แจ้งเพิ่มอีก 2 ข้อหา 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “ใหม่”

ฉะเชิงเทรา 5 ก.พ. – 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “ใหม่” หนุ่มโรงงาน โดนตำรวจแจ้งเพิ่มอีก 2 ข้อหา ขณะตำรวจสอบปากคำ “น้องพร” เพิ่ม ไม่พบความผิดปกติ น่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง


ผู้ต้องทั้ง 4 คน คือ โอ๊ต อายุ 23 ปี, แท็ป อายุ 29 ปี, นิว อายุ 22 ปี และ กาน อายุ 24 ปี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกับช่างกิต ก่อเหตุฆ่านายใหม่ วันนี้ทั้ง 4 คน ได้มารับทราบข้อกล่าวหา

เวลาประมาณ 09.00 น. วันนี้ (5 ก.พ.) ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ ลิ้นทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา นัดผู้ต้องหาในคดีอุ้มฆ่านายธนาสันต์ อายุ 33 ปี แล้วนำศพมาทิ้งไว้ข้างทาง บริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ กม.41+100 ขาเข้า กทม. หมู่ 10 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยทั้ง 4 คน ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้แก่ นายกิตติโชติ (กิต) อายุ 37 ปี ทั้งหมดให้การปฏิเสธ ซึ่งนายโอ๊ต เผยว่า ตนไม่น่าไปกับนายกิต และไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้


หลังจากนั้นได้นำตัวออกจากห้องสอบสวน สภ.บางปะกง ขึ้นไปสอบสวนต่อที่ห้องสืบสวน เพราะมีประเด็นที่ตำรวจสงสัย โดยทาง พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ร่วมสอบปากคำด้วย หลังจากนั้นเพิ่มข้อกล่าวหาจาก 1 ข้อหา เป็น 3 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะ, ข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตาย พร้อมให้ทั้ง 4 คน พาไปที่รถเก๋งคันก่อเหตุ และนำชี้จุดว่าคืนเกิดเหตุนั่งกันจุดไหน ก่อนถ่ายรูปเป็นหลักฐาน เพื่อนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ในเวลา 14.00 น.

ขณะที่มีการคุมตัวทั้งหมดออกจากห้องมาขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามถามว่า ทั้งหมดถูกหลอกขึ้นรถมากับช่างกิตจริงหรือไม่ ได้ร่วมมือกับช่างกิตในการอุ้มฆ่านายใหม่หรือไม่ รวมถึงถามไปยังนายโอ๊ต ว่าได้นำรถจักรยานยนต์ของนายใหม่ไปชำแหละหลังเกิดเหตุหรือไม่ ทั้งหมดปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามใดๆ กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่พาขึ้นรถไป

ด้าน พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า หลังจากผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มารับทราบข้อกล่าวหา พบว่ามีประเด็นคำให้การบางจุดที่ขัดแย้งกันอยู่ จึงต้องทำการสอบสวนใหม่ และใครจะร่วมทำหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลทางนิติวิทยาศาสตร์ของกองพิสูจน์หลักฐานที่เก็บไว้ในวันเกิดเหตุ และตามหลักฐานของกลางที่ตรวจยึดได้


ทั้งนี้ มีการนัด น.ส.วรรณพร อายุ 33 ปี ภรรยาของผู้ตาย เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ก็ไม่พบความผิดปกติ และน่าจะไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุฆาตกรรมนายธนาสันต์ ซึ่งได้มีการเก็บข้อมูลจากมือถือของ น.ส.วรรณพร ทั้งหมด เพื่อตรวจสอบต่อไป

นายจำเริญ อายุ 64 ปี พ่อของ น.ส.วรรณพร เปิดเผยว่า ตอนนี้สังคมโจมตีลูกสาวอย่างหนัก ตนเข้าใจว่าลูกสาวผิดเรื่องผู้ชาย แต่อยากให้สังคมแยกแยะว่า ลูกสาวของตนไม่ได้ฆ่าสามีตัวเอง หากแต่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาเท่านั้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม หากลูกสาวตนผิดก็ให้รับโทษทางกฎหมายได้เลย

