ชุมพร 5 ก.พ. – เจ้าของสนามชนไก่ชุมพร หายตัวปริศนา จีพีเอสจับสัญญาณรถยนต์ขับด้วยความเร็วผิดปกติอยู่แถวภาคกลาง ปลายทางฝั่งธนบุรี ตำรวจเร่งติดตามแต่ยังไร้วี่แวว เผยปมเหตุอาจมาจากปัญหาชู้สาว-การเงิน
นายสำราญ อายุ 74 ปี ชาว อ.สวี จ.ชุมพร นำภาพถ่ายรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ของนายขนบ อายุ 56 ปี หรือหมาส ซึ่งเป็นน้องชาย หายตัวออกจากบ้านอย่างปริศนาตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.67 ที่ผ่านมา มาเปิดเผยกับสื่อมวลชน หวั่นเกิดเหตุร้ายกับน้องชาย โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพจากกล้องตำรวจทางหลวงที่เห็นรถของนายขนบ ขณะอยู่ในพื้นที่ ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 2 ก.พ.67 ช่วงเวลาประมาณเที่ยงเศษ
นายสำราญ ให้ข้อมูลว่า น้องชายได้เปิดสนามไก่ชนมากว่า 5 ปี ชื่อ “สนามชนไก่สเตเดี้ยมสวี” ตั้งอยู่ที่ริมถนนสายเอเซีย 41 ตำบลสวี โดยน้องชายตนมีเมียสองคน คนแรกแต่งงาน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส และไม่มีบุตรด้วยกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา 8-9 ปี ที่บ้านในพื้นที่ตำบลเขาค่าย อำเภอสวี ส่วนคนที่สองอยู่ในพื้นที่อำเภอหลังสวน ทั้งคู่คบหากันมาได้เกือบ 1 ปีแล้ว
นายสำราญบอกว่า น้องชายหายออกจากบ้านพักเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ โดยตนได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.นาสัก เมื่อวันที่ 2 ก.พ. จากนั้นได้ให้บริษัทที่จำหน่ายรถยนต์ตรวจดูตำแหน่งจีพีเอสในรถ พบว่าในวันเดียวกันเวลาประมาณบ่าย 2 โมง จีพีเอสจับความเคลื่อนไหวว่ารถจอดอยู่ในลานจอดรถแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ
นายสำราญต่อว่า ตนได้ให้ตำรวจ สภ.สวี ติดตามรถคันดังกล่าว โดยประสานไปยังตำรวจท้องที่ แต่ปรากฏว่าเมื่อตำรวจไปถึงรถของน้องชาย ได้หายไปแล้ว หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลยคาดว่าจีพีเอสน่าจะถูกถอดออก
นายสำราญกล่าวว่า น้องชายไม่ค่อยพบกันบ่อย เพราะน้องชายจะยุ่งอยู่กับธุรกิจสนามชนไก่และจะเดินทางไปเล่นไก่ตามสถานที่ต่าง ๆในพื้นที่จังหวัดชุมพร เวลาว่างก็ทำสวน ตนได้โทรศัพท์คุยกันล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว จึงวิงวอนให้ตำรวจเร่งติดตามให้ด้วย เพราะน้องชายตนไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้เลย หากจะไปกรุงเทพฯ ก็ไม่เคยไปคนเดียวอย่างน้อยก็ไปกัน 2 คน อีกทั้งสัญญาณจีพีเอสจับการเคลื่อนตัวของรถ ก็มีความเร็วกว่าการขับปกติและไม่ค่อยจอดที่ไหน
นายสำราญ เผยอีกว่า มาทราบภายหลังจากปากเมียคนแรกที่อยู่ด้วยกันว่ามีปัญหาครอบครัวกันเรื่องเงิน เจอกันก็ขอเงิน พอไม่ให้ก็โมโหโกรธ และล่าสุดก่อนหายตัวไปขอเงินภรรยา 1 แสนบาท ขณะที่ช่วงเวลา ที่น้องชายตนหายตัวไปนั้น ได้อยู่กับเมียคนที่สองที่บ้านในอำเภอหลังสวน และทราบว่าก่อนหน้านั้น ได้มีเจ้าหนี้มาทวงเงินกับภรรยาคนที่สองที่ไปยืมเขามาและเกิดมีปากเสียงกันรุนแรงจนต้องขั้นขึ้นโรงพัก ตอนนี้ตนติดใจการหายตัวไปของน้องชายมาก โดยอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินและชู้สาว ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยเตือนน้องชายเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงคนหนึ่งว่าอย่าไปยุ่ง เพราะพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจ .-สำนักข่าวไทย