แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มจีนเปิดประตูเครื่องบิน จ่อฝากขัง

เชียงใหม่ 8 ก.พ. – แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มจีนเปิดประตูเครื่องบินขณะกำลัง Take Off เตรียมคุมตัวฝากขังพรุ่งนี้ (9 ก.พ.) อ้างป่วยจิต เคยรักษากับนักบำบัดที่แคนาดามาก่อน


เมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) สนามบินเชียงใหม่ เกิดเรื่องวุ่น เพราะเครื่องการบินไทยที่จะบินกลับสุวรรณภูมิ มีหนุ่มจีนกระโดดมาเปิดประตูเครื่อง ทำให้เบาะสไลด์กาง เครื่องค้างกลางรันเวย์ ส่วนสาเหตุที่ทำแบบนี้ไม่รู้จะเรียกเพี้ยนได้หรือไม่ เพราะเขาบอกมีขบวนการใต้ดินจะลอบยิงขีปนาวุธให้เครื่องตก


เมื่อเวลา 21.57 น. วานนี้ (7 ก.พ.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Watcharapon Pethsurp ได้เช็กอินที่สนามบินเชียงใหม่ และโพสต์ภาพถ่ายภายในเครื่องบิน พร้อมเขียนข้อความ “เครื่องกำลังจะ Take Off แต่มีคน Panic พยายามจะเปิดประตูเครื่องบิน แล้วฉันจะถึงกรุงเทพกี่โมง” ก่อนที่เจ้าของโพสต์จะอัปเดตว่า ตำรวจได้มารวบผู้โดยสารต่างชาติรายดังกล่าวไปแล้ว

ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ananya Tiangtae โพสต์ทั้งภาพและคลิป พร้อมข้อความ “ระทึกกลางดึก ผู้โดยสารชาวจีนพุ่งตัวเปิดประตูเครื่องบิน ขณะเครื่องกำลังทะยานขึ้นฟ้า เรือยางเด้งออกจากประตู แอร์โฮสเตสลุกจากที่นั่งมาจับตัวผู้โดยสาร ยื้อกันไปมา ก่อนลมมหึมาพัดเข้ามาในเครื่องบิน นักบินจอดเครื่องบินกะทันหัน ผู้โดยสารฝรั่งอีกคนหายตกใจ ลุกมาช่วยจับตัวไว้ อลหม่านไปทั้งลำ กว่าช่างจะมายกเรือยางออกก็ 5 ทุ่มกว่า เดิมต้อง Take off 21.05 น. ทุกคนต้องกลับมาอาคารสนามบิน เจ้าหน้าที่พาชายจีนคลุ้มคลั่งออกจากเครื่องบิน ผู้โดยสารหลายสิบคนตกเครื่องที่บินต่อไปต่างประเทศ เครื่องบินจากต่างประเทศและในประเทศที่มาลงเชียงใหม่ ต้องไปจอดที่เวียดนามหรือลาวแทน บางส่วนเปลี่ยนลำใหม่บินกลับกรุงเทพฯ เกือบตี 1 บางส่วนรอกลับรุ่งขึ้น ส่วนเราตกค้างนอนเชียงใหม่อีกคืน กระเป๋าเดินทางติดแหง็กใต้ท้องเครื่อง กว่าจะได้คืนตี 1 กว่า เดินทางมาครบ 100 ประเทศ เพิ่งเจอเหตุการณ์ผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบินเพื่อเหินลงไป ถ้าเขาคลุ้มคลั่งเปิดประตูขณะเครื่องบินอยู่ที่ 30,000 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล อะไรจะเกิดขึ้น?

เช่นเดียวกับ เพจ HFlight.net ได้รายงานเรื่องราวดังกล่าว โดยระบุว่า เชียงใหม่เครื่องลงไม่ได้ตอนนี้ ภาพจาก Flightradar24 แสดงเที่ยวบินที่กำลังจะลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่ แต่ต้องบินวนรอ ก่อนที่เวลา 22.54 น. มีรายงานว่า เที่ยวบินสามารถใช้งานทางวิ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่ในการขึ้นลงได้ปกติแล้ว


