แรงงานไทยจากอิสราเอลกลับถึงบ้านปลอดภัย

อุบลราชธานี 13 ต.ค. – แรงงานไทยที่มาจากอิสราเอลเดินทางกลับถึงบ้านเกิดอย่างปลอดภัย ครอบครัวรอต้อนรับ โผกอดด้วยความดีใจและผูกข้อมือรับขวัญ

หลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล จนส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของแรงงานไทยที่ไปทำงานในอิสราเอล และมีการส่งเครื่องบินไปรับตัวคนไทยกลับถึงประเทศไทย เมื่อช่วงสายวานนี้ (12 ต.ค.66)

หนึ่งในคนไทยกว่า 700 คน ของ จ.อุบลราชธานี คือ นายวิชัย อายุ 40 ปี เดินทางกลับถึงบ้านเกิดที่ ต.บัวงาม อ.เดชอุดม อย่างปลอดภัยแล้ว เมื่อเวลา 02.00 น. วันนี้ (13 ต.ค.66) โดยมีนางสมัย อายุ 64 ปี แม่ของนายวิชัย พร้อมครอบครัว รอต้อนรับกลับบ้าน พอได้เห็นหน้ากันต่างโผกอดกันด้วยความดีใจ และนำสายฝ้ายมาผูกข้อมือ เพื่อรับขวัญลูกชาย ทันทีที่ลงจากรถตู้ของเจ้าหน้าที่

นางสมัย เปิดเผยว่า วันนี้จะให้ลูกชายพักผ่อนให้เต็มที่ก่อน ส่วนญาติและเพื่อนบ้านจะเตรียมสถานที่เพื่อจัดงานบายศรีผูกขวัญ ในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (14 ต.ค.66) โดยจะมีนายอำเภอและส่วนราชการมาร่วมพิธี

สำหรับ จ.อุบลราชธานี มีผู้สมัครไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ผ่านกระทรวงแรงงานทั้งหมด 719 คน เป็นชาย 700 คน หญิง 19 คน มีรายงานผู้บาดเจ็บเป็นชาว จ.อุบลราชธานี 1 คน เสียชีวิต 1 คน และไม่ได้รับอันตราย 1 คน คือ นายวิชัย ที่เพิ่งเดินทางกลับถึงบ้านเกิดวันนี้

19 แรงงานไทยผวาเสียงระเบิดลอยข้ามหัว

หลังจากที่แรงงานไทยบางส่วนได้เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว แต่ยังคงมีบางส่วนที่ยังไม่ได้กลับบ้าน และยังต้องทำงานอยู่ท่ามกลางความกลัว เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (13 ต.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัชระ อายุ 26 ปี หนุ่มแรงงานไทย ชาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล ถ่ายภาพบรรยากาศขณะกลุ่มเพื่อนแรงงานไทย 19 คน ที่ทำงานอยู่ด้วยกัน กำลังนั่งหารือกันว่าจะใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไร ท่ามกลางเสียงระเบิดและเสียงปืน เพราะที่ทำงานอยู่ห่างจากจุดปะทะสงครามแค่ 5 กิโลเมตร หลายคนกลัวไม่ปลอดภัย อยากกลับบ้าน แต่ตอนนี้ยังถูกนายจ้างบังคับให้ทำงานทุกวัน แถมยังไม่ได้รับเงินเดือน ขณะที่นายวัชระ วิดีโอพูดคุยบอกว่า คิดถึงลูกเมียมาก อยากให้ภาครัฐช่วยหาทางพากลับประเทศไทย

และที่บ้าน หมู่ 5 ต.กุดน้อย อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ครอบครัวของนายวัชระ หนึ่งใน 19 แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน วิงวอนหน่วยงานรัฐหาทางช่วยเหลือแรงงานกลุ่มนี้ให้อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย หรือเดินทางกลับบ้านเกิด เพราะตอนนี้ยังต้องทำงานอยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่สงคราม กลัวจะเกิดอันตราย

น.ส.เสาวลักษณ์ อายุ 26 ปี ภรรยาของนายวัชระ บอกว่า นายวัชระ พร้อมเพื่อนคนงานรวม 19 คน อยู่อย่างไม่ปลอดภัย ซ้ำยังถูกนายจ้างบังคับให้ออกไปทำงานทุกวัน ท่ามกลางเสียงปืนและเสียงระเบิด จะหลบหนีออกมาก็ไม่ได้ เพราะไม่รู้เส้นทางหนี อยากวอนให้หน่วยงานภาครัฐของไทยเร่งประสานติดต่อกับนายจ้างของสามี ให้พากลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน หรือพาอพยพออกมาจากเขตสงครามให้เร็วที่สุด. – สำนักข่าวไทย