ภรรยาแรงงานไทยในอิสราเอลเล่าทั้งน้ำตา สามีหนีไม่ทัน โดนยิงดับ

9 ต.ค. – ภรรยาแรงงานไทยในอิสราเอล เปิดใจสุดเศร้า หลังเพื่อนแรงงานทักแชตแจ้งข่าวร้ายสามีเสียชีวิต ด้านครอบครัวแรงงานไทยที่ถูกจับยังมีหวังลูกปลอดภัย

จากสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง มีรายงานว่าคนไทยเสียชีวิตแล้ว 12 คน ได้รับการยืนยันจากทางการอิสราเอลแล้ว 2 คน ส่วนอีก 10 คน ได้รับทราบข้อมูลจากนายจ้าง โดยยังไม่มีชื่อ และต้องรอการตรวจสอบจากทางการอิสราเอลต่อไป นอกจากนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน และถูกจับไป 11 คน

หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันจากญาติ คือ นายสมควร พันธ์สะอาด อายุ 39 ปี ชาวกาฬสินธุ์ เป็นเขยนครพนม ซึ่ง น.ส.รุ่งทิวา เรืองฤทธิ์ อายุ 31 ปี ภรรยาของนายสมควร เปิดเผยว่า สามีเสียชีวิตเมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ไปทำงานฟาร์มเกษตรที่อิสราเอลจะครบปีในเดือนตุลาคมนี้ วันเกิดเหตุวิดีโอคอลคุยกันตั้งแต่เช้า สามียังเล่าให้ฟังว่า มีการสู้รบกันเกิดขึ้น แต่ตอนนั้นสามียังไม่มีท่าทีร้อนรนแต่อย่างใด ก่อนจะวางสาย สามียังบ่นว่าเหนื่อย อยากพักผ่อน จึงให้สามีไปนอนพัก หลังจากที่สามีนอนหลับไป เห็นข่าวเหตุรุนแรง จึงแชตไปบอกสามีให้ดูแลตัวเอง อย่าออกไปไหน สักพักมีเพื่อนสามีทักแชตมาหา แจ้งข่าวร้ายว่ามีกลุ่มติดอาวุธบุกเข้ามาในที่พัก สามีกระโดดหน้าต่างหนีไม่ทัน ถูกกลุ่มติดอาวุธจับตัวไป และถูกยิงเสียชีวิต ส่วนเพื่อนคนอื่นวิ่งหนีทัน

น.ส.รุ่งทิวา เล่าด้วยน้ำคลอเบ้าว่า สามีสัญญาว่าจะไปทำงานที่อิสราเอล 5 ปี และจะพยายามเก็บเงินกลับมาอยู่กับครอบครัว แต่สุดท้ายก็มาถูกยิงตาย สำหรับความช่วยเหลือเยียวยา มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนมมาปลอบขวัญและให้กำลังใจ พร้อมแจ้งสิทธิประโยชน์ จากนี้ได้แต่รอฟังความคืบหน้าถึงการนำร่างสามีกลับมาเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

แรงงานไทยบางส่วนปลอดภัย วิดีโอคอลหาญาติ ยังหาย 2 ราย
นอกจากนี้ยังพบว่ายังมีแรงงานไทยในอิสราเอลบางคนพยายามติดต่อหาญาติผ่านทางวิดีโอคอล เช่น นายอดิศักดิ์ ขวาชัยวี อายุ 31 ปี แรงงานในฟาร์มเกษตร ยังติดต่อกับแม่คือ นางบังอร ขวาชัยรี อายุ 62 ปี ได้ ยืนยันยังปลอดภัย เนื่องจากมีพื้นที่หลบภัย และมีทหารอิสราเอลเข้าไปช่วยเหลือ แคมป์คนงานห่างจากพื้นที่เกิดสงครามประมาณ 10 กิโลเมตร แต่ยังมีกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธบางส่วนพยายามเข้ามาจับแรงงานไทยเป็นตัวประกัน และทำร้ายร่างกาย ต่างคนต่างหนีเอาตัวรอด

ขณะที่ยังมีญาติผู้สูญหายอีกราย คือ นางสา ต้อนโสกี อายุ 58 ปี แม่ของนายพัฒนายุทธ ต้อนโสกี อายุ 40 ปี ชาวบ้าน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ยังติดต่อลูกไม่ได้ โดยพักอยู่ในแคมป์คนงานเดียวกันกับนายอดิศักดิ์ คาดว่ายังอยู่ระหว่างหลบหนีเอาชีวิตรอด

ด้านนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าฯ นครพนม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นได้รับรายงานว่า ในแคมป์ดังกล่าวมีแรงงานไทยกว่า 90 คน ของจังหวัดนครพนม มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ญาติแจ้งสูญหายขาดการติดต่อ 3 ราย ในจำนวนนี้มี 1 ราย เป็นชาว อ.เรณูนคร ทหารอิสราเอลเข้าไปช่วยเหลือปลอดภัยแล้ว เหลืออีก 2 ราย อยู่ระหว่างการติดต่อช่วยเหลือ สำหรับการดูแลช่วยเหลือ ได้ประสานทั้ง 12 อำเภอ หน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางช่วยเหลือ

ครอบครัวแรงงานไทยที่ถูกจับ ยังมีหวังลูกปลอดภัย
ส่วนที่สุรินทร์ มีแรงงานหลายคนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ญาติยังติดต่อไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ นายคมกริช ชมบัว (นนท์) อายุ 29 ปี เป็นชาวอำเภอลำดวน ชาวบ้านและญาติพี่น้อง รวมถึงนายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่างมาให้กำลังใจครอบครัว เพราะตอนนี้สภาพจิตใจย่ำแย่ กินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน

นางพรทิพย์ ชมบัว อายุ 54 ปี แม่ของนายคมกริช เล่าทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้เป็นห่วงลูกชายมาก เพราะลูกชายคือเสาหลักของบ้าน ไปทำงานก่อสร้างที่อิสราเอลคนเดียวมา 4 ปีแล้ว ลูกชายเคยบอกว่าเมื่อก่อนรบกันบ่อย แต่ไม่ถึงขนาดนี้ ตนยกมือพนมพูด ขอให้ลูกชายปลอดภัยกลับบ้านเรานะ ขณะที่นายสุนันท์ ชมบัว ผู้เป็นพ่อ อยากฝากถึงลูกว่า “ถ้าหนูได้ดูพ่ออยู่ ไม่ต้องคิดมาก ทางการกำลังหาทางช่วยลูกอยู่ พ่อเชื่อว่าลูกต้องปลอดภัยและกลับมาบ้านเรา”

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากคนไทยที่ไปทำงานในอิสราเอล ถ่ายคลิปสถานการณ์ความเป็นอยู่ในขณะที่กำลังรบกันและยังคงมีเสียงปืนดังขึ้นอยู่เรื่อยๆ เจ้าของคลิปชื่อนายกิตติพงษ์ แสนซุ้ง อายุ 29 ปี ถ่ายคลิปส่งมาให้พี่ชายที่ทำงานที่เกาหลีดู ขณะนี้ติดต่อน้องชายไม่ได้แล้ว รู้สึกเป็นห่วง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานช่วยเหลือ. – สำนักข่าวไทย