นครสวรรค์ 19 ม.ค. – ล่อซื้อข้างโรงพัก รวบตำรวจส่งยาบ้าขณะเข้าเวรและอยู่ในเครื่องแบบ รองเลขาฯ ป.ป.ส. เผย จนท.รัฐทำผิดมีโทษเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ขณะที่วันนี้ ยื่นประกันตัวในชั้นศาลถูกปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว
กรณีการจับกุม ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ อายุ 55 ปี รองสารวัตรฝ่ายปราบปราม สภ.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ลักลอบค้ายาบ้าบริเวณข้างโรงพักที่ตนเองสังกัดคาเครื่องแบบ พร้อมขอกลางยาบ้ารวมจำนวน 82 เม็ด และเงินสดของกลางล่อซื้อ 1,000 บาท โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 18 ม.ค.67 ที่ผ่านมา
เรื่องนี้ พ.ต.อ.วิริยะบัณฑิตย์ สถิตย์สุชาติ ผกก.สภ.หนองปลิง เปิดเผยว่า หลังจากตนเข้ามารับตำแหน่ง ผกก.สภ.หนองปลิง เมื่อช่วงเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา ก็ได้มีการสืบทางลับเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด กระทั่งมีการสืบทราบว่า ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ (ผู้ต้องหา) มีพฤติกรรมลักลอบค้ายาบ้ามานาน อีกทั้งยังมีการใช้พื้นที่บริเวณโรงพักแอบขายยาเสพติดด้วย จึงประสานความร่วมมือกับทางตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดนครสวรรค์ ในการร่วมกันสืบสวนและเก็บหลักฐาน จนนำไปสู่ที่มาของการจับกุม พร้อมกับขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการในพื้นที่ อ.พยุหะคีรี ได้สำเร็จ คดีนี้ นอกจากจะมี ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ยังมีผู้ต้องหาที่เป็นชาวบ้านอีก 3 คน ได้ของกลางเป็นยาบ้ารวมทั้งหมมด 333 เม็ด
ในส่วนของ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ วันที่จับกุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบจังหวัด ได้วางแผนด้วยการส่งสายลับไปทำการล่อซื้อยาบ้า จำนวน 40 เม็ด ในราคา 1,500 บาท ทาง ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ได้นัดหมายให้สายลับเข้ามารับของที่บริเวณโรงเก็บรถของกลาง ด้านข้างอาคารโรงพัก จึงได้ส่งสายรับไปล่อซื้อ และส่งมอบของ-จ่ายเงินกัน ตำรวจนอกเครื่องแบบที่ดักซุ่มรอดูพฤติกรรม รีบเข้าไปจับกุมเจ้าตัว ขณะกำลังรีบเดินขึ้นโรงพัก พร้อมกับยึดของกลางที่ใช้ในการล่อซื้อทั้งหมด นอกจากนี้จากการตรวจปัสสาวะยังพบสารเสพติดในร่างกาย
ขยายผลไปตรวจห้องพักภายในแฟลตตำรวจ ที่อยู่ด้านหลังโรงพัก พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในห้องอีก 42 เม็ด เจ้าตัวยอมรับว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตนเองจริง โดยให้เหตุผลที่ต้องมาค้ายาบ้า เพราะติดยาบ้ามานาน โดยตอนแรกเป็นเพียงแค่ผู้เสพ แต่พอเสพหนักเข้า ก็ผันตัวมาเป็นนักค้ายา ส่วนที่เลือกโรงพักเป็นสถานที่ขายยานั้น เนื่องจากเคยลองทำแล้วรู้สึกปลอดภัย และเป็นที่รู้กันในหมู่นักเสพด้วย จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามบรรดาพ่อค้าแม่ขายที่มีร้าน ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับโรงพักหลายราย ต่างก็บอกว่าไม่รู้ว่า ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ จะมาเป็นนักค้ายานรกที่แฝงอยู่ในคราบของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ โดยแม่ค้าขายอาหารตามสั่งบริเวณใกล้โรงพัก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เท่าที่เคยรู้จักกับรองสารวัตรมานานก็ดูเป็นคนนิสัยดี ไม่วางมาด แถมใครมีเรื่องเดือดร้อนอะไร เขาก็ช่วยเหลือตลอด ส่วนวันที่เจ้าตัวถูกจับ ตนเองไม่เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากของขายหมดจึงกลับบ้านไปก่อน จนกระทั่งรู้ข่าวจากทีวี รู้สึกตกใจมาก และไม่น่าเชื่อว่าคนที่มีมาดสุภาพ พูดน้อย เรียบร้อย และคนช่วยเหลือผู้อื่นแบบนี้จะมาเป็นนักค้ายาเสพติดเสียเอง
ส่วนพ่อค้าอีกราย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นถึงตำรวจระดับรอง สวป. ไม่น่าจะมามีพฤติการณ์ทำแบบนี้ จึงอยากให้ตำรวจทุกโรงพักคอยสอดส่องพฤติกรรมตำรวจในโรงพักตัวเอง โดยเฉพาะการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ที่ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม หากยังเป็นอยู่เช่นนี้ ประชาชนก็จะไม่ไว้ใจตำรวจเลย เพราะมีหน้าที่จับคนผิด แต่กลับมาทำความผิดเสียเองแบบนี้
ด้าน นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ยังกล่าวถึงกรณี รองสวป.สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ ว่า กรณีนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลงไปขายยาเสพติดเอง ซึ่งเป็นความผิดหนักทั้งทางวินัย และอาญา ทางวินัย ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เลขาฯ ป.ป.ส. มีอำนาจเสนอคณะกรรมการยาเสพติด ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำผิดด้วยยาเสพติดออกจากราชการก่อนได้เลย ส่วนทางคดีอาญา เจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิด มีโทษเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ทั้งนี้ตรวจสอบแล้ว รอง สวป.หนองปลิง รายนี้ ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ที่จะมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับงานปราบปรามยาเสพติด
ล่าสุดมีรายงานว่าผู้ต้องหารายนี้ ยื่นประกันตัวในชั้นศาล และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว แต่ถูกให้ออกจากราชการแล้ว โดยขณะนี้เจ้าตัวไปพักอยู่ที่ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ .-สำนักข่าวไทย
