ปลัดมหาดไทยนำภาคีเครือข่ายชาวลำพูน ทำกิจกรรมรื้อถอนเสาไฟฟ้าต้นสุดท้าย

ลำพูน 19 ส.ค. – ปลัดมหาดไทยนำภาคีเครือข่ายชาวลำพูน ทำกิจกรรมรื้อถอนเสาไฟฟ้าต้นสุดท้าย ตามโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน “1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” พร้อมปลูกต้นทองกวาว เพิ่มพื้นที่สีเขียวทดแทน เพื่อปรับทัศนียภาพเมืองลำพูนให้สวยงาม ย้ำชาวลำพูนช่วยกันทำความดี ทำให้เมืองลำพูนเป็นเมืองอันศิวิไลซ์อย่างยั่งยืน


วันนี้ (19 ส.ค. 66) เวลา 09.00 น. ณ บริเวณลานออกกำลังกายหน้าสวนน้ำพุช้างมหาวัน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกิจกรรมรื้อถอนเสาไฟฟ้าต้นสุดท้าย ตามโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน “1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” โดยมี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นางดวงกมล ยิ้มละมัย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายโยธิน ประสงค์ความดี ปลัดจังหวัดลำพูน นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน นายชีวิน พัฒนคูหะ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าภาค 1 นายถนอม ปัญญาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมและบริการ PEA เขต 1 (ภาคเหนือ) จังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน นายประภัสร์ ภู่เจริญ นายกเทศมนตรีเมืองลำพูน ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ พี่น้องประชาชน และภาคีเครือข่ายชาวจังหวัดลำพูน ร่วมในพิธี

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานในพิธีตัดริบบิ้นเพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการทำกิจกรรมรื้อถอนเสาไฟฟ้าต้นสุดท้าย ตามโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน “1 จังหวัด 1 ถนน จังหวัดลำพูน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” แล้วเยี่ยมชมนิทรรศการการดำเนินโครงการของ กฟภ. และการพัฒนาพื้นที่เพื่อการใช้ประโยชน์ของถนนเฉลิมพระเกียรติ “1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดลำพูน และแนวคิดการพัฒนาเมืองเก่าลำพูน จากนั้นนำคณะและหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดลำพูน ร่วมปลูกต้นทองกวาว ต้นไม้ประจำจังหวัดลำพูน มีชื่อท้องถิ่นว่า กวาว ก๋าว ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่สูงประมาณ 10-15 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดรูปทรงไม่แน่นอน ส่วนใหญ่จะกลม หรือเป็นทรงกระบอก ใบประกอบมี 3 ใบ ขนาดไม่เท่ากัน ใบหนาและมีขน ใต้ใบสีเขียวอมเทา ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่งคล้ายดอกถั่ว สีแสดแดงหรือเหลือง มีขน ออกดอกช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคม ผลเป็นฝักแบน มีขนนุ่ม เมล็ด 1 เมล็ด อยู่ที่ปลายฝัก


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ส่วนราชการ องค์กรภาคีเครือข่าย และประชาชนชาวจังหวัดลำพูน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองลำพูน ที่ให้การต้อนรับตนและคณะด้วยไมตรีจิตรยิ่ง นับเป็นโอกาสอันดีที่เราได้มาร่วมดำเนินโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน “1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” ซึ่งเป็นโครงการอันศิวิไลซ์ที่ทำให้พี่น้องชาวลำพูนและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมจังหวัดลำพูน ได้มีความยินดีและภูมิใจที่ได้เห็นภูมิทัศน์อันสดใสสวยงาม ไม่มีสายไฟ สายสื่อสารรกรุงรัง จึงขอชื่นชมและขอบคุณการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและเทศบาลเมืองลำพูน รวมไปถึงจังหวัดลำพูน ที่ได้ช่วยกันผลักดันและขับเคลื่อนทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นในวันนี้

