ประจวบคีรีขันธ์ 23 ธ.ค. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดไม่หยุด อ้างเป็นกรมบัญชีกลาง หลอกเจ้าหน้าที่ป่าไม้เกษียณ ให้โหลดแอปฯ รับเงินค่าตอบแทนพิเศษ ก่อนดูดเงินเกลี้ยงบัญชี
เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.66) นายสมพงษ์ อดีตเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าโดนแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โหลดแอปฯ จากลิงก์ โดยหลอกให้เชื่อว่าเป็นแอปจากกรมบัญชีกลาง เพื่อจะจ่ายเงินค่าตอบแทนหลังจากเกษียณราชการ จากนั้นก็ถูกดูดเงินจากบัญชีจนเกลี้ยง
นายสมพงษ์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา ตนเองได้รับโทรศัพท์จากสายหนึ่ง อ้างว่าเป็นฝ่ายการเงินจากกรมอุทยานฯ สอบถามว่าหลังจากเกษียณมาทางกรมฯ มีเงินค่าตอบแทนพิเศษให้หรือไม่ จากนั้นก็แจ้งว่า ตอนนี้ทางกรมมีโครงการจะจ่ายเป็นค่าตอบแทนเป็นเงินตกเบิกให้เป็นเงินก้อนหนึ่งเกือบ 6 หมื่นบาท แต่ต้องให้ข้อมูลกับกรมบัญชีกลางเสียก่อน ต่อจากนั้นไม่นานก็มีสายเข้ามาเป็นอีกเบอร์หนึ่งแจ้งว่าจากกองบำเหน็จบำนาญ บอกว่ามีเงินตกเบิกจะจ่ายให้ แต่ต้องให้ยื่นคำร้องโดยการกดลิงก์เข้าไป แล้วให้ใส่ข้อมูลต่าง ๆ โดยหลังจากทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่ระบบแจ้งมา สักพักก็มียอดเงินโอนเข้าบัญชี 17,000 บาท เป็นยอดแรก โดยจะมีโอนตามมาอีกยอด ทำให้ตนเองเชื่อถือว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง
ระหว่างนั้นก็ได้ติดต่อโทรทางไลน์อีกว่าให้โอนเงินจากบัตรเครดิตของธนาคารเข้ามาให้ในบัญชีธนาคารกรุงไทยของตนเอง ในตอนนั้นตนเองเห็นว่ามีเงินเข้ามาในบัญชี 17,000 บาท แล้วจึงไม่ได้เฉลียวใจ จึงกดโอนเงินจากบัตรเครดิจเข้าในบัญชีอีกจำนวน 33,000 บาท แต่เนื่องจากการโอนเงินจากบัตรเครดิตต้องใช้เวลาสักพัก ในระหว่างนั้นตนเองรู้สึกแปลกใจที่ทุกอย่างเงียบไปไม่มีการแจ้งยอดเงินที่เหลือ อีก 47,000 บาทเข้ามา ตนเองจึงเข้าเช็กยอดเงินจากแอปพิเคชันของธนาคาร และพบว่ายอดเงินเหลือ 0 บาท จึงทำให้ทราบว่าตนเองต้องโดนแฮกข้อมูล จึงโทรเข้าไปยังธนาคารขอให้ระงับการใช้งานบัญชีของตนชั่วคราว แล้วตรวจสอบจากแอปฯ ธนาคาร พบว่ายอดเงินทั้งหมดของตน ซึ่งมีเงินของตัวเองอยู่ 29,410 บาท ถูกโอนไปยังบัญชีของนายไชยมงคล ส่วนยอดเงินที่จะโอนจากบัตรเครดิตนั้น ยอดเงินยังไม่ทันเข้าบัญชี ทำให้มิจฉาชีพได้เงินไปเพียงยอดเดิมที่มีอยู่ในบัญชีเท่านั้น
ตนเองจึงรวบรวมหลักฐาน เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.กุยบุรี เพื่อแจ้งความเอาผิดกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยทางพนักงานสอบสวนแจ้งว่าจะส่งเรื่องดังกล่าวให้ “กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” หรือ “กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์” ดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ นายสมพงษ์ ยังฝากเตือนไปยังทุกคนว่าหากได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างว่ามาจากหน่วยงานต่าง ๆ และหากมีการบอกให้โหลดแอปฯอะไรก็อย่าได้หลงเชื่อทำตามโดยเด็ดขาด มิฉะนั้นก็อาจจะโดนหลอกแบบตนเอง .-สำนักข่าวไทย