ชลบุรี 12 ก.พ.- อุทาหรณ์นักดื่ม! กลุ่มเพื่อนหวังดีอุ้มร่างเพื่อนเมาอ้วกแตกให้นอนบนรถ สตาร์ทเครื่อง-เปิดแอร์ จนน้ำมันหมด สุดท้ายเสียชีวิต
เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ถนนพัทยาสาย 3 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตำรวจพร้อมกู้ภัยรับแจ้งมีผู้เสียชีวิต จึงไปทำการตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์สีดำ สภาพรถจอดสงบนิ่ง กระจกด้านฝั่งคนขับมีการลดลงมาประมาณ 5 ซม. ในรถพบร่างนายณฐวัฒน์ อายุ 33 ปี นอนอยู่ฝั่งคนขับ เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตwม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง บริเวณริมฝีปากพบเศษอาหาร และมีเลือดไหลออกมาทางปากและจมูก พบกุญแจรถเสียบคาอยู่ เปิดสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ แต่เครื่องยนต์ไม่ทำงาน เนื่องจากน้ำมันหมด
พนักงานของร้าน เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ขณะที่กำลังมาเข้างานตามปกติ สังเกตเห็นรถคันดังกล่าวมาจอดตั้งแต่เมื่อคืน และมีคนนอนหลับอยู่ในรถ จึงเดินเข้ามาดูใกล้ๆ แต่พอชะโงกหน้ามองผ่านกระจก เห็นความผิดปกติ เพราะว่านอนนิ่งเหมือนไม่หายใจ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ ส่วนรถคันนี้ตนจำได้ว่า ผู้ตายมาเที่ยวกับเพื่อนที่ผับแห่งหนึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 100-200 เมตร จนกระทั่งช่วงประมาณตี 1 – ตี 2 ก็เห็นกลุ่มเพื่อนๆ ช่วยกันหิ้วปีกคนตาย กลับมาที่รถ ในสภาพเมาไม่มีสติ โดยกลุ่มเพื่อนๆ ได้อุ้มผู้ตายเข้าไปนอนบริเวณเบาะที่นั่งคนขับ ก่อนจะลดกระจกและสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์ทิ้งไว้ให้ จากนั้นกลุ่มเพื่อนๆ ก็พากันกลับไป โดยปล่อยให้ผู้ตายนอนอยู่ในรถตามลำพัง ก่อนจะมาพบว่าเสียชีวิต
พ่อของผู้ตายเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ เมื่อเห็นสภาพศพลูกชายก็โผเข้าสวมกอดร่ำไห้อย่างเศร้าเสียใจ พร้อมทั้งให้การกับตำรวจว่า ไม่เจอหน้าลูกชายตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา กระทั่งมีตำรวจโทร. ไปบอกว่าพบลูกชายเสียชีวิตอยู่บนรถ จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุที่ลูกชายเสียชีวิตไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุใด เพราะลูกชายเป็นคนแข็งแรง
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ก่อนที่จะเสียชีวิตน่าจะเข้าไปดื่มในผับแห่งหนึ่ง จนเกิดอาการเมาและอ้วก เพื่อนจึงช่วยกันอุ้มร่างมานอนในรถ พร้อมทั้งหวังดีสตาร์ทเครื่องยนต์ เปิดแอร์ทิ้งไว้ให้ผู้ตาย แต่ปรากฏว่าน้ำมันหมด ทำให้เครื่องยนต์ดับ ประกอบกับช่วงกลางวันที่ผ่านมาในเขตเมืองพัทยามีสภาพอากาศร้อนมาก อาจทำให้ผู้ตายหมดอากาศหายใจจนเสียชีวิตดังกล่าว ตำรวจจึงส่งศพไปทำการชันสูตรอย่างละเอียด ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง .-สำนักข่าวไทย