คู่แฝดปาแก้วใส่หน้ารถคู่อริ ญาติติดใจคดีไม่คืบ

นนทบุรี 9 ก.พ. – ญาติติดใจคดีคู่แฝดปาแก้วใส่หน้า ทำรถคู่อริเสียหลักพุ่งลงข้างทาง เสียชีวิต แจ้งความไว้ ตำรวจบอกให้ไปหาพยานหลักฐานเอง คดีไม่คืบ

ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานคณะกรรมกาตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจจังหวัดนนทบุรี หรือ กต.ตร. และนายคมสัน โพล้งอุไร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลไทรใหญ่ ไปที่วัดปลายคลองขุนศรี ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เปิดเผยกรณีเมื่อวันที่ 6 ก.พ.67 ช่วง 17.30 น. ขณะที่นายปรีชา อายุ 22 ปี พนักงานโรงงานแห่งหนึ่งย่านไทรน้อย ถูกวัยรุ่นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ประคบคู่ก่อนจะเขวี้ยงแก้วเก็บความเย็นเข้าที่หน้า จนทำให้จักรยานยนต์ที่นายปรีชาขี่มาเสียหลักพุ่งลงข้างทาง บริเวณถนนเลียบคลองขุนศรี

ต่อมาวัยรุ่นทั้ง 2 คน จอดรถและเดินลงไปตรงจุดที่รถของนายปรีชาล้ม เพื่อหวังจะทำร้ายซ้ำ แต่มีคนมาเห็นจึงตะโกนห้าม วัยรุ่นทั้ง 2 คน จึงเดินขึ้นมาและขับรถหนีไป ก่อนที่พลเมืองดีจะช่วยแจ้งกู้ภัยและนำตัวส่งโรงพยาบาลไทรน้อย และส่งตัวต่อไปที่ รพ.พระนั่งเกล้า แต่มาเสียชีวิต เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา ญาติผู้เสียชีวิตเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ไทรน้อย แต่ตำรวจแจ้งว่าให้ไปหาพยานและหลักฐานมาเอง และรอให้จัดงานศพเสร็จก่อนค่อยมาแจ้งความใหม่

นายจิรายุ อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนกับนายปรีชาเป็นพี่น้องคนละแม่กัน วันเกิดเหตุพอเสร็จงานก็กำลังจะกลับบ้านกัน ตนต้องไปรับลูกจึงแยกไปคนละทางกับนายปรีชา พอขากลับก็ขี่จักรยานยนต์มาถึงตรงจุดเกิดเหตุ เห็นคู่กรณีซึ่งมากัน 2 คน กำลังเดินขึ้นมาจากข้างทางตรงจุดที่รถของนายปรีชาเสียหลักพุ่งลงไป ตอนนั้นไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกันจึงถามคนที่เห็นเหตุการณ์เขาเล่าให้ฟังว่านายปรีชาขี่รถสวนกับทางคู่กรณี และตะโกนด่ากัน หลังจากนั้นคู่กรณี กลับรถเลี้ยวมาหานายปรีชา และเขวี้ยงแก้วเก็บความเย็นเข้าที่ใบหน้าของนายปรีชา จนทำให้เสียหลักและพุ่งลงข้างทาง จากนั้นทางคู่กรณีก็จอดรถและเดินลงไปคิดว่าคงจะไปซ้ำ แต่ถูกพลเมืองดีช่วยห้ามไว้

ด้าน ดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธาน กต.ตร.จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า จะประสานพูดคุยกับแม่และญาติของผู้เสียชีวิต เบื้องต้นช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต 10,000 บาท หลังจากนี้จะประสานทางหน่วยงานต่างๆ ทั้งยุติธรรมจังหวัดให้เข้าช่วยเหลือ ส่วนในเรื่องที่ทางญาติติดใจการทำงานของตำรวจ ต้องขอโทษแทนตำรวจ อาจจะเป็นเพราะการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน เลยทำให้เกิดความเข้าใจผิดกัน หลังจากนี้ จะช่วยประสานทางตำรวจให้อีกทาง เพื่อความถูกต้องชัดเจน .-สำนักข่าวไทย