ลั่นไกตาม ดับ 3 ศพ ปมหึงหวงแชทฝ่ายหญิงปันใจ

ขอนแก่น 17 ม.ค. – เกิดเหตุสลด ยิงกันเสียชีวิต 3 ศพที่จังหวัดขอนแก่น สามี ยิงภรรยา และแม่ยาย ก่อนปลิดชีพตัวเองตาม เจ้าหน้าที่คาดฝ่ายชายเกิดความหึงหวงว่าฝ่ายหญิงปันใจให้ชายอื่น


เมื่อกลางดึกที่ผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งเหตุเข้าตรวจสอบบ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ อำเภอโคกโพธิ์ชัย จ.ขอนแก่น หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆาตกรรม พบผู้เสียชีวิต 3 ศพ คือ สามี อายุ 39 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ แม่ยาย อายุ 52 ปี และภรรยา อายุ 35 ปี ในที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่ใกล้กันกับจุดพบศพ

เช้าวันนี้ ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของฝ่ายหญิง กำลังประกอบพิธีทางศาสนา และเป็นที่ไว้ศพของแม่ยาย รวม 2 ศพ ญาติผู้อยู่ในเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า กลางดึก หลังจากที่ครอบครัวได้รับประทานอาหารร่วมกัน ก็แยกย้ายกันเข้าพักผ่อนตามปกติ ขณะที่ตนเองนอนหลับอยู่ในห้องนอน ได้ยินเสียงฝ่ายภรรยา ร้องตะโกนช่วย อยู่หลายครั้ง จึงวิ่งออกมาดู พบสามี ซึ่งเป็นน้าชาย ถืออาวุธปืนอยู่ในมือ และบอกให้ตนอย่ามายุ่งถ้าไม่อยากตาย จึงวิ่งหนีกลับเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับวิ่งไปบอกป้าที่อยู่บ้านติดกัน จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และนัดสุดท้ายที่ได้ยิน คือเห็นฝ่ายผู้ก่อเหตุ ลั่นไกปลิดชีวิตตัวเอง


เพื่อนบ้านที่ได้ยินเสียงและเป็นผู้แจ้งตำรวจได้ให้ข้อมูล ได้ยินเสียงปืนดังเป็น 2 ชุด ชุดแรก เสียงรัว และได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ ชุดที่ 2 ดัง 1 นัด เมื่อเสียงปืนสงบลง ตั้งสติได้ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ก่อเหตุอาจจะยิงแม่ยาย และภรรยา เสียชีวิตแล้ว จากนั้นได้มาโพสต์เฟซบุ๊ก เป็นแชทการสนทนา และตั้งแคปชันว่าแฟนมีชู้ จากนั้นไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงปืน

ส่วนบ้านฝ่ายชาย ผู้ก่อเหตุ ได้จัดพิธีทางศาสนา โดยแม่ผู้ก่อเหตุให้ข้อมูลว่า ลูกชายโทรมาเมื่อคืนช่วงดึกว่าฝากดูแลลูกด้วย เพราะภรรยาตายแล้ว ซึ่งแม่เข้าใจว่าอาจจะเครียดโทรมาระบาย จึงไม่ได้ใส่ใจ จนญาติมาบอกว่าลูกชายก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งลูกชายทำงานที่ชลบุรีมาเกือบ 10 ปี และจะกลับมาบ้านทุกวันหยุดยาว ได้แต่งงานกับภรรยา มีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนหน้านั้นมีทะเลาะกันบ้างตามภาษาคนมีครอบครัว แต่ไม่มีปัญหาอะไร ลูกชายเป็นคนตั้งใจทำมาหากิน ส่วนเรื่องปืนไม่ทราบว่าเอามาจากไหน ส่วนหลาน ก็ต้องช่วยกันเลี้ยงต่อไป

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลว่า จากการสอบสวน ทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม. ยิงแม่ยาย และภรรยา ก่อนจะยิงตัวเองเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ มูลเหตุจูงใจของคดีนี้ พบว่า มาจากการหึงหวง และฝ่ายชายตรวจสอบข้อมูลจากโทรศัพท์ของภรรยา พบมีการคุยแชทกับชายอื่นจึงโกรธแค้น และก่อเหตุสลดในครั้งนี้ขึ้น ส่วนอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นพบว่า เป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ครอบครองตัวจริง และผู้ก่อเหตุได้มาจากไหน


ส่วนพิธีฌาปนกิจทั้ง 3 ศพ ทางญาติจะดำเนินการตามประเพณี และเผาในวันเสาร์ที่ 20 มกราคมนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข