สุพรรณบุรี 3 ม.ค. – ช่วงวันหยุดยาว นักท่องเที่ยวกว่า 2,000 คน แห่เที่ยวสกายวอล์กไม่มีเสาค้ำยาวที่สุดในประเทศ สูงเท่าตึก 12 ชั้น แลนด์มาร์กใหม่สุพรรณบุรี
สกายวอล์กที่ไม่มีเสาค้ำยาวที่สุดในประเทศ ตอนนี้ก่อสร้างคืบหน้าประมาณ 50% แต่จังหวัดเปิดเป็นพิเศษให้นักท่องเที่ยวเข้าชมถึงวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ โดยการเที่ยวชมในขณะนี้ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ ผู้ป่วย หรือผู้ต้องใช้รถเข็น เพราะความสูงเทียบเท่ากับตึก 12 ชั้น และต้องเดินขึ้นเท่านั้น
ดร.สมจินต์ ชาญกระบี่ ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 7 (อพท.7) กล่าวว่า เดิมที่นี่ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มาสำรวจและหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะท่านเจ้าคุณสะอิ้ง หรือพระธรรมพุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ท่านตระเวนดูหลายที่ มาพบว่าตรงนี้เป็นสถานที่มีความเหมาะสม ประกอบกับการขอใช้ที่ดินกับกรมป่าไม้ ทำให้ที่ดินตรงนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และมีประวัติศาสตร์ ท่านเจ้าคุณสะอิ้งพิจารณาแล้วว่ามีความเหมาะสม จึงขอแรงศรัทธาจากประชาชนในการบริจาค เพื่อสร้างองค์พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือหลวงพ่ออู่ทอง และสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ใช้งบ 90 ล้าน แล้วเสร็จปี 2562 ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธศาสนา ด้วยการแกะสลักพระใหญ่ สูง 108 เมตร ฐานกว้าง 88 เมตร หน้าตักกว้าง 65 เมตร
ส่วนสกายวอล์กเป็นงานต่อเนื่องจากนายสมศักดิ์ ภูรีศรีศักดิ์ อดีตผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ที่ได้หารือกับอดีตผู้ว่าฯ นิมิต วันไชยธนะวงศ์ อพท. ได้รับช่วงในการออกแบบสกายวอล์ก ใช้งบประมาณตอนนี้ 153 ล้านบาท โดยเป็นการของบจากกลุ่มจังหวัด ทำเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว การก่อสร้างเริ่มตั้งแต่ปี 2563 จะเสร็จสิ้นช่วงต้นปี 2568 ความยาว 500 เมตร สูง 32 เมตร และอนาคตจะติดตั้งลิฟต์แก้วให้คนขึ้นไปชมทิวทัศน์ ยืนยันที่นี่จะเป็นสกายวอล์กที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นสกายวอล์กที่ไม่มีเสาค้ำ ส่วนการก่อสร้างได้จะเจาะภูเขาเข้าไป ซึ่งการยึดต้องเจาะเข้าไปถึงชั้นหินเฟรชโตน คือชั้นหินที่มีความหนาแน่นสูง แล้วฝังเหล็กข้ออ้อย 24 มิลลิเมตร เข้าไป 6 เส้น ยึดติดกับแป้นผนัง และหน้าผาหิน เรื่องความปลอดภัยให้มั่นใจ เพราะใช้วิศวกรเหมืองแร่ วิศวกรโยธา และอีกวิศวกรที่เกี่ยวข้องมาทำร่วมกัน เพื่อให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยและก็สวยงามที่สุด
นอกจากพระแกะสลักองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สกายวอล์กที่นี่ยังพัฒนาให้มีน้ำตก และเตรียมทำโซลาร์ฟาร์ม เพื่อนำไฟมาป้อนเป็นศูนย์เรียนรู้การใช้พลังงานทดแทน นอกจากได้มาเที่ยวแบบหวาดเสียว ยังได้เรียนรู้ ไหว้พระ และชมความงามได้แบบเต็มอรรสรถ. – สำนักข่าวไทย