อยุธยา 3 ม.ค. – รถตู้รับส่งผู้โดยสารพุ่งชนต้นไม้ ทำให้ผู้โดยสาร 16 คน ได้รับบาดเจ็บ ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 คน ขณะที่ขนส่งตรวจสอบรถตู้ไม่ได้เชื่อมระบบ GPS ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบความเร็วที่ขับได้
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 05.00 น.ที่ผ่านมา บนถนนโรจนะ มุ่งหน้าศาลากลางเก่าอยุธยา ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา โดยพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งรถตู้รับส่งผู้โดยสารพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง ที่เกิดเหตุพบรถตู้โดยสารทะเบียนกรุงเทพมหานคร อยู่ในสภาพถูกอัดกับต้นไม้จนห้องเครื่องยุบไปถึงในรถ ส่วนด้านหน้าพบคนเจ็บถูกอัดก๊อปปี้ติดอยู่ เมื่อช่วยออกมาได้พบว่าเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ผู้โดยสารที่เหลืออีก 15 คน ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เล่าว่า ช่วงที่นอนอยู่ในบ้านได้ยินเสียงยางระเบิด ก่อนมีเสียงชนดังสนั่นตามมา เมื่อออกมาดูก็เห็นรถตู้อัดเข้ากับต้นไม้ มีคนเจ็บหลายคน
ส่วนผู้โดยสาร เล่าว่า นั่งรถมาจากนครพนมตั้งแต่ 17.00 น. เมื่อวาน (2 ม.ค.) เพื่อมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ หลังจากหยุดช่วงปีใหม่ ส่วนคนในรถมีนั่งมา 16 คน ตัวเองนั่งอยู่เบาะหลังสุด และมีผู้โดยสาร 1 คน ต้องลงที่อยุธยา รถตู้จึงแวะเข้ามาส่ง ตอนนั้นทุกคนในรถหลับกันหมด จนกระทั่งได้ยินเสียงยางระเบิดและรถตู้พุ่งชนต้นไม้ ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในรถต่างกระเด็นอัดกัน เมื่อเหตุการณ์สงบ บางคนออกมานอกรถเอง
ล่าสุด นางสาวพิศมัย เกิดทรัพย์ ขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ข้อมูลเพิ่มว่า การตรวจสอบและสอบถามผู้ที่โดยสารมากับรถตู้ ทำให้ทราบว่ารถตู้คันดังกล่าวมีการเสริมเบาะนั่งเพิ่ม และรถไม่ได้เชื่อมต่อระบบ GPS ของกรมการขนส่ง รวมถึงไม่มีการสแกนใบขับขี่เข้าระบบ ทำให้ระบุความเร็วระหว่างขับรถไม่ได้ แต่ผู้โดยสารส่วนใหญ่เล่าว่าคนขับรถตู้ขับด้วยความเร็วสูงตลอดทาง
ส่วนพนักงานสอบสวน ย้ำว่ารถตู้คันดังกล่าวพุ่งชนทางเดินเท้าริมถนน ก่อนเสียหลักรถหมุนและพุ่งชนต้นไม้ ส่วนคนเจ็บยืนยันว่ามี 4 คน ยังอยู่โรงพยาบาล และมีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ นางสาวปนัดดา อายุ 22 ปี ส่วนคนขับรถตู้ที่อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี
นายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะทำงานศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พระนครศรีอยุธยา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อวางแนวทางในการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ เบื้องต้นพบว่าในที่เกิดเหตุมีไฟส่องสว่างเพียงพอ รวมถึงช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นช่วงถนนโล่ง ทัศนวิสัยในการขับขี่ชัดเจน ทำให้คาดการณ์ว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากตัวคนขับรถตู้เอง.-สำนักข่าวไทย