แจ้งจับ “ป้าบริโอในตำนาน” พร้อมลูกชาย ทำร้าย-ชิงไอโฟน

นนทบุรี 3 ธ.ค. – แม่ลูกอ่อนแจ้งจับ “ป้าบริโอในตำนาน” พร้อมลูกชาย บุกทำร้ายร่างกายหน้าบ้านพักย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนชิงโทรศัพท์ไอโฟน


ภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าหญิงสาวเสื้อขาว ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.นาเดียร์ กำลังถูกชายเสื้อสีเทาซึ่งเป็นลูกของป้าบริโอ ทำร้ายทั้งจิกผมและใช้เล็บจิกใบหน้า ก่อนที่ชายคนก่อเหตุจะหยิบโทรศัพท์ของผู้บาดเจ็บส่งให้กับป้าบริโอ ซึ่งเวลานั้นป้าบริโอกำลังถ่ายคลิปวิดีโออยู่ หลังป้าบริโอได้โทรศัพท์ของผู้บาดเจ็บไปรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน จากนั้นออกมาช่วยลูกชายจิกผมผู้บาดเจ็บ ก่อนจะวิ่งกลับเข้าบ้านไปอีกครั้ง โดยผู้บาดเจ็บได้เดินไปตามทวงโทรศัพท์มือถือคืน

หลังเกิดเหตุผู้เสียหายคือ น.ส.นาเดียร์ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยมีภาพวงจรปิดเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับคู่กรณี จากนั้นได้ร้องเรียนไปยังผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านเกิดเหตุพบว่าบ้านของคู่กรณีทั้งสองเป็นบ้านแฝด ผนังบ้านด้านหนึ่งติดกัน จุดที่เกิดเหตุเป็นบริเวณหน้าบ้าน และได้พบ น.ส.นาเดียร์ ผู้เสียหาย และแฟนหนุ่ม


น.ส.นาเดียร์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากพาลูกชายวัย 1 เดือน กลับจากไปหาหมอและมานั่งอยู่โต๊ะหินหน้าบ้าน โดยแฟนไม่อยู่บ้าน ออกไปทำรถข้างนอก จังหวะนั้นลูกชายป้าบริโอ ผู้ก่อเหตุ เดินมาด้อมๆ มองๆ ที่หน้าบ้าน ตนเลยถามไปว่ามาทำไม ผู้ก่อเหตุบอกว่ามาเก็บใบไม้ จึงบอกกับผู้ก่อเหตุไปว่าไม่ชอบให้คนอื่นมาที่หน้าบ้านของตน ผู้ก่อเหตุก็ด่าตนด้วยคำหยาบคายทันที จากนั้นนำโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอ ตนจึงเดินออกไปหน้าบ้าน นำโทรศัพท์ออกไปไลฟ์เลยว่าแม่ลูกคู่นี้พูดจาแบบนี้ วอนให้นักข่าวและตำรวจเข้ามาดูหน่อย แต่ผู้ก่อเหตุกลับเป็นคนพูดจาดีมากขึ้นมา จึงพยายามเดินไปหาแม่เขา แต่ผู้ก่อเหตุกันไว้โดยการถีบและจิกหัวตน ตนเลยจิกหัวเขากลับ แล้วลากตัวไปที่หน้าบ้านของตนเพื่อให้กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ ส่วนแม่ของเขาคือ ป้าบริโอ พยายามถ่ายคลิป ส่วนผู้ก่อเหตุก็มาคว้าเอาโทรศัพท์ตนไปให้แม่เขาเอาไปเก็บไว้ในบ้าน ลูกเขายังใช้มือจิกที่ลูกตาและใบหน้าของตน จากนั้นแม่เขาวิ่งออกมาให้ตนปล่อยลูกเขา จึงยอมปล่อยและแยกย้ายกันเข้าบ้าน

ด้านแฟนหนุ่มของ น.ส.นาเดียร์ บอกว่า เมื่อกลับมาถึงบ้านพบว่าคู่กรณีกำลังจะขับรถออกจากบ้านไป แต่ระหว่างที่เขากำลังจะปิดประตูรถ ตนจึงเข้าไปถามว่ามาทำร้ายแฟนตนทำไม ผู้ก่อเหตุกลับกระโดดถีบตน ส่วนแม่เขายืนด่าตนด้วยคำหยาบคาย พร้อมทั้งถ่ายคลิป ระหว่างนั้นตนได้ปัดโทรศัพท์เขาไม่ให้ถ่าย เพราะตนมีหลักฐานอยู่แล้ว ขณะนั้นผู้ก่อเหตุเอากุญแจรถมากำไว้ในมือและต่อยมาที่ใบหน้าตน ตนจึงคว้ากุญแจมาถือไว้ แต่เมื่อตำรวจมาถึงผู้ก่อเหตุกลับบอกว่าตนขโมยกุญแจเขาไป โดยปกติบ้านตนและบ้านป้าบริโอมีปัญหากันเกือบทุกวันอยู่แล้ว ซึ่งอยู่ที่บ้านหลังนี้ก่อนสองแม่ลูก 10 ปี รู้สึกรำคาญเขามาก แจ้งตำรวจมาดูก็ทำอะไรไม่ได้ อยากให้หน่วยงานต่างๆ ลงมาช่วยเหลือแต่ยังไม่มีใครลงมา เกรงว่าเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นมากกว่านี้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสอบถามป้าบริโอในตำนาน โดยกดกริ่งเรียก ปรากฏว่าป้าบริโอไม่ออกมาให้ข้อมูล แต่กลับไปยืนอยู่บนระเบียงบ้านแล้วตะโกนลงมาว่าจะสอบถามไปทำไม และตนไม่ใช่เพื่อนบ้านใคร บอกว่าหากสื่อลงข่าวบิดเบือนพร้อมจะดำเนินคดี จากนั้นมีการถ่ายภาพผู้สื่อข่าวและผู้บาดเจ็บ โดยไม่เปิดประตูออกมาและไม่ให้ข้อมูลใดๆ


ด้านชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ปกติบ้านสองหลังนี้มักมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันทุกวัน เคยมีตำรวจ ศูนย์ดำรงธรรม สำนักนายกฯ ก็เคยเข้ามา แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นักข่าวมาทำข่าวก็จะโดนฟ้องไปเกาะรั้วบ้านเขา บ้านนี้เป็นคนดัง ออกทีวีมาแล้วทุกช่อง อบต. ปลัดอำเภอ ก็โดนด่ากันหยาบๆ ส่วนตัวอยากให้เขาย้ายออกไปจากตรงนี้ แต่ก็รอมาหลายปีแล้ว

สำหรับ “ป้าบริโอในตำนาน” ที่หลายคนรู้จักชื่อเสียงในการสร้างวีรกรรมบนท้องถนนในพื้นที่ อ.บางบัวทอง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ที่ถูกแชร์ผ่านโซเชียลหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 2561เรื่อยมา ทั้งขับรถปาดหน้า เบรกกะทันหัน บีบแตรลากยาว และด่าทอด้วยคำหยาบคาย จนได้ตำนาน “ป้าบริโอ้ รถเก๋งสีฟ้า ขับรถหัวร้อน ทั่วเมืองนนท์” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]