น้องชาย “ใหม่” ลั่นจากนี้ขอตัดขาด “พร”
วันนี้ทางญาติๆ ของใหม่ได้ไปเก็บกระดูกที่วัด หลังเมื่อวานมีพิธีฌาปนกิจ ทางญาติได้นำกระดูกใส่โกศเพื่อนำกลับไปบ้าน และนำใส่ผ้าขาวเพื่อนำไปทำพิธีลอยอังคาร ที่วัดหงส์ทอง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งการมาเก็บกระดูกของใหม่วันนี้ไม่มีเงาของพร แต่ทางน้องชายของใหม่บอกว่าวันนี้ได้ขอความร่วมมือกับทางพรไม่ให้เข้าร่วมพิธีเก็บกระดูกใหม่ เพราะตนโกรธมาก และอยากตัดขาดกับพร ไม่ต้องมายุ่งมาคุยกันอีก เพราะตนรักพี่ชายคนนี้มาก

ส่วนเรื่องที่พรมีชู้ ส่วนตัวคิดว่าพี่ชายของตนน่าจะรู้เรื่อง แต่เพราะพี่ชายตนรักพรมากเลยไม่กล้าบอกเพื่อนๆ ทีมข่าวยังถามด้วยว่าเชื่อหรือไม่ที่พรบอกว่าจากนี้ไปจะไม่มีสามีอีกแล้ว น้องชายของใหม่บอกว่าไม่อยากรับรู้เรื่องนี้ ขอให้แล้วแต่เวรแต่กรรม

แฉหลักฐานความสัมพันธ์ “พร-ช่างกิต”
ส่วนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่าง “ช่างกิต กับ พร” เรียกว่ายิ่งขุดยิ่งเจอ ล่าสุดทีมข่าวไปพูดคุยกับหัวหน้างานของช่างกิตและพร หัวหน้างานได้นำหลักฐานแชทคุยระหว่างตนเองกับช่างกิต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของคู่นี้ เป็นแชทเมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา โดยช่างกิตได้ไลน์มาบอกหัวหน้างานคนนี้ว่า “เมียท้อง” และยังพบอกว่าตนเองจะเลิกเกเรแล้ว และยังเตรียมตั้งชื่อลูกไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะให้ชื่อ “พรีม” เพื่อให้ชื่อคล้องกับ “พร” และขอให้ตนช่วยทำสติกเกอร์ติดท้ายรถให้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีแชทพูดคุยกันในไลน์ของที่ทำงาน ทำนองแสดงความรักต่อกัน แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่คบกันมาประมาณ 2-3 เดือนแล้ว

ส่วนชนวนเหตุที่ช่างกิตลงมือนั้น ส่วนตัวคิดว่าคงจะโมโหเรื่องที่พรมีแฟนอยู่แล้ว รวมทั้งเรื่องที่เข้าใจผิดคิดว่าพรท้อง เพราะช่างกิตดีใจมากเรื่องท้อง หัวหน้างานยังยืนยันด้วยว่าปกติช่างกิตเป็นคนดี ร่าเริง ไม่เคยเกเร เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ แต่พักหลังๆ ดูเครียดๆ และดูดบุหรี่ด้วย เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม และช่างกิตยังเคยมาปรึกษาตนเกี่ยวกับเรื่องพร เพราะจับได้ว่าพรกับนายเอ กิ๊กอีกคน คบหากัน ซึ่งตนเคยเตือนช่างกิตว่าถ้าไม่ไหวก็ให้เลิก แต่ช่างกิตตอบกลับมาว่าเขารักของเขา ส่วนพรนั้นได้คุยกันหลังรู้ข่าวว่าช่างกิตเป็นคนฆ่าใหม่ โดยพรยืนยันว่าไม่รู้เห็นกับเรื่องนี้

สำหรับประเด็นที่มีข่าวว่าพรท้องนั้น เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) พรได้ออกมาชี้แจงว่าตนเองไม่ได้ท้อง แต่ช่างกิตคิดไปเอง และยอมรับว่าตอนนั้นที่บอกช่างกิตไปเพราะแค่อยากเรียกร้องความสนใจจากช่างกิต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย