ขอนแก่น 13 พ.ย. – พ่อวัย 37 ปี ขับรถกระบะตามเคลียร์ปัญหากลุ่มวัยรุ่นทำร้ายลูกชายวัย 13 ปี แต่คู่กรณีไม่ยอมหยุดคุย จึงขับรถพุ่งชนขาขาด 1 คน ตกเป็นผู้ต้องหาฐานพยายามฆ่า แถมชนผิดตัว เพราะไม่ใช่คนทำร้ายลูกชาย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นคืนวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บนถนนชุมแพ-สีชมพู บ้านหนองไผ่เหนือ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น นายศราวุธ อายุ 37 ปี ขับรถกระบะพุ่งชนรถจักรยานยนต์จนพังยับเยิน ขณะที่รถกระบะคันก่อเหตุตกข้างทาง เป็นเหตุให้วัยรุ่น 3 คน ที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กันมาได้รับบาดเจ็บ ขาขวาขาด ขาซ้ายหัก
ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมา (13 พ.ย.) นายไพศาล วงษ์ชีวะสกุล รักษาราชการแทนนายอำเภอชุมแพ นำกระเช้าเข้าเยี่ยมนายอั๋น ผู้บาดเจ็บ ส่วนเรื่องคดีผู้บาดเจ็บจะดำเนินการจนถึงที่สุด และอยากให้ผู้ก่อเหตุมาเยียวยาความพิการ
ทั้งนี้ นายอั๋นยืนยันว่าไม่ได้ร่วมก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกชายของคนขับรถกระบะ เพียงแต่ไปเป็นเพื่อนเพื่อเคลียร์ปัญหาที่บ้านผู้ใหญ่บ้านหนองไผ่เหนือ ระหว่างขับรถจักรยานยนต์เข้าไปกัน 2 คัน คันของคู่กรณีทำร้ายร่างกายน้องวัย 13 ปี ซึ่งซ้อนกันมา 2 คน ตกใจเสียงชาวบ้านที่ตะโกนชี้เป้าคนที่ก่อเหตุ จึงขับรถออกไป รถคันของตนที่ซ้อน 3 ก็ขับตามไป ก่อนมีรถกระบะขับไล่ชน ยืนยันว่าไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เจตนาชน ชนเสร็จมีเสียงด่าทอตามมาด้วย เจ้าตัวฝากถามเพียงแค่ถามกันก่อนให้รู้ต้นสายปลายเหตุ ตนไม่ต้องเสียขา กลายเป็นคนพิการ ยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะใช้ชีวิตต่ออย่างไร เพราะเป็นเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว เป็นพนักงานปั๊มแก๊ส รายได้วันละ 325 บาท ความพิการอาจทำให้ต้องตกงาน
ขณะที่คนขับรถกระบะไม่ได้หลบหนี อ้างว่าไม่ได้เจตนาชน เพียงแต่ขับรถประกบ ลดกระจกตะโกนให้วัยรุ่นคู่กรณีที่ทำร้ายลูกชายวัย 13ปี หยุดคุยตกลงปัญหากัน จังหวะนั้นเอาแต่มองรถด้านหลัง ไม่ทันระวังจึงเกิดอุบัติเหตุ สาเหตุที่ต้องขับรถไล่ตามเพราะมีการเบิ้ลรถใส่ เสียงดังโหวกเหวกโวยวาย และต้องการตามมาคุยตกลงปัญหากัน
พ.ต.ท.กฤติเดช สุพรรณ์ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.ชุมแพ กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้เจตนา เพียงแต่ขับไล่ให้ไปตกลงปัญหากัน แต่เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันเสียก่อน แต่พยานแวดล้อมต่างๆ ทั้งปากคำพยานที่เป็นคนเจ็บทั้ง 3 คน และหลักฐานในที่เกิดเหตุ ชี้ว่าเจตนาชน หลังก่อเหตุเสร็จผู้ต้องหายังพูดทำนองว่าถ้าไม่ทำร้ายลูกเขาก็จะไม่มีชะตากรรมแบบนี้ อีก 2 คนที่บาดเจ็บไม่มากก็หนีเอาตัวรอด ทิ้งนายอั๋นที่ขาขาดไว้ในจุดเกิดเหตุ ตำรวจแจ้งข้อหาพยายามฆ่าและทำให้เสียทรัพย์ และวันนี้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังผัดแรกที่ศาลจังหวัดชุมแพ พร้อมระบุว่าอยากให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ เพราะต้นเรื่องแค่น้ำผึ้งหยดเดียว ลูกชายผู้ต้องหาก็บาดเจ็บไม่มาก น่าจะคุยตกลงกันได้ไม่ยาก แต่กลับบานปลาย ต้องตกเป็นผู้ต้องหาพยายามฆ่า อีกฝ่ายต้องสูญเสียขา กลายเป็นคนพิการ.-สำนักข่าวไทย