“กัน จอมพลัง” พาเด็ก 14 แจ้งความ ถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย

สมุทรปราการ 12 ก.พ. – “กัน จอมพลัง” พาเด็กชายวัย 14 ปี เข้าแจ้งความถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย ขณะที่พ่อเลี้ยงกับแม่ ออกมาโต้ บอกน้องป่วย ชอบทำร้ายตนเอง


ช่วงสายวันนี้ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พานายไก่ (นามสมุติ) อายุ 35 ปี และน้องพีม อายุ 14 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พ่อเลี้ยง หลังจากน้องพีม อ้างว่าถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายโดยการทารุณกรรม จนมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง เหตุเกิดที่บ้านพักหลังหนึ่ง ย่านซอยอุ่นอารีย์ อ.เมืองสมุทรปราการ

กัน จอมพลัง กล่าวว่า นายไก่ ได้แจ้งขอความช่วยเหลือมาทางตนว่า น้องพีม ลูกชายแท้ๆ วัย 14 ปี ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ จนน้องพีมทนไม่ไหว ต้องหนีออกจากบ้านพ่อเลี้ยง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองสมุทรปราการ เดินทางไปหานายไก่ พ่อแท้ๆ ที่ จ.สุรินทร์ ต่อมาหลังจากตนทราบเรื่องราว จึงเดินทางไป รับตัว น้องพีม โดยนายไก่ ได้ถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กระทั่งได้ทราบจากปากน้องพีมว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นเต็มตัวนั้น น้องพีมบอกว่า พ่อเลี้ยงเป็นคนลงมือ โดยวิธีการทารุณ เช่น ใช้ไฟแช็กรนที่อวัยวะเพศ ใช้บุหรี่จี้ ลงมือเตะต่อย ใช้ไมhกอล์ฟฟาด นอกจากนี้ยังบังคับให้กินอุจจาระแมวหมา และฉี่ของตนเอง รวมถึงใช้น้ำมันราด พ่อเลี้ยงกระทำกับน้องพีมมาต่อเนื่องตลอดระยะกว่า 1 ปี


หลังจากตนเองฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นการทำโทษเด็กที่โหดร้ายมาก ตนเองได้สอบถามน้องพีมอีกว่า ฟันหน้าหายไหน ถึง 2 ซี่ น้องบอกเคยถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายจนฟันโยก ก่อนที่พ่อเลี้ยงจะยื่นข้อเสนอว่าถ้าอยากให้หยุดทำต้องถอนฟันมาให้ 2 ซี่ ก่อนที่น้องจะพีมจะถอนฟันให้พ่อเลี้ยงเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน หลังจากพ่อแท้ๆเห็นว่าเรื่องนี้ควรจะยุติสักที และอยากให้ลูก มีชีวิตที่ปลอดภัย จึงร้องมาหาตน เพื่อให้พาเข้าพบตำรวจ ให้ดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยงรายนี้ให้ถึงที่สุด

นายไก่กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์เหล่านี้ ตนเคยเป็นข่าวมาแล้ว เมื่อปี 62 ก่อนที่ตนเองจะเดินทางไปออกรายการต่างคนต่างคิด เพื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับลูก ซึ่งขณะนั้นพ่อเลี้ยงได้ออกมาโต้ว่า น้องพีมเป็นคนทำร้ายตัวเอง ต่อมาอดีตภรรยาได้แจ้งจับตน ขณะกำลังออกรายการอยู่ เนื่องจากตนเองมีหมายจับ ที่ จ.เชียงใหม่ ในคดีฉ้อโกง ก่อนที่ตำรวจคุมตัวไปฝากขัง ที่เรือนจำจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากวันนั้นตนก็ไม่ได้เจอลูกอีกเลย แต่ทราบเบื้องต้นว่าลูกชายอยู่ในความดูแลของกระทรวง พม. เมื่อพ้นโทษออกมาเมื่อปลายปี 66 จึงเดินทางไปบ้าน จ.สุรินทร์ กระทั่งวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา ลูกชายไปหาตน เห็นลูกมีบาดแผลเต็มตัว จึงได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ลูกเล่าว่าพ่อเลี้ยงทำร้ายทารุณ เพราะไม่พอใจตน และโกรธแค้นส่วนตัว

หลังจากนั้น นายเต้ พ่อเลี้ยง นางเอ แม่ และนางสาวแดง อายุ 94 ปี ย่าของน้องพีม หอบหลักฐานต่างๆ ทั้งรูปถ่าย ยารักษา และเอกสารการรักษาตัวของน้องพีม เดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ กับสื่อมวลชนว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แม่ของน้องพีมกล่าวว่า ลูกชายมีพฤติกรรมแปลกมาแต่อายุ 5 ขวบ ก่อนจะเริ่มรุนแรงขึ้น จนมาทำร้ายตัวเอง และยังทำลายข้าวของที่บ้าน


ต่อมาหลังจากเข้าไปเรียนที่โรงเรียน ก็ไม่สามารถที่จะปรับตัวอยู่กับเพื่อนๆ ได้ เพราะชอบไปรังแกเพื่อน ไปส่งที่โรงเรียนก็หนีออกมา และเคยไปรักษาตัวเกี่ยวกับอาการนี้ที่โรงพาบาลยุวประสาท แต่อาการไม่ดีขึ้น จนล่าสุดได้นำตัวไปรักษาที่บ้านราชาวดีชาย จ.นนทบุรี แต่ไปได้ไม่นานก็หนีออกมา และยังพาเพื่อนหนีมาอยู่ที่บ้านด้วยอีก 2 คน โดยน้องพีมจะชอบหนีออกจากบ้าน กลับมาจะมีบาดแผลติดตัวกลับมา ตนยืนยันว่าสามีไม่มีพฤติกรรมที่จะทำร้ายลูกเลี้ยงแต่อย่างใด

ขณะที่นายเต้ พ่อเลี้ยง กล่าวว่า สำหรับลูกเลี้ยง หลังจากมาอยู่กับตน ก็ชอบหนีออกจากบ้านไปหลายครั้งแล้วก่อนที่จะไปเร่ร่อนอยู่ในพื้นที่นครบาล หลังจากหายออกไปก็ไปขโมยของในร้านสะดวกซื้อ ไปคุ้ยขยะ ทุกครั้งตนเองต้องไปตามกลับมาและจะเห็นบาดแผลติดตัวกลับมาตลอด ล่าสุดก็หนีไปอยู่ที่วัดกลาง ย่าน อ.เมืองสมุทรปราการ ทั้งนี้ตนเองยืนยันว่าส่วนสาเหตุฟันหักนั้น มาจากน้องพีมถอนฟันตัวเอง ซึ่งช่วงที่ถอนย่าเองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ส่วนสาเหตุที่ถอน น้องพีมบอกว่าอยากเหมือนติ๊กต่อกเกอร์ “จ๊ะทิงจา” ทั้งนี้ตนเองยืนยันว่าไม่เคยทำร้ายน้องพีมแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า หลังจากได้พูดคุยกับทั้งสองฝ่ายแล้ว ยังให้การต่างกัน ตนเองยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่หลังจากนี้จะเชิญสหวิชาชีพเข้ามาร่วมสอบปากคำ น้องพีม ซึ่งยังเป็นเยาวชน เพื่อดำเนินการขั้นตอนของกฎหมายต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย