“ตี๋” หัวหน้าแก๊งทรายทอง ไหว้ขอโทษสังคม

นนทบุรี 24 ม.ค.-“ตี๋” ยกมือไหว้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะตำรวจคุมตัวไปฝากขังเมื่อช่วงเช้า ด้านนายน้ำ ยันกลุ่มตนไม่ได้สนิทกับแก๊งนายตี๋ อย่างที่เป็นข่าว

ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ คุมตัวนายปฏิภาณ หรือตี๋ อายุ 18 ปี หัวหน้าแก๊งทรายทอง ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี หลังจับกุมได้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.67) เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และร่วมกันพาอาวุธไปที่สาธารณะ


วันนี้ นายตี๋ มีสีหน้าที่เคร่งเครียด เมื่อเดินขึ้นไปนั่งบนรถของเจ้าหน้าที่ นายตี๋ ได้ยกมือไหว้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อคืน (23 ม.ค.67) ทีมข่าวได้ไปที่หมู่บ้านทรายทอง ไปพบกับนายน้ำ อายุ 18 ปี หนึ่งในสมาชิกแก๊งทรายทอง หลังเจ้าตัวประสานมา บอกว่าได้รับความเสียหายหลังมีการนำภาพถ่ายของกลุ่มตนไปเผยแพร่และไปเชื่อมโยงว่า เป็นแก๊งของนายตี๋ ทั้งที่กลุ่มของตนไม่ได้มีความสนิทสนมกับแก๊งนายตี๋อย่างที่เป็นข่าว

นายน้ำ บอกว่า ขอออกมาแก้ต่างเรื่องรูปที่ถ่ายหน้าหมู่บ้านทรายทอง ซึ่งในรูปนั้นมีนายน้ำ รวมอยู่ด้วย และมีการออกข่าวว่าเป็นรูปของแก๊งนี้ที่ก่อเหตุ นายน้ำ บอกว่าไม่เป็นความจริง เพราะพวกตนไม่ได้มารวมตัวอยู่ด้วยกันทุกวัน ตนแค่มานั่งเล่นไม่กี่ชั่วโมงก็จะแยกกลับออกไป ไม่ได้รวมตัวเพื่อไปก่อเหตุ ส่วนเรื่องที่ตี๋ไปก่อเหตุ ตี๋ไปคนเดียว คนในแก๊งไม่ได้ไปด้วย ซึ่งในวันที่เกิดเหตุ ตนเองนั่งเล่นกับกลุ่มเพื่อนที่สนามเด็กเล่น แล้วตี๋ก็กลับเข้ามา และบอกว่าไปกระทืบเด็กมา แต่พวกตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ซึ่งตี๋เคยเป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในซอยทรายทองตอนเด็ก และพึ่งกลับมาอยู่ที่ทรายทองอีกครั้ง พอเข้ามาอยู่ในแก๊งก็มีแต่ปัญหา ทำให้เสียชื่อทรายทอง ตนอยู่ที่นี่เป็นปีไม่เคยมีปัญหา และตอนนี้คนในแก๊งก็แยกย้ายไปทำงาน ไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อนมาก ส่วนข่าวที่ออกไปว่า มีการจับกุมเด็กในแก๊งทรายทองนั้น นายน้ำ บอกว่าหลังจากตนได้เห็นหน้า บอกเลยว่า ไม่เคยรู้จัก หรือเห็นหน้ามาก่อน ยืนยันว่ากลุ่มของตนไม่เคยก่อเหตุรุนแรง รวมทั้งเรื่องรุมโทรมผู้หญิง พวกตนก็ไม่เคยไปทำ เพราะพื้นที่ที่นั่งรวมตัวกันในหมู่บ้านเป็นพื้นที่เปิดโล่ง และพวกตนไม่ได้ต่ำทรามขนาดนั้น


และเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจนนทบุรี ออกปฏิบัติการตรวจเข้มกลุ่มเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ออกจากบ้านหลัง 4 ทุ่ม หากพบกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัย จะนำตัวส่ง สภ.ท้องที่ในทันที ปรากฏว่า ช่วงประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ตำรวจ สภ.บางกรวย ไปพบเด็กวัยรุ่น 2-3 คน นั่งตกปลาอยู่ที่คลองหลังบ้าน ชุมชนวัดจันทร์ และมีการจับกลุ่มเสพกัญชา พอเห็นตำรวจ หนึ่งในกลุ่มนั้นได้กระโดดลงคลองหนี ทางตำรวจเร่งติดตามตัว ส่วนวัยรุ่นที่เหลือได้นำตัวส่ง สภ.บางกรวย และเรียกผู้ปกครองมารับทราบ

พ.ต.ท.ธวัชชัย จงยิ่งเจริญ รอง ผกก.สภ.บางกรวย บอกว่า ในชุมชนซอยวัดจันทร์ จะมีวัยรุ่นจับกลุ่มมั่วสุมกันและรวมตัวซิ่งรถ นอกจากทางตำรวจจะออกตรวจสอบในพื้นที่แล้ว ยังได้เปิดกรุ๊ปไลน์สำหรับการแจ้งเบาะแส เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน

นอกจากแก๊งทรายทอง นนทบุรี ยังเจออีกแก๊งที่ อ.ไทรน้อย ภาพวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์แก๊งวัยรุ่นเกือบ 10 คน เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์ พกพาอาวุธ บุกมาที่บ้านของคู่อริ ปาระเบิดปิงปองใส่ ก่อนจะหลบหนีไป วงจรปิด จับภาพได้หลายมุมถึงพฤติกรรมของแก๊งนี้ หลังเกิดเหตุในโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมระบุข้อความว่า เก่งกันจริงเด็กๆ ยุคนี้ ซอยวัดไทรน้อย 1 #เด็กทะลุถุงยางมาเกิด #ไทรน้อย พร้อมทั้งโพสต์คลิป กลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์นับสิบคัน ถือมีด ลากมีดบนถนน ท้าทายคู่อริที่อยู่ในบ้านให้ออกมา พอกลุ่มวัยรุ่นอีกฝ่ายออกมา ก็วิ่งกลับ แล้วก็บุกเข้าไปใหม่ ก่อนใช้มีดฟันกระจกหน้าต่างเสียหาย ตรวจสอบพบว่า เป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่ม จนกระทั้งเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) ตำรวจ สภ.ไทรน้อย บุกเข้าไปจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่เก่อเหตุ ได้ 2 คน อายุ 15 ปี และ 16 ปี โดยตอนที่บุกเข้าไปในบ้าน พบว่า 1 ในนั้นยังนอนหลับ จนเจ้าหน้าที่ต้องปลุกให้ขึ้นมา


ตรวจสอบภายในบ้าน พบของกลางปืนยาวไทยประดิษฐ์ (ปืนอัดลม) 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซอง และ กระสุนปืน ขนาด .38 เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมแจ้งผู้ปกครอง ให้รับทราบพฤติกรรมของบุตรหลาน ตรวจสอบพบว่า เด็กที่ก่อเหตุส่วนหนึ่งยังเป็นนักเรียน ทาง ผู้กำกับการ สภ.ไทรน้อย จึงได้เชิญผู้บริหารโรงเรียนและภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมผู้ปกครองและเด็ก ทั้ง 2 กลุ่ม รวมกว่า 10 คน ที่ก่อเหตุพาพวกบุกบ้านคู่อริ มาพูดคุยหาทางออกแก้ไขปัญหา

ผู้อำนวยการโรงเรียน บอกว่า หากเป็นช่วงเวลากลางคืน ก็ยากที่ทางโรงเรียนจะตรวจสอบอย่างทั่วถึง เด็กหลายคนมีปัญหาผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแล การให้ออกจากการเรียน ก็จะกระทบอนาคตเด็กอีก ยอมรับว่าขนาดเวลาครูเห็นเด็กรวมกลุ่มกันนอกโรงเรียน ก็รู้สึกไม่ปลอดภัย

ด้าน ผู้กำกับการ สภ.ไทรน้อย บอกถึงผลการสอบสวนทั้งหมด ว่า เป็นเหตุระหว่างนักเรียนโรงเรียน 2 แห่ง แต่ไม่ได้ปะทะกัน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่มีหน้าต่างบ้านของคู่กรณีเสียหาย ซึ่งสามารถตกลงชดใช้ความเสียหายได้ จึงไม่ได้ดำเนินคดี จึงได้ทำประวัติเด็กทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมกำชับโรงเรียนและผู้ปกครองดูแลอย่าให้ก่อเหตุซ้ำ ไม่เช่นนั้นอาจต้องดำเนินคดีกับผู้ปกครองด้วย และได้ทำบันทึกข้อตกลง ห้ามมีปัญหากันอีก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย