เปิดวงจรปิดนาทีอุ้มหนุ่มโรงงานขึ้นรถ

สมุทรปราการ 2 ก.พ. – ตำรวจเปิดภาพวงจรปิดนาทีมือฆ่าขับรถปาดหน้าหนุ่มโรงงาน ก่อนจะอุ้มขึ้นรถไปก่อเหตุ ด้านภรรยาพ้อ สภาพจิตใจแย่ ยืนยันไม่เกี่ยวกับการฆ่าสามี เป็นแค่เพื่อนร่วมงานของ “ช่างกิต”


วงจรปิดบันทึกภาพนาทีที่นายกิตติโชติ หรือ ช่างกิต บางบ่อ ผู้ก่อเหตุขับรถยนต์ปาดหน้ารถจักรยานยนต์ของผู้ตาย คือ นายธนาสันต์ อายุ 33 ปี หนุ่มโรงงาน และได้ลงมาบังคับผู้ตายให้ขึ้นรถมาด้วย ก่อนจะอุ้มขึ้นรถและนำไปก่อเหตุลงมือฆ่า กระทั่งมีการพบศพนายธนาสันต์ ถูกมัดมือมัดเท้าทิ้งหมกข้างทางเลียบมอเตอร์เวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบไทม์ไลน์ตามกล้องวงจรปิด ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา พบว่าเมื่อเวลา 22.08 น. บริเวณหน้าหมู่บ้าน ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ พบผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์ออกจากหมู่บ้าน จากนั้นเวลา 22.11 น. บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ สามแยก ซ.คลองอาเสี่ย จะเห็นผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าปากซอยจงศิริ และมีรถยนต์ของผู้ก่อเหตุขับติดตามรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ต่อมาเวลา 22.13 น. บริเวณสามแยกถนนคลองอาเสี่ยคลอง กันยา – สิริพาร์คแลนด์ พบรถจักรยายนต์ของผู้เสียชีวิตขี่ผ่านบริเวณนี้ แต่สังเกตเห็นว่าคนขี่ไม่สวมหมวกกันน็อก ซึ่งคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นคนขี่ จากนั้นพบรถยนต์ของผู้ก่อเหตุขับติดตามมา


เวลา 22.13 น. บริเวณสามแยก ซ.จงสิริ พบผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต มุ่งหน้า ถ.บางพลี-ตำหรุ จากนั้นพบรถยนต์ของผู้ก่อเหตุขับติดตามมา เวลา 22.15 น. บริเวณปากซอยจงสิริ พบผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต มุ่งหน้า ถ.บางพลี-ตำหรุ และยังพบรถยนต์ของผู้ก่อเหตุขับติดตามมา เวลา 22.18 น. บริเวณสี่แยกคลองขุด พบผู้ก่อเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต มุ่งหน้า ถ.บางพลี-ตำหรุ ขาออก เวลา 22.19 น. บริเวณจุดกลับรถ ถ.บางพลี-ตำหรุ พบผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต กลับรถบริเวณดังกล่าว มุ่งหน้า ถ.บางพลี-ตำหรุ ขาเข้า และเวลา 22.21 น. บริเวณจุดกลับรถ ถ.บางพลี-กิ่งแก้ว พบผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต มุ่งหน้า ถ.กิ่งแก้ว โดยมีรถยนต์ของผู้ก่อเหตุขับติดตามมา จนกระทั่งกลุ่มผู้ก่อเหตุขับออกจากพื้นที่สมุทรปราการ มุ่งหน้าเข้าเขตฉะเชิงเทรา

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อที่ 29 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 17.16 น. ตำรวจ สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุว่า มีเหตุคนเสียชีวิต บริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ช่วงกิโลเมตรที่ 41 ขาเข้ากรุงเทพฯ ม.10 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพถูกมัดมือและเท้า และถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด อยู่บริเวณข้างพงหญ้าริมกำแพงถนนมอเตอร์เวย์ แพทย์สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน

ในที่เกิดเหตุพบ น.ส.วรรณพร แสดงตัวเป็นภรรยาของผู้ตาย และยืนยันว่า ผู้ตายคือ นายธนาสันต์ พร้อมเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 22.00 น. ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ส่วนตัวออกจากบ้านพักย่าน ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อเดินทางไปทำงานตามปกติ


