เชียงใหม่ 12 พ.ย. – ชาวเชียงใหม่มีความคิดเห็นหลากหลายต่อเงื่อนไขใหม่ของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
หลังรัฐบาลออกเงื่อนไขชัดเจนเรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยขยายขอบเขตการใช้เงินเป็นระดับอำเภอตามบัตรประชาชน และให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ที่มีเงินเดือนไม่เกิน 70,000 บาท หรือมีเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท คาดว่าจะใช้ได้เดือนพฤษภาคม 2567 และมีระยะเวลาใช้สิทธิ 6 เดือน ประชาชนมองเรื่องนี้อย่างไรกันบ้าง โดยเฉพาะชาวเชียงใหม่มีหลากหลายความเห็น
ชาวเชียงใหม่ส่วนหนึ่งแม้จะดีใจที่จะได้เงินมาช่วยลดภาระในครอบครัว แต่ก็บอกอยากให้เงินเข้าปีใหม่นี้เลย จะได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเงินนี้น่าจะใช้จับจ่ายได้ทุกที่ ไม่ถูกจำกัด ส่วนคนที่ไม่เข้าเงื่อนไขที่จะได้รับเงินหมื่นก็บอกน้อยใจ เพราะว่าเสียภาษีเหมือนกัน จึงอยากสะท้อนให้รัฐบาลเปลี่ยนเงื่อนไข หรือนำหลักเกณฑ์คนละครึ่งมาใช้ เพื่อที่คนไทยทุกคนจะได้รับสิทธิเท่ากัน และกระจายรายได้อย่างตรงจุด
ที่วัดเมืองสาตร ย่านแหล่งขายโคม ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นชาวเชียงใหม่ที่มาจับจ่ายซื้อโคมในช่วงเทศกาลยี่เป็ง ถึงเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่รัฐบาลมีเงื่อนไขใหม่ออกมาชัดเจนขึ้นแล้ว ให้สิทธิสำหรับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ที่มีเงินเดือนไม่เกิน 70,000 บาท หรือมีเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท โดยขยายขอบเขตการใช้เงินเป็นระดับอำเภอตามบัตรประชาชน และคาดว่าจะใช้ได้เดือนพฤษภาคม 2567 มีระยะเวลาใช้สิทธิ 6 เดือน โดยหลายเสียงบอกว่า ดีใจที่รัฐบาลเดินหน้าเรื่องนี้จนมีความชัดเจนมากขึ้น แต่อยากให้เงินเข้าเร็วๆ ปีใหม่นี้ได้ยิ่งดี จะได้นำมาใช้จ่าย อีกส่วนบอกว่า ถึงจะดีใจ แต่ก็คิดว่ายังดีไม่พอ เพราะหากอยากกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้จริงๆ เงินก้อนนี้ต้องสามารถใช้จับจ่ายได้ทุกที่ ไม่จำกัดแค่เฉพาะอำเภอ หรือที่ใดที่หนึ่ง
เช่นดียวกับนักศึกษาที่มีสิทธิได้รับเงินนี้ บอกว่า ไม่สามารถใช้ได้ที่มหาวิทยาลัยที่ตนไปศึกษาอยู่ต่างจังหวัด จึงต้องนำกลับมาบ้านให้แม่ได้ใช้จ่ายแทน หากเงินนี้ใช้ได้ทุกที่ก็จะดีกว่านี้ แม้ภาพรวมโครงการนี้จะให้เงินก้อนมาใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ส่วนตัวมองว่า เป็นการนำเงินในอนาคตที่คนรุ่นตนหรือรุ่นถัดไปจะต้องมารับผิดชอบใช้หนี้ก้อนนี้ด้วยอยู่ดี
ขณะที่ประชาชนที่ไม่เข้าเงื่อนไขได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท บอกว่า รู้สึกน้อยใจ เพราะตนก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง เสียภาษีปีละหลายบาท ทำไมรัฐบาลถึงใช้เกณฑ์เงินเดือนหรือเงินเก็บมาตัดสินจนรวย เพราะทุกวันนี้ก็ต้องกินใช้ ข้าวของก็แพง ราคาแพงขึ้นทุกอย่าง จึงอยากฝากให้รัฐบาลเห็นใจกลุ่มคนที่ไม่ได้เงินด้วย พร้อมขอให้รัฐบาลพิจารณานำแนวทางโครงการคนละครึ่งมาใช้แทน เพราะได้ทุกคนทุกกลุ่ม ไม่แบ่งแยก และยังเป็นการกระจายรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริงด้วย. – สำนักข่าวไทย