1 ต.ค. – มวลน้ำมหาศาลจากลำปางและแพร่ เริ่มไหลลงสู่พื้นที่ จ.สุโขทัย โดยเฉพาะแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นและทะลักท่วมบางพื้นที่ คาดว่าจะแตะจุดวิกฤติวันพรุ่งนี้ (2 ต.ค.) ขณะที่ชาวบ้านขอให้สร้างเขื่อนเรียงหิน เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและตรงจุด
บ้านเรือนหลายร้อยหลังในหมู่บ้านวังหินและใกล้เคียง ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (30 ก.ย.) หลังตลิ่งคันดินกั้นแม่น้ำยมพังทลายลงมา กระแสน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านอย่างรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว ชาวบ้านบางส่วนจึงเก็บข้าวของไม่ทัน ทำให้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ชาวบ้านบอกว่าน้ำมาเร็วและแรง อยากให้สร้างเขื่อนเรียงหินหรือสร้างพนังกั้นน้ำถาวรให้ชาวบ้านด้วย
ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่ระดมเครื่องจักร นำแบริเออร์กั้นเพื่อลดความแรงของกระแสน้ำที่ทะลักเข้ามา และนำบิ๊กแบ็กอุดคันดินที่พังทลาย เพื่อไม่ให้น้ำที่ท่วมชุมชนเพิ่มสูงขึ้น และป้องกันน้ำทะลักเข้าตัวเมืองสุโขทัยด้วย เนื่องจากตอนนี้น้ำที่ท่วมทางตอนเหนือ ทั้งลำปางและแพร่ กำลังไหลลงมาสมทบกันที่สุโขทัย โดยเฉพาะน้ำในลำน้ำยมที่ยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
โดยปริมาณน้ำยมที่ไหลผ่านประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก เหนือเมืองสุโขทัย อยู่ที่ 1,157 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระบายลงสู่ตัวเมือง 828 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำยมที่ไหลผ่านตัวเมืองสุโขทัย เพิ่มเป็นเกือบ 8 เมตรแล้ว ห่างจากจุดวิกฤติเพียง 30 เซนติเมตร คาดว่าน้ำจากตอนเหนือจะลงมาเพิ่มอีก และคาดว่าพรุ่งนี้ (2 ต.ค.) ตัวเมืองสุโขทัยอาจจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้
ล่าสุดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ที่ตลอดทั้งวันนี้ลงพื้นที่ จ.แพร่ และสุโขทัย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและมาตรวจจุดที่น้ำทะลัก พร้อมบอกว่าจะนำปัญหาไปสะท้อนที่ประชุม ครม. ให้นายกรัฐมนตรีสั่งการแก้ไขปัญหาระยะยาว เนื่องจาก จ.สุโขทัย ถูกน้ำท่วมมาเกินกว่า 3 ปีแล้ว ต้องเผชิญกับปัญหานี้ตลอด และดูเหมือนจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องหาแนวทางป้องกันในระยะยาว เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนให้ดีที่สุดด้วย
จากนั้นนายสมศักดิ์ได้มอบของให้ชาวบ้าน และประชุมหน่วยราชการเตรียมรับน้ำ ล่าสุดมีรายงานว่าตอนนี้น้ำจากแม่น้ำยมเริ่มเอ่อล้นข้ามพนังกั้นน้ำในพื้นที่ลุ่มบางจุดในเขตตัวเมืองสุโขทัยบ้างแล้ว.-สำนักข่าวไทย