ต่อมาได้รับแจ้งจากเพื่อนร่วมงานว่า สามีไม่ได้เดินทางไปทำงาน จึงพยายามติดต่อ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2567 ตนเองได้พูดคุยผ่านแชทไลน์ โดยผู้ตายส่งข้อความมาว่าขอเลิกรา โดยแจ้งเหตุผลว่าทำผู้หญิงคนอื่นท้อง ซึ่งจากลักษณะข้อความที่พูดคุย เชื่อว่าข้อความเหล่านี้ไม่ใช่ลักษณะการพูดคุยของสามี และจากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่ารถจักรยานยนต์และโทรศัพท์มือถือของสามีสูญหายไปด้วย ต่อมา พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. หัวหน้าคุมงานสืบสวนของ ตร. ได้รับทราบเรื่อง เห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์ร้ายแรง และเชื่อได้ว่ามีผู้ก่อเหตุมากกว่า 1 คน มีการเตรียมการและวางแผนมาก่อน จึงสั่งเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าว

ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ในคืนวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 21.14 น. กลุ่มคนร้าย จำนวน 5 คน รวมตัวกันที่อู่ซ่อมรถของ ช่างกิต ซึ่งตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน และพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้ก่อเหตุทั้งหมด จนทราบตัว นายกิตติโชติ หรือ ช่างกิต เป็นคนแรก และได้ขอศาลจังหวัดฉะเชิงเทราออกหมายจับ ก่อนจับกุมตัวช่างกิตได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมตรวจยึดรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ โดยช่างกิต ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกับพวกก่อเหตุในครั้งนี้จริง ต่อมาตำรวจได้ทำการกดดันกลุ่มคนร้าย กระทั่งในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. นายนันทพัทธ์ หรือ โอ๊ต, นายปานเทพ หรือ แท็ป, นายสุขสงกรานต์ หรือ กรานต์ และ น.ส.อภิสรา หรือ นิว ติดต่อเข้ามอบตัว ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพ และคุมตัวชี้จุดที่นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งไว้ในคลองส่งน้ำ เขตพื้นที่ จ.สมุทรปราการ

ตำรวจแจ้งข้อหากลุ่มคนร้ายทั้งหมด “ปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรและความจำเป็นเร่งด่วนและโดยไม่มีใบอนุญาต และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน” ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต

นอกจากนี้ ในวันที่พบศพผู้ตาย ช่างกิต เป็นคนพา นส.วรรณพร ภรรยาผู้ตาย ไปดูที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งบ้านนายกิตติโชติ อยู่ไม่ไกลจากที่พบร่างผู้ตาย ส่วนชนวนเหตุสังหาร เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวน โดยมีรายงานว่า อาจมาจากเรื่องชู้สาว

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.บางปะกง คุมตัว นายโบ๊ท หนึ่งในแก๊งอุ้มฆ่า และทำหน้าที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายออกมา หลังจากที่อุ้มผู้ตายขึ้นรถ แล้วยังเป็นหลานของช่างกิต ไปชี้จุดทิ้งอาวุธปืนและรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย บริเวณคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยประสานนักประดาน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู กว่า 10 นาย ลงค้นหา พบรถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาช่วยกันชำแหละก่อนนำมาโยนทิ้ง ส่วนอาวุธปืนที่กลุ่มผู้ต้องหายืนยันว่าทิ้งจุดเดียวกับที่พบรถนั้น ขณะนี้ยังไม่พบ ทีมนักประดาน้ำยังคงค้นหาต่อเนื่อง

ขณะที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บางปะกง นำหมายศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าตรวจค้นบ้านใน ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านพักของนางวรรณพร ภรรยาของผู้ตาย เพื่อเก็บวัตถุพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจค้นประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับ พร้อมกับนำวัตถุพยานที่พบในบ้านไปตรวจสอบเพิ่มเติม

นางวรรณพร กล่าวว่า ขณะนี้ตนเองยังสภาพจิตใจแย่ และได้กล่าวเพียงสั้นๆ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่า ตนเองไม่เกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมสามี และยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นทุกอย่าง รายละเอียดให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว หลังทราบว่า นายกิต เป็นคนลงมือ ตนเองตกใจมาก ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ และเป็นพฤติกรรมที่ตนรับไม่ได้ ส่วนนิสัยใจคอนั้น ลึกๆ ตนเองไม่ทราบว่านายกิตเป็นคนแบบไหน เพราะเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของช่างกิต ในพื้นที่หมู่ 8 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยทีมพิสูจน์หลักฐานจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมชุดสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบหาวัตถุพยาน หาความเชื่อมโยงกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงวัตถุพยานอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง

