ตร.แกะรอยวงจรปิดล่ามือสาดน้ำกรดนักเรียนหญิง ม.6

บุรีรัมย์ 29 ส.ค. – ตำรวจเร่งแกะรอยวงจรปิดล่า 2 ไอ้โม่งบุกสาดน้ำกรดนักเรียนหญิง ม.6 คาดปมหึงหวง ทั้งกรณีที่เคยมีเรื่องกับแฟนเก่า และแฟนใหม่เพิ่งบอกเลิกได้เพียง 2 เดือน


ความคืบหน้ากรณีที่มีรถเก๋งสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไปจอดที่หน้าร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่ง บนถนนสังขกาจประชานุสรณ์ ในเขตเทศบาลเมืองนางรอง จ.บุรีรัมย์ แล้วมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน สวมชุดดำและไอ้โม่งปิดบังใบหน้า ถือถังใส่น้ำกรดคนละถัง บุกเข้าไปก่อเหตุสาดน้ำกรดใส่น้องอั้ม อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 ขณะนั่งกินข้าวอยู่กับยายและน้าชาย โดยน้ำกรดโดนใบหน้า ดวงตา บริเวณหน้าอก ไหลอาบลำตัว สภาพผิวหนังไหม้ ส่วนยายและน้าก็โดนน้ำกรดกระเด็นใส่ มีรอยไหม้ตามใบหน้า ลำคอ ลำตัว แขนและขา แต่อาการไม่สาหัส ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา

ภายหลังส่งตัวไปรักษา ล่าสุด “น้องอั้ม” พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีรอยไหม้จากน้ำกรดเกือบทั้งตัว โดยเฉพาะใบหน้าและดวงตา ต้องรอแพทย์ทำการตรวจรักษาอีกครั้ง เพราะเสี่ยงที่จะมองไม่เห็น


ส่วนด้านคดีความ ตำรวจ สภ.นางรอง กำลังไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายขับรถหลบหนี เพื่อติดตามตัวมาสอบสวนหาสาเหตุและดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นจากการสอบปากคำพยานแวดล้อมและบุคคลที่เกี่ยวข้อง สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากประเด็นหึงหวง เพราะเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทางครอบครัวของน้องอั้ม เคยมีเรื่องแจ้งความดำเนินคดี ถึงขึ้นศาลกับแฟนเก่าและผู้หญิงของแฟนเก่า ทั้งกรณีพรากผู้เยาว์ และทำลายทรัพย์สิน อีกทั้งแฟนใหม่ของน้องอั้มที่เพิ่งเลิกรากันไปได้ประมาณ 2 เดือน ยังตามมาราวีไม่เลิก ส่วนจะมีประเด็นอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องสอบปากคำผู้บาดเจ็บอีกครั้ง

ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนที่น้องอั้มเรียนอยู่ พร้อมคณะครู เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของน้องอั้ม ที่ร้านค้าที่เกิดเหตุ และได้เดินทางไปเยี่ยมน้องที่โรงพยาบาลด้วย

ขณะที่แม่ของน้องอั้ม กล่าวทั้งน้ำตา ภายหลังเดินทางมาเฝ้าลูกที่ รพ.บุรีรัมย์ ว่า จากที่เห็นสภาพลูก สงสารลูกมาก เพราะโดนน้ำกรดสาดใส่เกือบทั้งตัว หนักสุดคือใบหน้า แต่ที่แม่กังวลและห่วงที่สุด คือ ดวงตาของลูก ตอนนี้ได้แต่ภาวนา ขอให้มองเห็นปกติ และอยากจะถามคนที่ก่อเหตุว่า ทำไมถึงจิตใจโหดร้ายขนาดนี้ มีอะไรทำไมไม่พูดคุยกันดีๆ ส่วนสาเหตุแม่เองก็ยังไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร และอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”