ตรัง 14 พ.ย. – ตำรวจยังไม่ยอมแพ้ แม้เผชิญอุปสรรคในการไล่ล่า “เสี่ยแป้ง” บนเทือกเขาบรรทัด เจอทั้งฝนถล่ม – ทากรุมกัด แต่ยังสับเปลี่ยนกำลังเข้าพื้นที่ต่อเนื่อง
ความคืบหน้าการตามล่าตัว เสี่ยแป้ง นาโหนด ที่อยู่ระหว่างหลบหนี ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่บอกว่า มีอุปสรรคในการตามล่าเสี่ยแป้ง เพราะนอกจากวันนี้จะเข้าสู่วันที่ 7 แล้ว แต่การตามจับตัวเสี่ยแป้งบนเทือกเขาบรรทัด ยังไม่บรรลุ แถมชุดสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ยังบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ภารกิจข้ามเขาอีกลูกที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างบ้านตระ กับถ้ำภูผาเพชร จังหวัดสตูล เพื่อควานหาตัวเสี่ยแป้ง เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะมีฝนตกโปรยปรายตลอดทั้งวัน แถมยังเจอสภาพสะพานขาด ยางรถรั่ว โซ่หลุด ทางเดินลื่น ชัน เพราะมีน้ำหลากลงตลอด ส่วนหากเดินเท้าในบางจุดที่รถเข้าไม่ถึง ต้องเดินไปกลับเป็นระยะทาง 22 กิโลเมตร และต้องผจญกับฝูงทากดูดเลือด แม้จะสวมชุด ถุงเท้ารองเท้าอย่างดีแล้วก็ตาม
ส่วนตำรวจชุดแดนไทย 54 และ ตชด. ชุดพลร่มนเรศวร ที่เดินทางจากเพชรบุรีมาร่วมปฏิบัติการตามล่าเสี่ยแป้ง ก็เจออุปสรรคน้ำป่าไหลลงคลองน้ำตกท่าช้าง จะเข้าไปสับเปลี่ยนกำลัง ก็ติดน้ำป่าไหลหลาก ต้องนอนค้างแรมในป่า ประกอบกับฝนตกหนักไม่หยุด แต่เจ้าหน้าที่มีอาหารเตรียมมาแค่ 3 มื้อ ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนใช้ ฮ. ส่งอาหาร แต่ในเมื่อฝนไม่หยุดก็บินส่งอาหารไม่ได้ เพราะป่าเขาบรรทัดมีหมอกคลุมภูเขาทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม แม้มีอุปสรรค แต่เจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังมากกว่า 400 นาย มาสับเปลี่ยนกันเพื่อคุมเชิงรอบพื้นที่เชิงเขา เพื่อตามล่าตัวเสี่ยแป้ง
อย่างไรก็ตาม ขณะเจ้าหน้าที่พบอุปสรรค ชาวบ้านในพื้นที่บ้านตระ กลับคึกคัก เพราะนอกจากจะได้มีอาชีพเพิ่มในการซ่อมรถจักรยานยนต์ของชุดล่าตัวเสี่ยแป้ง บางคนที่ไม่ได้ออกไปกรีดยาง ก็หันมาบริการรถรับส่งทั้งตำรวจและนักข่าว ทำให้ชาวบ้านบางคนมีรายได้มากกว่า 2,000 บาทต่อวัน อย่าง น.ส.ขวัญ หรือเจ้ขวัญ หญิงแกร่งแห่งบ้านตระที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านตระมาหลายปี ได้รับจ้างขี่รถขึ้น-ลงพื้นที่บ้านตระวันละ 3-4 เที่ยว ทั้งที่แต่เดิมมีอาชีพกรีดยาง รับจ้างขนสินค้าเกษตร เช่น สะตอ ผักและผลไม้ จากบ้านตระลงไปที่น้ำตกโตนตก และน้ำตกโตนเต๊ะ แต่ช่วงนี้เพื่อความปลอดภัย เลยมาทำอาชีพรับจ้างขับรถนำทางตำรวจกับนักข่าว คิดตามระยะทางความยาก-ง่ายไม่เท่ากัน เริ่มตั้งแต่ 500-700 บาท เรียกว่ารายได้ต่อวันดีทีเดียว .-สำนักข่าวไทย