จากการตรวจสอบในห้องพักของช่างกิต พบกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 6 นัด, เสื้อยืดสีเขียวแขนยาว จำนวน 1 ตัว ที่ใส่ไปในวันพบศพ, ครีม 1 กระปุก กับ 2 ขวดปั๊ม, สร้อยข้อมือเลส 1 เส้น, แหวนทองเหลือง 2 วง, ถุงเท้า 1 คู่, กล้องถ่ายรูป 1 ตัว, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง, เคสโทรศัพท์ 4 อัน และกล่องใส่รองเท้า 1 กล่อง เจ้าหน้าที่จึงนำกลับไปตรวจสอบ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุหรือไม่

สอบถาม ป้าอู๊ด อายุ 67 ปี พี่สาวแม่ของช่างกิต กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนนอนอยู่ด้านหลังของบ้านช่างกิต ไม่ได้ยินเสียงใดๆ และไม่มีใครมาหาที่บ้าน ตนไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้ยินเสียงปืน หรือมีเสียงคนทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น เมื่อถามว่ารู้จักกับน้องพร ภรรยาของผู้เสียชีวิตหรือไม่ ป้าอู๊ดตอบว่า ช่างกิตเคยพามาแนะนำให้รู้จัก แต่เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างช่างกิตกับน้องพรนั้น ป้าอู๊ดไม่ขอตอบในรายละเอียด ได้แต่ยิ้มแล้วเดินเข้าบ้านปิดประตูไป ส่วนเรื่องของการประกันตัว ต้องเป็นหน้าที่ของแม่ช่างกิต ที่จะต้องดำเนินการ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

หาชมยาก เปิดสะพานกรุงเทพให้เรือผ่าน แห่งเดียวในไทย

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – เป็นอีกครั้งที่สะพานกรุงเทพ ยกขึ้นเพื่อให้เรือผ่าน ปัจจุบันเป็นสะพานแห่งเดียวในไทยที่ยังคงใช้งานเปิด-ปิดได้ โดยเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบันมีเรือที่ผ่านน้อยลง ทำให้การยกเปิดแต่ละครั้งได้รับความสนใจ เพราะเป็นภาพที่หาชมได้ไม่บ่อย.-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” ระงับนําเข้าน้ำมัน-ก๊าซจากไทย

กัมพูชา 22 มิ.ย. – “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศระงับนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง-ก๊าซทุกชนิดจากไทย เริ่มเที่ยงคืนนี้ มั่นใจบริษัทในกัมพูชาหาเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นให้ประชาชนได้เพียงพอ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก Hun Manet ระบุว่า บริษัทจัดจําหน่ายน้ำมันในประเทศกัมพูชามีความสามารถในการนําเข้าเชื้อเพลิงและก๊าซจากแหล่งอื่น เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศของประชาชน แม้จะเป็นเดือน แม้ตลอดไปก็ไม่ใช่ปัญหา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ (22 มิ.ย.68) การนําเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซทั้งหมดจากประเทศไทยจะถูกหยุด.-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจ นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน

22 มิ.ย. – กองกำลังบูรพาเข้มจุดตรวจตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว นำสุนัข K9 ร่วมลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ ที่ จ.สระแก้ว ตลอดแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติ บริเวณจุดตรวจ ค.04 อ.คลองหาด มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง กองกำลังบูรพา และกองร้อยทหารพราน พร้อมสุนัข K9 ยังคงเดินหน้าควบคุมพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวและขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจจะพากันทะลักเข้า-ออก หลังจากที่มีคำสั่งห้ามนักท่องเที่ยวและนักพนันข้ามไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่เดินเท้าลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ บรรยากาศชายแดนหาดเล็กเงียบเหงาด้านบริเวณชายแดนด่านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา หลังชาวกัมพูชาปิดร้านขนของกลับประเทศ มีเพียงรถบรรทุกสินค้าทั่วไปรอคิวผ่านแดนข้ามฝั่งไปประเทศกัมพูชา เจ้าของร้านค้าในพื้นที่ เล่าว่า บรรยากาศเงียบเหงามาก วันๆ แทบไม่มีคนซื้อของ ถ้าถามความรู้สึกว่าเดือดร้อนไหม บอกเลยว่ายอมเดือดร้อนดีกว่าเสียดินแดนซ้ำอีก ถ้าจะปิดด่านก็ปิดได้เลย เอาดินแดนไว้ก่อนดีกว่า ส่วนบริเวณด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายประสิทธิ์ ดีจงเจริญ นายด่านศุลกากรช่องสะงำ […]

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]