กาฬสินธุ์ 13 ต.ค.-แรงงานไทยในอิสราเอล วิดีโอคอลถึงลูกเมียที่กาฬสินธุ์ เล่าถึงสถานการณ์เขตฉนวนกาซายังรุนแรง ทหารพาอพยพมาอยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมเพื่อนแรงงานไทยกว่า 200 ชีวิต แต่ขออยู่ทำงานต่อหวังเก็บเงินสร้างอนาคตให้กับครอบครัว
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักหมู่ 2 บ้านแก ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ของนายอาทร อายุ 33 ปี ที่ไปขายแรงงาน ทางตอนใต้ของอิสราเอล ใกล้ฉนวนกาซา พูดคุยกับนางสาวทัศนีย์ ภรรยานายอาทร ซึ่งกำลังวิดีโอคอลระหว่างวีดีโอคอลนายอาทรกำลังเตรียมตัวไปทำงาน บอกว่าตอนนี้พักอยู่ในหลุมหลบภัย พร้อมเพื่อนแรงงานไทย 200 ชีวิต ที่อพยพมา โดยทหารอิสราเอลพาอพยพมาจากแนวชายแดนฉนวนกาซาคืนวันที่ 7 ต.ค.66 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจุดปลอดภัยสูง
นายอาทร บอกว่า เพิ่งมาทำงานที่อิสราเอลเมื่อเดือน มิ.ย.66 ได้ 4 เดือน เป็นช่างประกอบท่อ เงินเดือน 1 แสนบาท เหลือสุทธิ 8 หมื่นบาท สัญญาจ้างปีต่อปี หากจะให้กลับช่วงนี้คงไม่ได้ หนี้สินที่กู้เพื่อเดินทางมายังเหลือหลักแสน แม้อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย แต่จำเป็นต้องทำงานต่อ
ส่วนนายไกรสร อายุ 42 ปี แรงงานไทย ที่เดินทางกลับบ้านลอตแรก เดินทางถึงบ้านพัก ที่บ้านโนนพัฒนา ต.สร้างแป้น อ.เพ็ญ อุดรธานี เมื่อคืนนี้ เล่าว่า ไปทำงานเกษตรสวนมันเทศ ทำหน้าที่ดูแลระบบน้ำในสวนมันเทศ เงินเดือน 6-7 หมื่นบาทสัญญา 5 ปี เหลืออีก 3 เดือน จะครบสัญญา แต่มาเกิดเหตุก่อน ซึ่งปกติเวลาทั้งสองประเทศจะยิงกัน ก็จะมีการแจ้งล่วงหน้า แต่คราวนี้ไม่แจ้ง กลุ่มฮามาส 2,000 คน มีการบุกเข้ามาทางพื้นดิน พังรั้ว และร่มบินเข้ามายิง เห็นใครก็ยิงทิ้งหมด แม้แต่เด็กก็ตาย ที่รอดมาได้เพราะที่พักใกล้กันถูกฆ่าหมด และกำลังจะมาที่พักตน โดยยิงไปแล้ว 4 คน แต่ทหารอิสราเอลมาช่วยไว้ทัน
ส่วนนางบุญมี อายุ 61 ปี บ้านโนนสว่าง ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ อุดรธานี แม่นายเกรียงศักดิ์ หรือต้น อายุ 37 ปี แรงงานอิสราเอล ซึ่งกลับมาลอตที่สอง 19 คนวันนี้ เวลา 17.30 น. นางบุญมี พยายามโทรศัพท์วิดีโอคอลหาลูก แต่ว่าไม่รับโทรศัพท์ กระทั่งรู้ว่าลูกปลอดภัย นายเกรียงศักดิ์ ไปทำงานไร่มันฝรั่งและแครอท ได้เงินเดือน 6 หมื่นบาท สัญญาจ้าง 5 ปี เหลืออีก 2 เดือนจะครบสัญญา วันที่ 7 ตุลาคม ตอนกองกำลังฮามาสบุกเข้ามาในแคมป์ที่พัก ยิงแล้วจุดไฟเผา ได้วิ่งหนีออกมาจากที่พักแล้วไปหลบซ่อนในสวนมันฝรั่งจึงรอด จากนั้นทหารอิสราเอลก็มาช่วยไปอยู่ที่ศูนย์หลบ.–สำนักข่าวไทย