“ขอแสดงความชื่นชมและยินดีในการเสียสละของเทศบาลเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลำพูน และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ที่ได้นำสายไฟฟ้า ซึ่งเคยกลายเป็น Soft Power ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชื่นชอบและชื่นชมว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่รกรุงรัง และถ่ายภาพคู่กับสายไฟฟ้าที่แปลกตาในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่ แต่ที่เทศบาลเมืองลำพูนนั้น เราได้ทำให้สายไฟฟ้าลงใต้ดินได้ทั้งหมด ซึ่งสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นได้ เพราะเราทุกคนมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ด้วยการปฏิบัติบูชา” และมีจิตอาสาที่จะช่วยกันคิดช่วยกันทำโครงการที่ดีเพื่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติของเรา แม้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่ต้องแสวงหาผลกำไรเพื่อนำไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและความมั่นคงของพี่น้องประชาชน แต่ผู้บริหารของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็แสดงความพยายามที่จะจัดสรรงบประมาณสำคัญเพื่อนำมาปรับปรุงและสร้างภูมิทัศน์ที่ดีงามให้เกิดขึ้นในจังหวัดลำพูน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน “1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” สำเร็จได้เกิดจาก “หัวใจแห่งความจงรักภักดี” ของพวกเรา และแม้ว่ากิจกรรมในวันนี้จะเป็นการปิดโครงการดังกล่าว แต่เป็นการเริ่มต้นของการมุ่งสร้างสรรค์เมืองลำพูน เมืองแห่งความศิวิไลซ์ และขอให้พวกเราไม่ปิดกั้นในการที่จะทำความดีเพื่อส่วนรวมให้เพิ่มมากขึ้นต่อไป ทำให้บ้านเมืองและชุมชนของเรามีความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย อาทิ เราสามารถช่วยกันจัดระเบียบสายสื่อสารที่ยังไม่ลงดินให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพิ่มมากขึ้น หรือการปรับปรุงภูมิทัศน์ต่างๆ ในชุมชน เพื่อให้บ้านเมืองและประเทศไทยของเราเป็นเมืองที่น่าอยู่ หน้าบ้านน่ามอง ชุมชนน่าอยู่


“จังหวัดลำพูน เป็นเลิศในเรื่องของความสะอาดอยู่แล้ว ตั้งแต่นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน คนที่ 42 ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังคงเป็นเลิศอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลรักษาความสะอาด ช่วยกันต่อยอด “ลำพูนเมืองสะอาด” รวมถึงช่วยกันรณรงค์สร้างความมั่นคงทางอาหาร น้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” เพื่อให้ลำพูนของเราเป็นเมืองศรีวิไลซ์เพิ่มมากยิ่งขึ้น เป็นต้นแบบให้กับทุกจังหวัดในประเทศไทยและของคนทั้งโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยกันรณรงค์จัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567″ นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอใช้โอกาสนี้เชิญชวนพวกเราสร้างจุดเริ่มต้นของการร่วมกันทำความดี ในกิจกรรมดีๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล น้อมนำพระราชปณิธานที่แน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการ “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” และขออนุโมทนาผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลำพูน นายกเทศมนตรีเมืองลำพูน และพี่น้องประชาชนที่ได้มีโอกาสเป็นต้นแบบทำให้บ้านเมืองสวยงาม ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่เสาไฟฟ้าต้นสุดท้ายในเขตเทศบาลเมืองลำพูน กำลังจะถูกรื้อถอนออกไป เริ่มตั้งแต่เสาไฟฟ้าต้นแรกจนถึงต้นที่ 256 เป็นต้นสุดท้าย และขอให้มีกำลังใจไม่หยุดยั้งที่จะทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม Change for Good ให้กับลำพูนตลอดไป

นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน “1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” เป็นโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจังหวัดลำพูนและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้จัดทำโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน ในพื้นที่เทศบาลเมืองลำพูน บนถนนรอบเมืองนอก ตั้งแต่บริเวณด้านหน้าสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค สาขาลำพูน ถึงเชิงสะพานท่านาง ระยะทางประมาณ 2.2 กิโลเมตร งบประมาณ 35,087,994 บาท เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ของเมืองให้มีความสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย และเกิดความปลอดภัยต่อประชาชนที่สัญจรไปมา ด้วยการนำสายไฟฟ้า สายสื่อสารต่างๆ ที่พาดบนเสาไฟฟ้าลงใต้ดิน

นายถนอม ปัญญาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมและบริการ PEA เขต 1 (ภาคเหนือ) จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้ร่วมกับเทศบาลเมืองลำพูน ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน โดยการติดตั้งระบบจำหน่ายแรงสูง รื้อถอนเสาไฟฟ้าพร้อมติดตั้งระบบเคเบิลใต้ดิน ติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างไร้สาย เพื่อรองรับการจัดระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน ภายใต้โครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคใต้ดินเพื่อการท่องเที่ยวในเขตเมืองอนุรักษ์ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ระยะที่ 1 บริเวณถนนอินทยงยศ ด้านหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ถึงแยกประตูลี้ เป็นการนำร่อง และได้ดำเนินการติดตั้งเสาไฟฟ้า/เปลี่ยนโคมไฟฟ้าสาธารณะให้เป็นหลอด LED บริเวณถนนสายหลัก ถนนสายรอง จุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อความส่องสว่าง บริเวณถนนรอบเมืองใน ถนนรอบเมืองนอก

ปัจจุบันดำเนินการถึงระยะที่ 5 ซึ่งหลังจากขุดวางท่อร้อยสายลงใต้ดินแล้วเสร็จ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ดำเนินการรื้อถอนเสาไฟฟ้าออก เทศบาลเมืองลำพูนจะได้มีการปลูกต้นไม้ทดแทนเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมืองต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ลุยเอง นำทีมบุกจับบ่อนดอนเมืองในตำนาน

ดอนเมือง 28 ส.ค. – “ภูมิธรรม” นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “สิงห์ปราบพยศ” ทลายบ่อนเปิดซ้ำซากย่านดอนเมือง รวบ 200 นักพนัน เงินหมุนเวียนมหาศาลกว่า 500 ล้านบาทต่อเดือน ย้ำ “ขบวนการตาสับปะรดของประชาชนคือเบาะแสสำคัญ” ร่วมกันสร้างสังคมปลอดอบายมุข ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปิดปฏิบัติการสิงห์ปราบพยศ ปิดล้อมทลายบ่อนดอนเมืองในตำนาน เป็นจุดที่โดนทั้งตำรวจ ทหาร และกรมการปกครอง บุกเข้าจับกุมนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งนี้กรมการปกครองนำกำลังเข้าพื้นที่ตามช่องทางเข้า-ออกทุกทาง พบมีประตูเหล็กขนาดใหญ่ปิดกั้นอยู่ จึงใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กเข้าตัดประตูเป็นช่องเพื่อให้เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปด้านใน ภายในพบนักพนันกว่า 200 คน โดยใช้พื้นที่ของสนามฟุตบอลหญ้าเทียม และพื้นที่อาคารที่อยู่ใกล้เคียง เป็นห้องพนันแบบครบวงจร 5 ห้อง นอกจากนี้ยังมีการตั้งร้านอาหารและน้ำดื่ม เหมือนเป็นตลาดนัดย่อมๆ ในพื้นที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาตรวจสอบในจุดดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า บ่นพนันดังกล่าวพบมียอดเงินหมุนเวียนกว่า 5-10 ล้านบาทต่อวัน มีเงินหมุนเวียนแล้วเดือนละ 300-400 ล้านบาท โดยจะเปิดให้เล่นตั้งแต่ […]

อุตุฯ เผยภาคเหนือฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ […]

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย