“ตี๋” หัวหน้าแก๊งทรายทอง ไหว้ขอโทษสังคม

นนทบุรี 24 ม.ค.-“ตี๋” ยกมือไหว้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะตำรวจคุมตัวไปฝากขังเมื่อช่วงเช้า ด้านนายน้ำ ยันกลุ่มตนไม่ได้สนิทกับแก๊งนายตี๋ อย่างที่เป็นข่าว

ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ คุมตัวนายปฏิภาณ หรือตี๋ อายุ 18 ปี หัวหน้าแก๊งทรายทอง ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี หลังจับกุมได้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.67) เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และร่วมกันพาอาวุธไปที่สาธารณะ


วันนี้ นายตี๋ มีสีหน้าที่เคร่งเครียด เมื่อเดินขึ้นไปนั่งบนรถของเจ้าหน้าที่ นายตี๋ ได้ยกมือไหว้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อคืน (23 ม.ค.67) ทีมข่าวได้ไปที่หมู่บ้านทรายทอง ไปพบกับนายน้ำ อายุ 18 ปี หนึ่งในสมาชิกแก๊งทรายทอง หลังเจ้าตัวประสานมา บอกว่าได้รับความเสียหายหลังมีการนำภาพถ่ายของกลุ่มตนไปเผยแพร่และไปเชื่อมโยงว่า เป็นแก๊งของนายตี๋ ทั้งที่กลุ่มของตนไม่ได้มีความสนิทสนมกับแก๊งนายตี๋อย่างที่เป็นข่าว

นายน้ำ บอกว่า ขอออกมาแก้ต่างเรื่องรูปที่ถ่ายหน้าหมู่บ้านทรายทอง ซึ่งในรูปนั้นมีนายน้ำ รวมอยู่ด้วย และมีการออกข่าวว่าเป็นรูปของแก๊งนี้ที่ก่อเหตุ นายน้ำ บอกว่าไม่เป็นความจริง เพราะพวกตนไม่ได้มารวมตัวอยู่ด้วยกันทุกวัน ตนแค่มานั่งเล่นไม่กี่ชั่วโมงก็จะแยกกลับออกไป ไม่ได้รวมตัวเพื่อไปก่อเหตุ ส่วนเรื่องที่ตี๋ไปก่อเหตุ ตี๋ไปคนเดียว คนในแก๊งไม่ได้ไปด้วย ซึ่งในวันที่เกิดเหตุ ตนเองนั่งเล่นกับกลุ่มเพื่อนที่สนามเด็กเล่น แล้วตี๋ก็กลับเข้ามา และบอกว่าไปกระทืบเด็กมา แต่พวกตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ซึ่งตี๋เคยเป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในซอยทรายทองตอนเด็ก และพึ่งกลับมาอยู่ที่ทรายทองอีกครั้ง พอเข้ามาอยู่ในแก๊งก็มีแต่ปัญหา ทำให้เสียชื่อทรายทอง ตนอยู่ที่นี่เป็นปีไม่เคยมีปัญหา และตอนนี้คนในแก๊งก็แยกย้ายไปทำงาน ไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อนมาก ส่วนข่าวที่ออกไปว่า มีการจับกุมเด็กในแก๊งทรายทองนั้น นายน้ำ บอกว่าหลังจากตนได้เห็นหน้า บอกเลยว่า ไม่เคยรู้จัก หรือเห็นหน้ามาก่อน ยืนยันว่ากลุ่มของตนไม่เคยก่อเหตุรุนแรง รวมทั้งเรื่องรุมโทรมผู้หญิง พวกตนก็ไม่เคยไปทำ เพราะพื้นที่ที่นั่งรวมตัวกันในหมู่บ้านเป็นพื้นที่เปิดโล่ง และพวกตนไม่ได้ต่ำทรามขนาดนั้น


และเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจนนทบุรี ออกปฏิบัติการตรวจเข้มกลุ่มเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ออกจากบ้านหลัง 4 ทุ่ม หากพบกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัย จะนำตัวส่ง สภ.ท้องที่ในทันที ปรากฏว่า ช่วงประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ตำรวจ สภ.บางกรวย ไปพบเด็กวัยรุ่น 2-3 คน นั่งตกปลาอยู่ที่คลองหลังบ้าน ชุมชนวัดจันทร์ และมีการจับกลุ่มเสพกัญชา พอเห็นตำรวจ หนึ่งในกลุ่มนั้นได้กระโดดลงคลองหนี ทางตำรวจเร่งติดตามตัว ส่วนวัยรุ่นที่เหลือได้นำตัวส่ง สภ.บางกรวย และเรียกผู้ปกครองมารับทราบ

