ปลัดมหาดไทยนำภาคีเครือข่ายชาวลำพูน ทำกิจกรรมรื้อถอนเสาไฟฟ้าต้นสุดท้าย

ลำพูน 19 ส.ค. – ปลัดมหาดไทยนำภาคีเครือข่ายชาวลำพูน ทำกิจกรรมรื้อถอนเสาไฟฟ้าต้นสุดท้าย ตามโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน “1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” พร้อมปลูกต้นทองกวาว เพิ่มพื้นที่สีเขียวทดแทน เพื่อปรับทัศนียภาพเมืองลำพูนให้สวยงาม ย้ำชาวลำพูนช่วยกันทำความดี ทำให้เมืองลำพูนเป็นเมืองอันศิวิไลซ์อย่างยั่งยืน


วันนี้ (19 ส.ค. 66) เวลา 09.00 น. ณ บริเวณลานออกกำลังกายหน้าสวนน้ำพุช้างมหาวัน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกิจกรรมรื้อถอนเสาไฟฟ้าต้นสุดท้าย ตามโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน “1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” โดยมี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นางดวงกมล ยิ้มละมัย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายโยธิน ประสงค์ความดี ปลัดจังหวัดลำพูน นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน นายชีวิน พัฒนคูหะ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าภาค 1 นายถนอม ปัญญาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมและบริการ PEA เขต 1 (ภาคเหนือ) จังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน นายประภัสร์ ภู่เจริญ นายกเทศมนตรีเมืองลำพูน ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ พี่น้องประชาชน และภาคีเครือข่ายชาวจังหวัดลำพูน ร่วมในพิธี

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานในพิธีตัดริบบิ้นเพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการทำกิจกรรมรื้อถอนเสาไฟฟ้าต้นสุดท้าย ตามโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน “1 จังหวัด 1 ถนน จังหวัดลำพูน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” แล้วเยี่ยมชมนิทรรศการการดำเนินโครงการของ กฟภ. และการพัฒนาพื้นที่เพื่อการใช้ประโยชน์ของถนนเฉลิมพระเกียรติ “1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดลำพูน และแนวคิดการพัฒนาเมืองเก่าลำพูน จากนั้นนำคณะและหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดลำพูน ร่วมปลูกต้นทองกวาว ต้นไม้ประจำจังหวัดลำพูน มีชื่อท้องถิ่นว่า กวาว ก๋าว ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่สูงประมาณ 10-15 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดรูปทรงไม่แน่นอน ส่วนใหญ่จะกลม หรือเป็นทรงกระบอก ใบประกอบมี 3 ใบ ขนาดไม่เท่ากัน ใบหนาและมีขน ใต้ใบสีเขียวอมเทา ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่งคล้ายดอกถั่ว สีแสดแดงหรือเหลือง มีขน ออกดอกช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคม ผลเป็นฝักแบน มีขนนุ่ม เมล็ด 1 เมล็ด อยู่ที่ปลายฝัก


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ส่วนราชการ องค์กรภาคีเครือข่าย และประชาชนชาวจังหวัดลำพูน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองลำพูน ที่ให้การต้อนรับตนและคณะด้วยไมตรีจิตรยิ่ง นับเป็นโอกาสอันดีที่เราได้มาร่วมดำเนินโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน “1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” ซึ่งเป็นโครงการอันศิวิไลซ์ที่ทำให้พี่น้องชาวลำพูนและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมจังหวัดลำพูน ได้มีความยินดีและภูมิใจที่ได้เห็นภูมิทัศน์อันสดใสสวยงาม ไม่มีสายไฟ สายสื่อสารรกรุงรัง จึงขอชื่นชมและขอบคุณการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและเทศบาลเมืองลำพูน รวมไปถึงจังหวัดลำพูน ที่ได้ช่วยกันผลักดันและขับเคลื่อนทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นในวันนี้

