 40 ไร่ “เขาชะเมา” เหลือแต่ตอ

ระยอง 3 มิ.ย.- แก๊งมอดไม้เหิมเกริม ลักลอบโค่นป่าเกือบ 40 ไร่ กลางเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขาชะเมา จ.ระยอง เหลือแต่ตอไม้ ชาวบ้านโวยไร้เจ้าหน้าที่ดูแล ผู้สื่อข่าวรับร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พิกัด ม.3 บ้านเขาพัง ถนนเขาชะเมา-แก่งหางแมว ช่วงหลัก รย.4060 กม.ที่ 8 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบภาพชวนสะเทือนใจ พื้นที่กว่า 37-40 ไร่ถูกโค่นต้นไม้จนโล่งเตียนเหลือเพียงตอไม้เบญจพรรณ ต้นยางพาราถูกโค่นราบเป็นหน้ากลอง พื้นที่กลายเป็น “เขาหัวโล้น” ไร้เงาไม้ยืนต้น ด้าน นายบุญธรรม ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า พื้นที่ทั้งหมดในหมู่บ้านรวมถึงจุดที่เกิดเหตุอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามระเบียบให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ทำกินได้ ห้ามแพ้วถาง ตัดไม้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 ระยอง 1 (รย.1) สังกัดกรมป่าไม้ ซึ่งรับผิดชอบดูแลป่าทั่วทั้ง อ.เขาชะเมาและอ.แกลง ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ […]

ชาวบ้านให้กำลังใจทหาร เชื่อพื้นที่อ้างสิทธิเป็นของไทย

อุบลราชธานี 3 มิ.ย.- ชาวบ้านแปดอุ้ม ยอมรับกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย นางดำ วัย 66 ปี ชาวบ้านแปดอุ้ม ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ยอมรับตอนนี้ครอบครัวอยู่อย่างกังวลกับสถานการณ์ แต่ยังอุ่นใจที่ทหารเข้ามาในพื้นที่ปกป้องรักษาอธิปไตยไทย พร้อมเล่าอีกว่าเมื่อก่อนเคยขึ้นไปด้านบน เห็นคูเลตของกัมพูชาขยับเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่แนวเขตแบ่งตามแนวสันปันน้ำไทย-กัมพูชา ส่วนจุดปะทะล่าสุดยืนยันว่าเป็นของไทย ชาวบ้านรู้กันตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นทวดทำเกษตรทำไร่บริเวณนั้น ตนเองก็เคยขึ้นไปทำไร่กันสนุกสนานในพื้นที่นั้นจนถึงเนิน 500 นางดำ ยังเล่าต่อไปว่า เดิมทีหมู่บ้านแปดอุ้ม ไม่ได้อยู่ด้านล่าง แต่อยู่บนเขา ใกล้จุดปะทะ แต่ในปี 2520 คอมมิวนิสต์เวียดนามและเขมรแดงเป็นพันธมิตรกันสู้รบกับรัฐบาลกัมพูชา ทางเขมรแดงได้เข้ามาต้อนชาวบ้านแปดอุ้มไปเป็นทหาร ส่วนบ้านแปดอุ้มปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่ทางการไทยจัดสรรให้ชาวบ้านใหม่ในปี 2522 โดยให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านบนลงมาอยู่ด้านล่าง ด้านนายทอน อายุ 86 ปี ชาวบ้านแปดอุ้มอีกคน บอกว่า ติดตามข่าวสารทางทหาร ทราบข่าวลือของแม่ทัพภาคที่ 2 จึงอยากให้กำลังใจทหาร ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาลูกหลานทหารไทย .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ​ชี้​ต้องยึดสันติวิธี ปมไทย-กัมพูชา

สนามหลวง 3 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ​ชี้​ปมไทย-กัมพูชา ต้องยึดสันติวิธี หลีกเลี่ยงความรุนแรง​ คำนึงถึงชีวิต-​ความสูญเสีย ขณะที่ทหารพร้อมยึดมั่นรักษาอธิปไตย ส่วนกัมพูชาเตรียมนำเรื่องขึ้นศาลโลก ให้เป็นเรื่องของการเจรจา ย้ำ​ใช้สงคราม​เป็นมาตรการสุด​ท้าย นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง จุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่า​ ตนได้บอกไปหลายครั้งแล้ว คือยึดมั่นแนวทางแก้ไขแบบสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง และยึดมั่นในการรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเราได้พยายามแสดงจุดยืนเหล่านี้ และพยายามหาช่องทางในการเจรจา เพื่อหาทางยุติได้อย่างสงบ ขณะเดียวกันเราก็ไม่ประมาท มีการประสานงานกันอย่างทั่วถึงตลอดเวลากับทางกองทัพ กองทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก​ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งที่เราทำขณะนี้ในแง่ของกองทัพ เราเตรียมความพร้อม เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ เท่าที่ตรวจดูในรายละเอียดต่างๆ มีการวางกำลังที่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้โดยมั่นใจ และกองทัพก็ได้มีการเตรียมการอย่างเหมาะสม ไม่มีความบกพร่อง ส่วนเรื่องของการเจรจา​ นายภูมิธรรม​ ยืนยันว่า​ เราได้มีการพูดคุยกันมาตลอด ทั้งกระทรวงกลาโหม​ กองทัพ​ และกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสิ่งที่เราอยากจะแก้ไขปัญหา ต้องคุยกันภายในให้เป็นเอกภาพ เมื่อวานนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทั้งวัน “สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะใช้มาตรการในการใช้ความรุนแรง หรือสงคราม จะเป็นมาตรการสุดท้าย […]

South Korea's presidential election voting place

เกาหลีใต้เลือกตั้ง ปธน.หลังการเมืองวุ่นหลายเดือน

โซล 3 มิ.ย.- ชาวเกาหลีใต้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้ หลังจากการเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 44.39 ล้านคน ในเกาหลีใต้เริ่มออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ทั่วประเทศในวันนี้ ที่เปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ส่งกำลังตำรวจทั้งหมด 28,590 นายไปประจำการตามคูหาเลือกตั้งทั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย การลงคะแนนจะเสร็จสิ้นในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะทราบผลเลือกตั้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังปิดหีบ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่แล้ว มีการจัดให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า มีผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนมากกว่า 15 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34.74 สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ตั้งแต่ปี 2557 การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ต้องจัดขึ้นก่อนกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2570 หลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนานหลายเดือน จากการที่นายยุน ซ็อก ยอล อดีตประธานาธิบดี ประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้เขาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงประชามติต่อการกระทำของนายยุน มากกว่าการชูนโยบายแข่งขันกันของผู้สมัครชิงตำแหน่ง […]