เชียงใหม่ 17 ก.ย.-สถานการณ์น้ำป่าบนดอยอินทนนท์หลากท่วมบ้านเรือนประชาชนยังน่าห่วง ล่าสุดพบบ้านเรือนประชาชนกว่า 100 หลังคาเรือน แปลงเกษตร กว่า 100 ไร่ ได้รับผลกระทบ รวมทั้งพื้นที่ภาคกลาง 7 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยายังคงต้องจับตาหลังแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงเสี่ยงน้ำท่วมหลายพื้นที่
หลังฝนตกหนัก บนดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากมาตามลำห้วยสาขาและน้ำตก ไหลหลากลงพื้นที่ด้านล่าง จนเอ่อล้นตลิ่งลำน้ำแม่กลาง ท่วมบ้านเรือนประชาชนในที่ลุ่มสองฝั่งริมน้ำ บ้านข่วงเปาหมู่ 6 บ้านแม่กลาง-บ้านลุ่มหมู่ 4 บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 60 ครัวเรือน เจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือ ขณะที่ระดับน้ำสาขาต่างๆ บนดอยอินทนนท์ ลดลงอย่างต่อเนื่อง และยังมีอีกหลายอำเภอ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย
นายเจริญ พิมพ์ขาล เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ สรุปผลพื้นที่การเกษตร ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ตำบลดอยแก้ว ต.บ้านหลวง ต.ข่วงเปา ต.บ้านแปะ ต.แม่สอย ต.สบเตี๊ยะ รวม 13 หมู่บ้าน มีพื้นที่การเกษตรและนาข้าวได้รับความเสียหาย จำนวน 85 ไร่ รวมเกษตร 62 ราย ทั้งยังมีพื้นที่สวนลำไยอีกเป็นบริเวณกว้าง โดยให้ทางเกษตรอำเภอเร่งให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันอุทยานแห่งชาติดอยอินทนน์ประกาศเตือนประชาชนทั้งในเขต อ.จอมทอง และ อ.แม่แจ่ม ที่อยู่ติดกับลำน้ำและลำห้วยสาขาต่างๆ ของดอยอินทนนท์ ให้เก็บทรัพย์สินมีค่าไว้บนที่สูง และให้ระวังอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม
ส่วนสถานการณ์น้ำภาคกลาง ก็ยังต้องจับตา ล่าสุด นายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ออกหนังสือแจ้งสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 1/2566 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดลพบุรี ให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 1 – 1.5 เมตร และมีความเสี่ยงเกิดอุทกภัย ในช่วงวันที่ 17-21 กันยายน 2566 ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณเพิ่มขึ้น และคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จะมีแนวโน้มสูงขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 300-500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำ มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณ ตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นยังคงอยู่ในตลิ่งลำน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 12 จะควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว ด้วยการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมิให้มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลกระทบให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย