เปิดปฏิบัติการ “ไล่ล่าเด็ดปีกนักค้ายาอีสานเหนือ 252” 

กาฬสินธุ์ 3 ก.พ.- เปิดปฏิบัติการไล่ล่าเด็ดปีก นักค้ายาอีสานเหนือ ปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายผู้ค้ายารายใหญ่  จ.กาฬสินธุ์ ด้านรัฐมนตรียุติธรรม เผย 2 เดือนที่ผ่านมา อายัดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติดได้กว่า 171 ล้านบาท


ชุดโจมตี ทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน นำโดย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 เปิดปฏิบัติการไล่ล่าเด็ดปีก นักค้ายาอีสานเหนือ 252 No place for drug นำหมายศาลเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านใน ต.หนองกุงศรี  อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ของนายคำภูวิณ หรือ เอ็ม ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งถูกจับไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในข้อหาสมคบกันค้ายาเสพติด ผลการตรวจค้น ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่ดินรถเก๋งสีขาว เพื่อยึดอายัด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ส่วนหลังบ้าน พบอุปกรณ์การทำบั้งไฟพร้อมติดป้าย ระบุข้อความ “ทีมงานบิ๊กเอ็มยุคใหม่” ซึ่งญาติยอมรับว่าเอ็มผลิตบั้งไฟไปเล่นการพนันในพื้นที่ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี เป็นประจำ โดยเล่นบั้งละ 30,000 – 50,000 บาท ไม่ได้ร่ำรวย เพราะยังไปหยิบยืมเงินคนอื่นบ่อยๆ ขณะที่การสอบปากคำผู้ต้องหา ก่อนหน้านี้ปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด บ้านพร้อมที่ดิน ก็เป็นทรัพย์สินมรดก 

พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการปฏิบัติการ โดยตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566  มีการปูพรม สืบสวนขยายผล จากผู้เสพนำไปสู่ผู้ค้ารายย่อย ออกหมายจับนักค้ายา 381 ราย จับกุมได้ 309 ราย คิดเป็น 81% ตรวจค้นเป้าหมายบุคคลตามหมายจับค้างเก่า 400 หมาย จับกุมได้ 43 ราย ยึดของกลางยาบ้ากว่า 1.4 ล้านเม็ด  ยาไอซ์ 0.62 กิโลกรัม ยึดและอายัดทรัพย์ มูลค่ากว่า 171  ล้านบาท


พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า จากการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด พบยาเสพติดที่นำเข้ามาทางอีสานจะใช้ในอีสาน และส่งต่อไปทางภาคใต้ ส่วนยาเสพติดที่นำเข้ามาทางภาคเหนือจะใช้ในภาคกลาง ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก แม้ผลการจับกุมในรอบเดือนที่ผ่านมาจะเพิ่มขึ้นเป็น 100 เท่า แต่ชาวบ้านก็ยังรู้สึกว่ายาเสพติดยังระบาดหนัก จึงจำเป็นต้องยกระดับพื้นที่ทุกมิติในภาคอีสาน ปิดช่องโหว่ และประเมินผลให้ต่อเนื่อง โดยการกำหนดให้ จ.นครพนม เป็นพื้นที่พิเศษ ช่วยให้การสกัดกั้นนั้น ทำได้ดีขึ้น แต่การคุมเข้มทางภาคเหนือ และอีสาน ทำให้ยาบ้า 50 ล้านเม็ด ไปเข้าทางกาญจนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังวิเคราะห์เพื่อปรับแผนให้ทันขบวนการค้ายาเสพติด ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ที่อยู่ระหว่างการคุมประพฤติราว 4 แสนคน เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดถึง 3 แสนคน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำกลุ่มเป้าหมายนี้ มาช่วยกันดูด้วย.–สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