fbpx

ศาลไม่ให้ประกันอดีตสามีฆ่าโหดสาว อบต.

สุราษฎร์ธานี 27 พ.ย. – คดีโหดที่ จ.สุราษฎร์ธานี อดีตสามีฆ่าโบกปูนภรรยาสาว อบต. วันนี้ ตำรวจคุมตัวไปฝากขัง และศาลไม่ให้ประกันตัว


หลังเมื่อวานนี้ (26 พ.ย.66) ตำรวจนำตัวนายประสิทธิพร อายุ 39 ปี ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตสามี น.ส.กวินนา หรือ ฝน อายุ 38 ปี ผู้เสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ วันนี้ (27 พ.ย.66) พนักงานสอบสวน สภ.บ้านนาสาร และ สภ.ขุนทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่พบศพ น.ส.กวินนา ได้สอบปากคำนายประสิทธิพรอีกครั้ง ก่อนคุมตัวไปฝากขังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย โดยศาลไม่ให้ประกันตัวตามคำคัดค้านของพนักงานสอบสวน เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ขณะที่ญาติของผู้ต้องหาก็ไม่ได้มายื่นประกันตัวแต่อย่างใด

คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ เพราะนอกจากผู้ก่อเหตุเป็นอดีตสามีที่ลงมือฆ่าอย่างเหี้ยมโหดแล้ว เจ้าตัวยังเป็นคนไปแจ้งความว่า ผู้เสียชีวิตหายตัวไป และใช้เวลาถึง 12 วัน จึงจับผู้ก่อเหตุได้


ย้อน 12 วัน คดีอดีตสามีฆ่าโหดสาว อบต.

ย้อนคดีไปเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ประมาณ 20.00 น. นายประสิทธิพร ผู้ก่อเหตุ มีปากเสียงทะเลาะกับ น.ส.กวินนา เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายฯ อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ ซึ่งเป็นอดีตภรรยา เพราะเรื่องหึงหวง เจ้าตัวอ้างว่า น.ส.กวินนา ใช้ถ้อยคำดูถูกเหยียดหยาม จนไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ จึงผลักอีกฝ่ายล้มลงบนที่นอน ก่อนตามไปบีบคอจนเสียชีวิต และคิดหาทางเคลื่อนย้ายศพ เพื่อปกปิดความผิด

ประมาณ 21.00 น. ได้นำศพอดีตภรรยาขึ้นรถกระบะ โดยวางไว้เบาะหน้าข้างคนขับ ขับไปถึง อ.เวียงสระ แต่ยังหาที่ทิ้งไม่ได้ ต้องขับย้อนกลับมา และพบจุดทิ้งศพในพื้นที่ ต.ขุนทะเล ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 14 พฤศจิกายน ผู้ก่อเหตุได้นำศพมาวางไว้ใกล้ท่อระบายน้ำ แล้วใช้ใบตองปิดบังศพไว้ จากนั้นได้กลับบ้าน หวังจะนำที่นอน ซึ่งเป็นจุดก่อเหตุ ไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า แต่ร้านปิด จึงทิ้งที่นอนไว้หน้าร้าน


ต่อมาเริ่มมีคนสงสัยว่า น.ส.กวินนา หายตัวไป และได้มาตามหาที่บ้าน ทำให้วันรุ่งขึ้น 15 พฤศจิกายน ช่วงเที่ยงๆ นายประสิทธิพร ผู้ก่อเหตุ ตัดสินไปแจ้งความที่ สภ.บ้านนาสาร เพื่อจัดฉากแสดงความบริสุทธิ์ ไม่เพียงเท่านั้น ยังสร้างสถานการณ์ โดยขอให้เพื่อนที่ จ.สมุทรปราการ เขียนจดหมายอ้างเป็นจดหมายของอดีตภรรยา ส่งไปถึงเพื่อนที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในลักษณะทำนองว่าได้ออกจากบ้านไปเอง

หลังไปแจ้งความ นายประสิทธิพร ได้ย้อนกลับไปดูจุดที่ทิ้งศพอีกครั้ง พอเห็นสภาพศพก็กลัวว่าจะมีคนมาพบ จึงไปซื้อปูนทรายสำเร็จรูปมาโบกทับศพ ในช่วงบ่ายวันที่ 16 พฤศจิกายน และระหว่างเดินทางกลับบ้าน ก็ได้นำทรัพย์สินส่วนตัวของอดีตภรรยา เช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ ไปทิ้งตามจุดต่างๆ

เป็นเวลา 12 วัน ที่เพื่อนๆ และตำรวจตามหา น.ส.กวินนา จนกระทั่งวันที่ 25 พฤศจิกายน ตำรวจได้สอบปากคำนายประสิทธิพรอีกครั้ง หลังพบพิรุธคำให้การขัดแย้งกับหลักฐาน แต่เจ้าตัวยังยืนยันความบริสุทธิ์ และช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้นเอง ตำรวจพบศพ น.ส.กวินนา และตามไปจับกุมนายประสิทธิพร เจ้าตัวจำนนต่อหลักฐาน ที่สุดรับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุ เพราะความหึงหวง แม้จะเลิกรากันไปแล้ว โดยลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เศร้ารับวันแรงงาน! โรงงานประกาศปิดกิจการกะทันหัน

พนักงานโรงงานผลิตกระจกเก่าแก่ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการฯ จ.สมุทรปราการ ให้นายจ้างจ่ายชดเชยตามกฎหมาย หลังโรงงานติดประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด

“อธิบดีกรมโรงงาน” ลาออกแล้ว ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้

“จุลพงษ์ ทวีศรี” อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ยื่นหนังสือลาออก ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้ เจ้าตัวเผยน่าจะมีความเหมาะสมที่สุดแล้ว ผู้บริหารจะได้หาคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทน

ข่าวแนะนำ

อากาศร้อนจัด “รางรถไฟโก่งคด” ช่วงร่อนพิบูลย์ 

การรถไฟฯ ชี้แจงเหตุรางรถไฟระหว่างสถานีร่อนพิบูลย์ – สถานีชุมทางเขาชุมทองมีลักษณะคดงอ เกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด สามารถแก้ไขและเดินขบวนรถได้ตามปกติ

คุมได้แล้วไฟไหม้โกดังสารเคมี-ปิด รพ.ภาชี ชั่วคราว

คุมได้แล้วไฟไหม้โกดังสารเคมี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ด้าน รพ.ภาชี ปิดบริการชั่วคราว เนื่องจากอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ

เตือนพายุฤดูร้อน ฉ.3 ฝนถล่มหลายจังหวัด 3-7 พ.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือน พายุฤดูร้อนบริเวณไทยตอนบน ฉบับที่ 3 มีผลกระทบ 3-7 พ.ค.67 โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง