สมุทรปราการ 28 ส.ค. – อาการยังโคม่า สามีเครียดบ้านจะถูกยึด ซ้ำร้ายถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินกว่า 1.7 ล้าน ตัดสินใจฆ่าภรรยา-ลูกชาย 2 คน ก่อนหวังปลิดชีพตัวเอง แต่ไม่สำเร็จ
จากกรณีสามีเครียดหนักบ้านจะถูกยึด ซ้ำร้ายยังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินไปอีกกว่า 1.7 ล้านบาท ตัดสินใจลงมือฆ่าภรรยา และลูกชาย 2 คน ก่อนหวังจะปลิดชีพตัวเอง แต่ไม่สำเร็จ ทางด้านคดี ตำรวจได้เรียกพี่ชายผู้ก่อเหตุและผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำเพิ่มเติม ขณะที่อาการของผู้ก่อเหตุยังโคม่า มีบาดแผลถูกมีดบาดที่คอเป็นแผลลึก 1 แผล และที่ข้อมือซ้ายมีรอยกรีดอีก 1 แผล แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด โดยทางตำรวจได้อายัดตัวเอาไว้แล้ว ส่วนสาเหตุที่เป็นหนี้ เกิดจากผู้ก่อเหตุไปค้ำประกันรถยนต์ให้เพื่อน จนตนเองเป็นหนี้เอง จากนั้นก็ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกซ้ำ
พ.ต.อ.รังสรรค์ คำสุข รักษาราชการแทน ผกก.สภ.บางแก้ว ให้ข้อมูลว่า ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ภรรยาของผู้ก่อเหตุได้มาแจ้งความว่าถูกแอปฯ เงินกู้นอกระบบในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน โดยเริ่มจากติดต่อขอกู้เงินหนึ่งแสนบาท แต่กลับถูกหลอกให้โอนเงินไปเรื่อยๆ อ้างว่าเพื่อเป็นค่าดำเนินการ ค่าเปิดระบบต่างๆ จนกระทั่งมีการโอนเงินไปให้ ยอดรวมกว่าล้านบาท ซึ่งหลังพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความ ก็มีการสั่งอายัดบัญชีดังกล่าวและอยู่ระหว่างติดตามตัวบัญชีปลายทาง หลังจากนี้จะเร่งรัดติดตามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
นอกจากเรื่องของคดีแล้ว ในส่วนของผู้เสียชีวิต 3 ราย เบื้องต้นทางโรงเรียนต้นสังกัดของเด็กชายที่เสียชีวิต และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จะดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ในส่วนของโรงเรียนนั้น ไม่มีงบประมาณเพียงพอ จึงเปิดรับบริจาคเงินในนามโรงเรียน โดยทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้กำชับให้ตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ให้พอดี เหมาะสม หากเห็นสมควรตามจำนวนที่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายแล้ว ก็ให้ปิดการรับบริจาคทันที
สำหรับศพทั้ง 3 ศพ ตอนนี้ทางญาติยังไม่ได้ข้อสรุปว่า จะประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดหนามแดง จ.สมุทรปราการ หรือกลับไปที่ภูมิลำเนาของผู้ก่อเหตุที่ จ.กำแพงเพชร โดยนายศักดิ์สิทธิ์ ระพาเพท รองปลัดเทศบาลเมืองบางแก้ว บอกว่า หลังญาติๆ ที่กำแพงเพชรทราบข่าว ก็รีบเดินทางมาทันที แต่มาประสบอุบัติเหตุระหว่างทางที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงต้องเดินทางกลับไปก่อน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางเทศบาลได้ติดต่อวัดหนามแดงไว้เบื้องต้นแล้ว ส่วนญาติจะได้ข้อสรุปอย่างไร ต้องรอให้ชัดเจนอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย