ลูกชายเสพยาหลอนคลั่งทำร้ายพ่อ

เพชรบูรณ์ 11 ก.พ.- ลูกชายเสพยาบ้า 10 เม็ด เกิดอาการหลอนคลุ้มคลั่ง อาละวาด ทำร้ายร่างกายพ่อและทำลายข้าวของภายในบ้านจนพังเสียหาย พ่อเผยไม่ติดใจเอาความลูก แค่อยากให้ลูกชายได้ถูกรักษา 


กลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มสัก ได้รับแจ้งว่ามีชายคุ้มคลั่งอาละวาด ทำร้ายร่างกายพ่อและทำลายข้าวของภายในบ้านจนพังเสียหาย ที่บ้านหลังหนึ่ง ต.บ้านโสก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หลังจากได้รับแจ้ง ตำรวจพร้อมด้วยกำลังจากอาสาสมัครร่วมกตัญญูหล่มสัก รวมกว่า 20 นาย เร่งรัดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้นำหมู่บ้านพร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุ โดยเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ผู้ก่อเหตุคือนายพันธมิตร  อายุ 29  ปี  ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง เอะอะโวยวาย อาละวาดพัง และทุบทำลายข้าวของ อยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสากู้ภัยจึงได้ทำการปิดล้อมและกระชับพื้นที่เข้าไปภายในบ้าน กระทั่ง นายพันธมิตร ได้หนีเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัย อาศัยจังหวะเข้าชาร์จจับกุมตัวไว้ได้โดยละม่อม จึงได้ทำการมัดตัว นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลหล่มสัก จากการตรวจสอบภายในบ้านพบว่าทรัพย์สิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี พัดลม และตัวบ้านถูกนายพันธมิตรทุบจนพังเสียหายยับเยิน กระจกหน้าบ้านแตก มีเศษกระจกเกลื่อนกลาด

นายแดง พ่อของผู้ก่อเหตุ เผยว่า บ้านหลังนี้ตนอาศัยอยู่กับลูกชาย แต่ที่ผ่านมาลูกชายมีพฤติกรรมเสพยาบ้า ตนจึงนำตัวไปบำบัดรักษาที่วัดถ้ำกระบอก จ.สระบุรี โดยไปบำบัดรักษาอยู่หลายเดือนจนอาการดีขึ้น  จึงได้รับกลับมาอยู่บ้านเมื่อวันที่ 6 ก.พ.2567 ที่ผ่านมาแต่ลูกชายกลับไปหาเพื่อนที่เคยเสพยาเสพติดด้วยกัน และกลับมาเสพยาอีกครั้ง ล่าสุดทราบว่าเสพยาบ้าไปถึง 10 เม็ด จนมีอาการคุ้มคลั่ง ทำลายข้าวของ ตนจึงเข้าไปห้ามจนถูกลูกชายชกเข้าที่ใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ จึงได้วิ่งหนีออกมาทางประตูหลังบ้าน เพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับลูก แค่อยากให้ลูกชายได้ถูกรักษา และกลับมาใช้ชีวิตด้วยกันตามปกติพ่อลูก 


ส่วนผู้ก่อเหตุ หลังจากถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหล่มสักแล้ว แพทย์ได้ให้ยาคลายเครียด ในเวลาต่อมาได้ตื่นและมีสติขึ้น พูดคุยรู้เรื่องและร้องไห้เสียใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น แต่ยังคงอยู่ในอาการเบลอๆ มึนงงสับสนจากฤทธิ์ของยา.–สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก