ยะลา 25 ส.ค. – อดีตผู้ต้องขังกลับใจ พ้นโทษหันหลังให้ยาเสพติด ยึดอาชีพสุจริต ขายไก่เขย่า ชิ้นละ 1 บาท สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว วอนสังคมให้โอกาส
นายสุกฤษฎิ์ หรือ แจ็ค วัย 29 ปี อดีตผู้ต้องขังคดียาเสพติด ตัดสินใจหันหลังให้ยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด มุ่งทำอาชีพสุจริต สานต่องานค้าขายของแม่ เปิดร้านรถเข็นขายไก่เขย่า ชิ้นละ 1 บาท ในตลาดไนท์บาซ่าเบตง จ.ยะลา ตั้งแต่เวลา 16.00 – 21.00 น. ทุกวันไม่มีวันหยุด มีกลุ่มลูกค้าประจำและลูกค้าใหม่ รวมถึงนักท่องเที่ยวแวะมาอุดหนุน ขายไก่เขย่า ชิ้นละ 1 บาท ส่วนปลายปีกไก่ ขาย 5 ชิ้น 10 บาท มีให้เลือก 3 รส รายได้วันละประมาณ 2,000 -2,500 บาท
แจ็ค เล่าให้ฟังว่า ชีวิตที่ผ่านมาไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ไม่มีเป้าหมายชีวิต ทำงานรับจ้างหาเลี้ยงชีพไปวันๆ สังคมที่อาศัยอยู่ก็พัวพันกับยาเสพติด เมื่อโดนจับ ครอบครัวผิดหวัง สงสารแม่ที่ต้องทำงานหนักกว่าเดิม เพราะขาดคนหารายได้ไปอีกหนึ่งแรง ระหว่างอยู่ในเรือนจำเบตง ได้ฟัง พระอาจารย์ ผู้สอนเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต ชอบเล่าเรื่องของคนที่ลำบากให้ฟัง ทำให้เป็นแรงผลักดันสำคัญให้ฮึดสู้ ตั้งใจว่าจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก และสร้างชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิม เพราะตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตในเรือนจำ คนที่คอยให้กำลังใจและมาเยี่ยม คือ แม่ เมื่อพ้นโทษมา ไม่อยากเพิ่มภาระให้แม่อีก แต่คนที่ออกจากเรือนจำ ไม่มีใครกล้ารับเข้าทำงาน จึงเข้ามาสานต่องานค้าขายต่อจากแม่ อยากขอให้สังคมยอมรับอดีตผู้ต้องขัง ผู้ที่เคยหลงผิดด้วย เพราะความเข้าใจและโอกาสจากทุกคนสำคัญมาก อยากฝากถึงเด็กๆ เยาวชน วัยรุ่นทั้งหลายที่กำลังหลงผิด ขอให้กลับตัวกลับใจ ถ้าออกมาแล้วก็อยากให้ทำงานสุจริต อย่าเข้าไปยุ่งกับเส้นทางยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายอีกเลย เพราะมีแต่ผลเสีย ครอบครัวเสียใจ ตัวเองก็ไม่มีอนาคต
แจ็คยังบอกอีกว่า แต่ละปีมีนักโทษคดียาเสพติดที่พ้นโทษออกมาจากเรือนจำเป็นจำนวนมาก จากโลกหลังกำแพงสู่โลกภายนอก การได้รับโอกาสให้ได้ทำงานในหน่วยงานต่างๆ หรือแม้แต่เป็นเพียงแค่ลูกจ้างร้านค้า ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับอดีตผู้ต้องขัง ทำให้ผู้พ้นโทษหลายคนหวนกลับไปสู่วงจรของยาเสพติดครั้งแล้วครั้งเล่า หากใจไม่แข็งแกร่งพอและไม่ได้รับกำลังใจจากครอบครัว คนรอบข้าง ชีวิตคนเราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ไม่ว่าจะเคยผ่านความเลวร้ายมาแค่ไหน ขอเพียงเก็บความทุกข์ที่ผ่านมาเป็นบทเรียน สร้างพลังฮึดสู้ต่อไป . – สำนักข่าวไทย