นครพนม 2 พ.ย. – รวบแล้ว! แก๊งวัยรุ่น 3 คน อายุน้อยสุดแค่ 14 ปี ประดิษฐ์ปืนเอง ยิงอริในงานบุญแข่งเรือ นักศึกษาสาวโดนลูกหลง กระสุนเจาะแกนสมองเสียชีวิต แม่และพี่สาวร่ำไห้ อโหสิกรรมให้ แต่ขอกฎหมายลงโทษผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
พ.ต.อ.ณัฏฐพนธ์ พยอมใหม่ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นำแถลงจับกุมแก๊งโจ๋ป่วนเมือง หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงคู่อริ ในงานบุญประเพณีแข่งเรือ เมื่อคืนวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เหตุเกิดในพื้นที่ชุมชนปากอูน เขตเทศบาลตำบลศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เป็นเหตุให้ “น้องเปรี้ยว” อายุ 23 ปี นักศึกษาสาว ปวส. วิทยาลัยการอาชีพแห่งหนึ่ง ถูกลูกหลงกระสุนปืนเข้าที่ศีรษะ ขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนกลับบ้าน ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนครพนม
หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.ศรีสงคราม ลงพื้นที่ตรวจเก็บหลักฐาน และพบเบาะแสจากภาพวงจรปิดกล้องหน้ารถยนต์ของพลเมืองดี รวมถึงสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ จนกระทั่งเสนอศาลจังหวัดนครพนมออกหมายจับ และติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 3 คน อายุ 14 ปี 15 ปี และ 17 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักในกลุ่มวัยรุ่นว่า “แก๊งจิ๊กโก๋” พร้อมตรวจยึดของกลางอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ลักษณะเป็นปืนแก๊ปสั้น บรรจุด้วยดินปืน และลูกตะกั่ว ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นเอง
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน สารภาพก่อเหตุจริง ทำไปด้วยความคึกคะนอง หวังยิงคู่อริที่มีเรื่องทะเลาะกัน แต่พลาดไปถูกผู้เสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาหนัก ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ผลิตอาวุธปืน, พกพาอาวุธปืน และยิงปืนในที่สาธารณะ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตำรวจยืนยันแม้จะเป็นเยาวชน แต่จะดำเนินคดีถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง พร้อมมีมาตรการเข้มงวดในการปราบปรามกวาดล้างกลุ่มเยาวชนป่วนเมือง จะต้องไม่เกิดเหตุซ้ำอีก
ด้านพี่สาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า “น้องเปรี้ยว” เป็นลูกคนที่ 4 ในบรรดาพี่น้อง 5 คน ปกติจะเป็นคนดูแลแม่ ส่วนพ่อเสียชีวิตเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ชีวิตครอบครัวลำบาก ฐานะยากจน ทุกคนต้องดิ้นรนไปทำงานต่างจังหวัด น้องอยากเรียนหนังสือ มีการศึกษาที่ดี จึงพยายามหาทางส่งตัวเองเรียนมาตลอด ไม่คิดว่าจะมาเจอความสูญเสียลักษณะนี้ ทั้งที่ไม่รู้จักคนก่อเหตุ แต่กลับโดนลูกหลง เสียใจที่สูญเสียน้องสาวที่ยังมีอนาคต แต่ขอชีวิตคืนไม่ได้ จึงได้แต่อโหสิกรรมให้ผู้ก่อเหตุ เพื่อเป็นบุญกุศลกับน้องสาว ส่วนคนที่ทำผิดก็ขอให้รับโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด. – สำนักข่าวไทย