พ.ต.ท.ธวัชชัย จงยิ่งเจริญ รอง ผกก.สภ.บางกรวย บอกว่า ในชุมชนซอยวัดจันทร์ จะมีวัยรุ่นจับกลุ่มมั่วสุมกันและรวมตัวซิ่งรถ นอกจากทางตำรวจจะออกตรวจสอบในพื้นที่แล้ว ยังได้เปิดกรุ๊ปไลน์สำหรับการแจ้งเบาะแส เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน

นอกจากแก๊งทรายทอง นนทบุรี ยังเจออีกแก๊งที่ อ.ไทรน้อย ภาพวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์แก๊งวัยรุ่นเกือบ 10 คน เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์ พกพาอาวุธ บุกมาที่บ้านของคู่อริ ปาระเบิดปิงปองใส่ ก่อนจะหลบหนีไป วงจรปิด จับภาพได้หลายมุมถึงพฤติกรรมของแก๊งนี้ หลังเกิดเหตุในโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมระบุข้อความว่า เก่งกันจริงเด็กๆ ยุคนี้ ซอยวัดไทรน้อย 1 #เด็กทะลุถุงยางมาเกิด #ไทรน้อย พร้อมทั้งโพสต์คลิป กลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์นับสิบคัน ถือมีด ลากมีดบนถนน ท้าทายคู่อริที่อยู่ในบ้านให้ออกมา พอกลุ่มวัยรุ่นอีกฝ่ายออกมา ก็วิ่งกลับ แล้วก็บุกเข้าไปใหม่ ก่อนใช้มีดฟันกระจกหน้าต่างเสียหาย ตรวจสอบพบว่า เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่ม จนกระทั้งเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) ตำรวจ สภ.ไทรน้อย บุกเข้าไปจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่เก่อเหตุ ได้ 2 คน อายุ 15 ปี และ 16 ปี โดยตอนที่บุกเข้าไปในบ้าน พบว่า 1 ในนั้นยังนอนหลับ จนเจ้าหน้าที่ต้องปลุกให้ขึ้นมา


ตรวจสอบภายในบ้าน พบของกลางปืนยาวไทยประดิษฐ์ (ปืนอัดลม) 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซอง และ กระสุนปืน ขนาด .38 เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมแจ้งผู้ปกครอง ให้รับทราบพฤติกรรมของบุตรหลาน ตรวจสอบพบว่า เด็กที่ก่อเหตุส่วนหนึ่งยังเป็นนักเรียน ทาง ผู้กำกับการ สภ.ไทรน้อย จึงได้เชิญผู้บริหารโรงเรียนและภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมผู้ปกครองและเด็ก ทั้ง 2 กลุ่ม รวมกว่า 10 คน ที่ก่อเหตุพาพวกบุกบ้านคู่อริ มาพูดคุยหาทางออกแก้ไขปัญหา

ผู้อำนวยการโรงเรียน บอกว่า หากเป็นช่วงเวลากลางคืน ก็ยากที่ทางโรงเรียนจะตรวจสอบอย่างทั่วถึง เด็กหลายคนมีปัญหาผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแล การให้ออกจากการเรียน ก็จะกระทบอนาคตเด็กอีก ยอมรับว่าขนาดเวลาครูเห็นเด็กรวมกลุ่มกันนอกโรงเรียน ก็รู้สึกไม่ปลอดภัย

ด้าน ผู้กำกับการ สภ.ไทรน้อย บอกถึงผลการสอบสวนทั้งหมด ว่า เป็นเหตุระหว่างนักเรียนโรงเรียน 2 แห่ง แต่ไม่ได้ปะทะกัน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่มีหน้าต่างบ้านของคู่กรณีเสียหาย ซึ่งสามารถตกลงชดใช้ความเสียหายได้ จึงไม่ได้ดำเนินคดี จึงได้ทำประวัติเด็กทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมกำชับโรงเรียนและผู้ปกครองดูแลอย่าให้ก่อเหตุซ้ำ ไม่เช่นนั้นอาจต้องดำเนินคดีกับผู้ปกครองด้วย และได้ทำบันทึกข้อตกลง ห้ามมีปัญหากันอีก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย