อยุธยา 17 พ.ย. – 9 รุ่นพี่วิทยาลัยเทคนิคดังอยุธยาโดน 2 ข้อหาหนัก แอบรับน้องสุดโหดไฟจี้ราวนม เหล็กแทงอกรุ่นน้องวัย 16 เสียชีวิต
เฟซบุ๊กต้นเรื่องที่ญาติโพสต์เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับหลานชาย คือ น้องอาชิ อายุ 16 ปี เรียน ปวช.ปี 2 แผนกช่างก่อสร้าง วิทยาลัยเทคนิคชื่อดังของ จ.พระนครศรีอยุธยา ใจความสำคัญคือคาใจเรื่องการเสียชีวิตของหลาน โดยบอกว่า “หลานฉันไม่ได้จมน้ำ โดดน้ำตาย แต่เป็นการพยายามฆ่าโดยเจตนา ปกปิด อำพรางคดี อยากให้ผู้เกี่ยวข้องแสดงความรับผิดชอบ คนตายทั้งคน ผ่านมากี่รุ่น กี่คน แต่รุ่นนี้ไม่ยอม ลูกเขามีพ่อมีแม่ มีพี่น้องมีญาติ อย่าเอามาแลกกับชื่อเสียงโรงเรียน” พร้อมทิ้งท้าย “คุมลูกศิษย์ตัวเองยังไม่ได้ ริจะมาสั่งคนอื่น”
ญาติบอกที่โพสต์แบบนี้เพราะเห็นว่าหลานที่เสียชีวิตอยู่ริมคูน้ำ ตามตัวมีรอยฟกช้ำ ส่วนราวนมมีร่องรอยถูกไฟจี้ บริเวณหน้าอกถูกของแหลมแทง กลางหลังถูกพ่นด้วยสีสเปรย์ และการพิสูจน์เบื้องต้นคาดเหตุเกิดหลังอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งใน ต.สามบัณฑิต อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ หลังญาติโพสต์เฟซบุ๊ก ตำรวจได้เรียก 9 รุ่นพี่ และ 6 รุ่นน้อง ที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบสวนอย่างละเอียด โดยรุ่นพี่ทั้ง 9 คน ยอมรับทำให้อาชิเสียชีวิตจริง ตำรวจจึงแจ้ง 2 ข้อหาหนัก คือ ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต และข่มเหงจิตใจให้ผู้อื่นกระทำการใดจนเสียชีวิต
แม่ช็อก ลูกบอกไปเที่ยว แต่ถูกรับน้องดับอนาถ
ผู้สื่อข่าวไปพูดคุยกับแม่ของน้องอาชิ ที่กำลังจัดงานศพให้กับน้องอาชิ แม่เล่าย้อนเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน น้องอาชิได้โทรมาหาแม่ แล้วบอกว่าขออนุญาตไปเที่ยวกับเพื่อน แม่ก็ให้ไป แต่พอช่วงบ่ายมีคนโทรมาบอกแม่ว่าลูกชายเล่นน้ำแล้วมีอาการชัก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แม่รีบตามไปที่โรงพยาบาล ทำให้พบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว จากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
เพื่อนเปิดปาก “รุ่นพี่ยำรุ่นน้องเละ” ก่อนอ้างจมน้ำดับ
แม่บอกด้วยว่า ต่อมาเพื่อนของลูกมาบอกว่า “ไม่สบายใจ อยากมาพูดความจริงว่าอาชิไม่ได้จมน้ำตามที่รุ่นพี่บอก” โดยวันนั้นน้องอาชิไม่ได้ไปเที่ยว แต่ถูกรุ่นพี่ที่สถาบันชื่อ “แก๊งบึงพระราม” นัดไปทำกิจกรรมรับน้องนอกสถานที่ และเกิดเหตุทำร้ายร่างกาย โดยรุ่นพี่เตะไปที่หลังของอาชิ มีการฉีดสเปรย์พ่นหลัง เอาไฟจี้หน้าอก เอาเหล็กแทงหน้าอก ทั้งที่ตอนแรกถามแต่ละคนต่างก็พูดไม่ตรงกัน พร้อมย้ำว่าญาติเข้าใจว่าเรื่องนี้สถาบันอาจไม่เกี่ยวข้อง แต่หากเป็นไปได้อยากให้ช่วยตรวจสอบจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก.-สำนักข่าวไทย