เชียงใหม่ 10 ม.ค.- ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ สั่งทุกอำเภอ ท้องถิ่น เปิดปฏิบัติการเดินหน้าเข้าหาไฟ ไถกลบตอซังข้าว นำเชื้อเพลิงออก ลดการเผา สร้างอากาศบริสุทธิ์ ขอชาวเชียงใหม่ช่วยกันแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในจังหวัดให้ลดลงให้ได้ร้อยละ 50
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ประชุมร่วมกับนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอ และเทศบาลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังออกประกาศให้วันที่ 1 มกราคม -30 เมษายน 2567 เป็นช่วงจำกัดการเผาหรือควบคุมการใช้ไฟในพื้นที่โล่งทุกชนิด หากจำเป็นต้องเผาต้องขออนุญาตผ่านแอพพลิเคชั่น FireD เท่านั้น โดยขอให้เจ้าหน้าที่พิจารณาให้เฉพาะพื้นที่ที่มีความจำเป็นเท่านั้น หากพบว่าสามารถบริหารจัดการเชื้อเพลิงได้ให้ทำความเข้าใจร่วมกับชาวบ้าน อย่างภาคเกษตร ให้ทำการไถกลบ หรือขนเศษวัสดุไปแปรรูปเป็นพลังงานชีวมวล ส่วนพื้นที่ของชุมชน กำชับให้ทุกเทศบาลจัดหารถเก็บเศษซากวัสดุที่นอกเหนือจากขยะ อาทิ กิ่งไม้ ใบไม้ ยางรถยนต์ เพื่อลดสาเหตุการเผาในเขตเมือง ส่วนพื้นที่ป่าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องชิงเผาด้วยการนำเชื้อเพลิงออกจากป่า หรือนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ลงพื้นที่นำร่องอำเภอสันป่าตอง บริเวณแปลงนา ในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลทุ่งสะโตก เปิดปฏิบัติการเดินเข้าหาไฟ ลดการเผา ด้วยการไถกลบตอซังข้าว หรือเศษพืชผลทางการเกษตร แทนการเผา ภายใต้หลักการ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” โดยอำเภอสันป่าตอง ได้ไถกลบตอซังข้าว ไปแล้ว 9,393 ไร่ จากพื้นที่เกษตรทั้งหมด 13,074 ไร่ ซึ่งชาวบ้านรายใดที่ต้องการความช่วยเหลือในการจัดการ สามารถติดต่อจังหวัดพร้อมให้การสนับสนุนทั้งรถไถและปัจจัยที่จำเป็น
นายนิรัตน์ กล่าวว่า แนวทางเดินเข้าหาไฟ เปลี่ยนพื้นที่เผาไหม้เป็นพื้นที่ปลอดการเผานี้จะขับเคลื่อนเชิงรุกในทุกอำเภอ เพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ให้ลดไฟลดฝุ่นในจังหวัดลงได้ร้อยละ 50 ซึ่งเป็นเรื่องที่คนในจังหวัดทุกคนต้องช่วยกัน เดินหน้าทำในสิ่งที่จัดการได้ไปก่อน ส่วนเรื่องการจราจรที่แออัดและขาดระบบขนส่งสาธารณะของจังหวัดเชียงใหม่ประกอบกับปัจจัยของฝุ่นควันที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเรื่องที่รัฐบาลดำเนินการอยู่แต่ทางจังหวัดก็มีแผนที่จะเสนอต่อนายกรัฐมนตรีให้พิจารณารวมทั้งงบประมาณที่จะขอไปด้วยเช่นกัน. -719-สำนักข่าวไทย