ร้อยเอ็ด 2 ก.พ. – คุม “ดาบตำรวจ” เมาซิ่งกระบะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของป้ากับหลานชาย ฝากขัง เจ้าตัวเผยรู้สึกเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น ยอมรับความผิดทุกอย่าง
จากเหตุการณ์ดาบตำรวจเมาขับรถกระบะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของป้ากับหลานชายที่ขี่มาตลาด และรถกระบะเกี่ยวลากหลานชายวัย 12 ปี ไปกับรถกระบะด้วย ด้านชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์พยายามร้องตะโกนบอกให้รถกระบะหยุดวิ่งแต่ไม่ยอม จนสุดท้ายตำรวจสกัดไว้ได้
วันนี้เสมียนเวรประจำวันนำตัวตำรวจผู้ก่อเหตุออกมาพิมพ์ลายนิ้วมือ บันทึกประวัติ เพื่อดำเนินคดี เตรียมส่งฟ้องฝากขังศาล ในช่วงบ่าย ขณะที่ตำรวจที่ก่อเหตุบอกว่าตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ สภ.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ปกติเข้าเวรสัปดาห์ละ 2-3 วัน ในช่วงพักเดินทางกลับบ้าน บ้านโนนแท่น ต.หนองแวง อ.เมืองร้อยเอ็ด
ล่าสุดลามาตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ช่วงที่กลับมาอยู่บ้านก็กินเหล้าขาวและเหล้าดองยาทุกวันกับเพื่อน ขณะที่เล่นเปตองที่บ้านเหล่ากล้วย ซึ่งเป็นหมู่บ้านข้างเคียง ส่วนการชนคนบาดเจ็บแล้วหนีและชนรถหลายคันจนถูกจับได้นั้นจำอะไรไม่ได้เลย มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ต่อหน้าพนักงานสอบสวน นำตัวมาสอบสวนและตั้งข้อหา หลังสร่างจากเมาและทราบเรื่อง ตนสำนึกผิด รู้สึกเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้น และยอมรับความผิดทุกอย่าง โดยอัตราโทษจำคุก 2 จำคุก 6 ปี ปรับ 40,000-200,000 บาท ระงับใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 2 ปี
สำหรับข้อหาของผู้ก่อเหตุ พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทและในขณะเมาสุรา เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย แล้วหลบหนีไม่หยุดช่วยเหลือตามสมควร หรือแจ้งเหตุแสดงตนต่อตำรวจที่ใกล้เคียงทันที
ด้านนายสุขุม ตาของเด็ก กล่าวว่า หลานเป็นคนขยันเรียน เวลาว่างก็ช่วยงานบ้านทุกอย่าง แม้แต่ไปขายของก็ช่วย รวมทั้งดูแลอากงผู้สูงอายุในบ้านเป็นอย่างดี ส่วนวันเกิดเหตุหลานไปกับป้า เพื่อไปซื้อของเตรียมไปเข้าค่ายลูกเสือในวันนี้ แต่ปรากฏว่าประสบอุบัติเหตุเสียก่อน สำหรับชีวิตของหลาน อยู่กับญาติ ไม่มีพ่อแม่ดูแล เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกันเมื่อ 4-5 ปีก่อน ต่อมาแม่เสียชีวิตไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ต้องอยู่ในความดูแลของอากงและญาติๆ ทุกคน
สำหรับอาการของเด็ก น้าของคนเด็ก เล่าว่า อาการยังทรงตัวแม้จะได้สติ ตอนนี้อยู่ในสภาวะขาดน้ำและให้เลือดพร้อมกับให้น้ำเกลือ เมื่อคืนนี้เข้าผ่าตัดหลายส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ จากการสอบถามแพทย์ได้รับแจ้งว่าจะต้องดูอาการ ดูแลและทำแผลไปเรื่อยๆ ในส่วนไหนที่เป็นเนื้อตายต้องมีการตัดออก เพื่อรักษาอาการอย่างต่อเนื่อง ต้องดูอาการใกล้ชิดแบบวันต่อวัน แต่โชคดีที่สมองไม่เป็นอะไร อีกอย่างที่น่าเป็นห่วงคือแผลบริเวณใบหน้าที่ถูกลากไปตามถนน จนเนื้อหายไปครึ่งหนึ่ง ตอนนี้ยังพูดเลยไม่ได้ เนื่องจากใส่เครื่องช่วยหายใจ การสอบถามอาการจากหมอได้แต่ถามแล้วให้หลานพยักหน้าตอบ.-สำนักข่าวไทย