“ขอแสดงความชื่นชมและยินดีในการเสียสละของเทศบาลเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลำพูน และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ที่ได้นำสายไฟฟ้า ซึ่งเคยกลายเป็น Soft Power ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชื่นชอบและชื่นชมว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่รกรุงรัง และถ่ายภาพคู่กับสายไฟฟ้าที่แปลกตาในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่ แต่ที่เทศบาลเมืองลำพูนนั้น เราได้ทำให้สายไฟฟ้าลงใต้ดินได้ทั้งหมด ซึ่งสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นได้ เพราะเราทุกคนมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ด้วยการปฏิบัติบูชา” และมีจิตอาสาที่จะช่วยกันคิดช่วยกันทำโครงการที่ดีเพื่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติของเรา แม้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่ต้องแสวงหาผลกำไรเพื่อนำไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและความมั่นคงของพี่น้องประชาชน แต่ผู้บริหารของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็แสดงความพยายามที่จะจัดสรรงบประมาณสำคัญเพื่อนำมาปรับปรุงและสร้างภูมิทัศน์ที่ดีงามให้เกิดขึ้นในจังหวัดลำพูน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน “1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” สำเร็จได้เกิดจาก “หัวใจแห่งความจงรักภักดี” ของพวกเรา และแม้ว่ากิจกรรมในวันนี้จะเป็นการปิดโครงการดังกล่าว แต่เป็นการเริ่มต้นของการมุ่งสร้างสรรค์เมืองลำพูน เมืองแห่งความศิวิไลซ์ และขอให้พวกเราไม่ปิดกั้นในการที่จะทำความดีเพื่อส่วนรวมให้เพิ่มมากขึ้นต่อไป ทำให้บ้านเมืองและชุมชนของเรามีความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย อาทิ เราสามารถช่วยกันจัดระเบียบสายสื่อสารที่ยังไม่ลงดินให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพิ่มมากขึ้น หรือการปรับปรุงภูมิทัศน์ต่างๆ ในชุมชน เพื่อให้บ้านเมืองและประเทศไทยของเราเป็นเมืองที่น่าอยู่ หน้าบ้านน่ามอง ชุมชนน่าอยู่


“จังหวัดลำพูน เป็นเลิศในเรื่องของความสะอาดอยู่แล้ว ตั้งแต่นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน คนที่ 42 ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังคงเป็นเลิศอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลรักษาความสะอาด ช่วยกันต่อยอด “ลำพูนเมืองสะอาด” รวมถึงช่วยกันรณรงค์สร้างความมั่นคงทางอาหาร น้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” เพื่อให้ลำพูนของเราเป็นเมืองศรีวิไลซ์เพิ่มมากยิ่งขึ้น เป็นต้นแบบให้กับทุกจังหวัดในประเทศไทยและของคนทั้งโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยกันรณรงค์จัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567″ นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอใช้โอกาสนี้เชิญชวนพวกเราสร้างจุดเริ่มต้นของการร่วมกันทำความดี ในกิจกรรมดีๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล น้อมนำพระราชปณิธานที่แน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการ “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” และขออนุโมทนาผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลำพูน นายกเทศมนตรีเมืองลำพูน และพี่น้องประชาชนที่ได้มีโอกาสเป็นต้นแบบทำให้บ้านเมืองสวยงาม ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่เสาไฟฟ้าต้นสุดท้ายในเขตเทศบาลเมืองลำพูน กำลังจะถูกรื้อถอนออกไป เริ่มตั้งแต่เสาไฟฟ้าต้นแรกจนถึงต้นที่ 256 เป็นต้นสุดท้าย และขอให้มีกำลังใจไม่หยุดยั้งที่จะทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม Change for Good ให้กับลำพูนตลอดไป

นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน “1 จังหวัด 1 ถนน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ” เป็นโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจังหวัดลำพูนและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้จัดทำโครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน ในพื้นที่เทศบาลเมืองลำพูน บนถนนรอบเมืองนอก ตั้งแต่บริเวณด้านหน้าสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค สาขาลำพูน ถึงเชิงสะพานท่านาง ระยะทางประมาณ 2.2 กิโลเมตร งบประมาณ 35,087,994 บาท เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ของเมืองให้มีความสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย และเกิดความปลอดภัยต่อประชาชนที่สัญจรไปมา ด้วยการนำสายไฟฟ้า สายสื่อสารต่างๆ ที่พาดบนเสาไฟฟ้าลงใต้ดิน

นายถนอม ปัญญาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมและบริการ PEA เขต 1 (ภาคเหนือ) จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้ร่วมกับเทศบาลเมืองลำพูน ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน โดยการติดตั้งระบบจำหน่ายแรงสูง รื้อถอนเสาไฟฟ้าพร้อมติดตั้งระบบเคเบิลใต้ดิน ติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างไร้สาย เพื่อรองรับการจัดระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน ภายใต้โครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคใต้ดินเพื่อการท่องเที่ยวในเขตเมืองอนุรักษ์ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ระยะที่ 1 บริเวณถนนอินทยงยศ ด้านหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ถึงแยกประตูลี้ เป็นการนำร่อง และได้ดำเนินการติดตั้งเสาไฟฟ้า/เปลี่ยนโคมไฟฟ้าสาธารณะให้เป็นหลอด LED บริเวณถนนสายหลัก ถนนสายรอง จุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อความส่องสว่าง บริเวณถนนรอบเมืองใน ถนนรอบเมืองนอก

ปัจจุบันดำเนินการถึงระยะที่ 5 ซึ่งหลังจากขุดวางท่อร้อยสายลงใต้ดินแล้วเสร็จ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ดำเนินการรื้อถอนเสาไฟฟ้าออก เทศบาลเมืองลำพูนจะได้มีการปลูกต้นไม้ทดแทนเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมืองต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย