ภูเก็ต 22 ธ.ค. – ตามต่อกับความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งสำนักข่าวไทยได้ไปตรวจสอบ หลังชาวบ้านร้องเข้ามา กรณีมีรถบรรทุกดินกว่า 500 เที่ยว/วัน วิ่งไปมาโดยไม่มีผ้าใบคลุม ทำให้ฝุ่นตลบ จนถูกตั้งข้อสงสัยว่า เป็นการทำผิดกฎหมายอย่างเห็นได้ชัด แต่ทำไมไม่มีการจับกุม ล่าสุดตำรวจออกมายืนยันว่า ไม่มีเรื่องส่วยใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน
จุดที่ชาวบ้านร้องเรียน คือ พื้นที่หมู่ 1 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเดือดร้อนจากผลกระทบรถบรรทุกดิน ที่แต่ละวันมีมากกว่า 500 เที่ยว วิ่งผ่านถนนทางหลวงหมายเลข 402 และผ่านชุมชน เกิดฝุ่นในปริมาณมาก กระทบกับการใช้ชีวิตของชาวบ้าน
ล่าสุดวันนี้ (22 ธ.ค.66) ชาวบ้านบอกว่า ผู้ประกอบการบริษัทที่ทำการบรรทุกดิน ได้ชะลอการบรรทุกดินชั่วคราว แต่สิ่งที่สังคมตั้งข้อสังเกต คือ รถบรรทุกที่วิ่งมากกว่า 500 เที่ยว/วัน หรือบางวันมากถึง 800 เที่ยว โดยไม่มีการคลุมผ้าใบ เป็นการกระทำเข้าข่ายผิดกฎหมายจราจร และกฎหมายขนส่งฯ แต่ทำไมจึงไม่มีการจับกุม
ทีมข่าวได้ไปสอบถาม พ.ต.อ.กัณต์ชวิศ โพธิ์ประสิทธิ์ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องของส่วยรถบรรทุกดินเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาทางตำรวจจราจร สภ.ท่าฉัตรไชย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และทำการจับปรับมาอย่างต่อเนื่อง มีตัวเลขสถิติที่สามารถดูได้ มีอัตราค่าปรับครั้งละ 2,000 บาท พร้อมกันนี้ยังได้ให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการในการปรับปรุง ใช้ผ้าใบคลุมก่อนที่จะออกรถทุกครั้ง และให้มีการทำที่สะบัดดินและล้างล้อรถ รวมถึงจุดพักก่อนขึ้นถนนใหญ่ โดยเฉพาะบริเวณถนนที่จะต้องผ่านบ้านเรือนประชาชน ย้ำว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งดูดาย มีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบสม่ำเสมอ หากพบการกระทำผิดก็จับกุมดำเนินคดีทันที
สำหรับมาตรการที่ชาวบ้านเรียกร้องขอให้บริษัทผู้รับเหมาเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นที่เกิดขึ้นในปริมาณมาก คือ ขอให้ใช้ผ้าใบปิดทับคลุมดินที่บรรทุกให้ถูกต้องตามกฎหมายขนส่งฯ และจำกัดเวลาวิ่ง ระหว่าง 08.00-18.00 น. รวมถึงทำจุดล้างล้อรถเพิ่มเติม. – สำนักข่าวไทย