สนามบินเชียงใหม่ไล่ไทม์ไลน์หนุ่มจีนพุ่งเปิดประตูเครื่อง
วันนี้ (8 ก.พ.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ออกมาชี้แจงแล้ว โดยนาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ไล่ไทม์ไลน์ให้ฟังว่า เมื่อเวลา 22.05 น. ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินเชียงใหม่ว่า เที่ยวบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG121 เส้นทางเชียงใหม่-สุวรรณภูมิ ทำการบินด้วยเครื่องแอร์บัส เอ 320 ขณะเครื่องอยู่ระหว่างเตรียมวิ่งขึ้น มีผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบิน ทำให้เบาะสไลด์กาง ส่งผลให้อากาศยานไม่สามารถทำการบินได้ และจอดค้างอยู่กลางรันเวย์ ส่งผลให้เที่ยวบินอื่นๆ ทำการขึ้น-ลงไม่ได้ชั่วขณะ

หลังรับแจ้งเหตุ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ประสานช่างอากาศยานของสายการบินไทย เข้าดำเนินการตัดเบาะสไลด์ออก ก่อนนำอากาศยานกลับเข้าหลุมจอด และสามารถเปิดใช้งานทางวิ่งได้ตามปกติในเวลา 22.50 น. และสามารถออกเดินทางได้ในเวลา 00.43 น.

ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยังยอมรับด้วยว่า มีเที่ยวบินได้รับผลกระทบทั้งหมด 13 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินวนรอขาเข้า จำนวน 8 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาออก 3 เที่ยวบิน และเที่ยวบิน Divert 2 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 2,296 คน

ส่วนเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย คณะกรรมการรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้หยิบยกกรณีนี้ขึ้นมาหารือในการประชุมร่วมกับผู้แทนจากสายการบิน ส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติ และหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มจีนเปิดประตูเครื่องบินขณะกำลัง Take Off
ด้าน พ.ต.อ.มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับการ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ให้ข้อมูลว่า ได้แจ้ง 2 ข้อหา กับผู้โดยสารชายรายนี้ ที่มีดีกรีเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ คือ นายหว่อง ชาย เฮือง อายุ 40 ปี คนจีนสัญชาติแคนาดา โดย 2 ข้อหา คือ กระทำการให้อากาศยานอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคล ข้อหานี้มีโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 7 ปี ปรับ 10,000-140,000 บาท และเป็นผู้อยู่ในอากาศยานระหว่างการบิน ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้ควบคุมอากาศยาน หรือเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยาน ด้วยการเปิดประตูฉุกเฉินเครื่องบินโดยไม่มีเหตุอันควร ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยกับอากาศยาน หรือบุคคล หรือทรัพย์สินในอากาศยาน ข้อหานี้โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ยังพานายหว่อง ไปตรวจสารเสพติด เบื้องต้นไม่พบสารเสพติดในร่างกาย และความแปลกคือ นายหว่อง ตอบคำถามนักข่าวที่ถามว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ ว่ารู้สึกถูกติดตาม ซึ่งเป็นความทรงจำจากภารกิจลับที่เวียดนาม

ด้าน พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ น้อยสอน รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงไทม์ไลน์ของนายหว่อง ว่า เข้าไทยมาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากนั้นได้มาเที่ยวเชียงใหม่คนเดียว และเมื่อคืนขึ้นเครื่องจากเชียงใหม่จะไปสุวรรณภูมิ เพื่อกลับแคนาดา นายหว่องให้การกับพนักงานสอบสวนผ่านล่ามและตำรวจท่องเที่ยวว่า ไปเปิดประตูเครื่องบิน เพราะมีกลุ่มขบวนการใต้ดินติดตาม รู้สึกเป็นอันตราย รวมถึงบอกด้วยว่า หากเครื่อง Take Off จะถูกขีปนาวุธลอบยิงตก ทำให้จำเป็นต้องยับยั้งไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม นายหว่อง ยังอ้างว่าป่วย มีอาการทางจิต เคยรักษากับนักบำบัดที่แคนาดามาก่อน แต่ไม่มีหลักฐานอะไรมาแสดง

ฝากขังพรุ่งนี้-เล็งแจ้งข้อหาเพิ่ม
สำหรับนายหว่อง พรุ่งนี้ (9 ก.พ.) พนักงานสอบสวนจะนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดเชียงใหม่ และประสานการบินไทย ให้เข้าแจ้งความเพิ่มเติม หากพบความเสียหายเกิดขึ้นกับอากาศยาน รวมทั้งความเสียหายอื่นๆ ที่เกิดจากการกระทำของนายหว่อง แม้เหตุการณ์นี้การบินไทยบอกว่า เจ้าหน้าที่ช่างได้ตรวจสอบและแก้ไขตามมาตรฐานความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว และผู้โดยสาร นักบิน รวมถึงลูกเรือ ทุกคนปลอดภัยก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]