กทม. 14 ส.ค.-พระลูกวัดที่ ต.ตลาดไทร อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ร้องสื่อฯ หลังนำรถตู้ไปขายให้เต็นท์รถมือสอง 2 แสนบาท แต่ไม่จ่ายเงิน แจ้งความคดีไม่คืบหน้า ตรวจสอบประวัติเสี่ยเต็นท์รถ พบเคยถูก “บิ้กโจ๊ก” จับกุมยึดทรัพย์ 200 ล้าน หลังหลอกทำสัญญาซื้อ-ขาย ก่อนเชิดหนี แต่ยังไม่เข็ด
พระอมรมิตร พระลูกวัด ใน ต.ตลาดไทร อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ร้องสื่อมวลชน หลังนำรถตู้ ไปขายให้กับเต็นท์รถมือสองใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ตกลงซื้อขายราคา 200,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่ถูกเสี่ยเจ้าของเต้นท์รถ ล่อลวงทำสัญญาซื้อขาย ให้เซ็นเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ แล้วรับปากว่าอีก 3 วัน จะจ่ายเงินให้ด้วยวิธีการโอนเข้าบัญชี แต่สุดท้ายกลับไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว
พระอมรมิตร เล่าว่า พยายามตามทวงถามเงินที่ติดค้าง กับเจ้าของเต็นท์รถแต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ที่ผ่านมา ได้แจ้งความตำรวจ สภ.สตึก เจ้าของพื้นที่ แต่ทำได้แค่ลงบันทึกประจำวัน และแนะนำให้ไปฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง ถึงวันนี้ผ่านมา 3 เดือน จึงนำเรื่องร้องเรียนสื่อมวลชน เพื่อฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ และอยากวิงวอนให้หน่วยงายรัฐช่วยเหลือ ต้องการรถคืน หรือจ่ายเงิน 2 แสนบาท จะได้จบเรื่อง
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามเสี่ยเจ้าของเต็นท์รถ เพื่อขอให้จ่ายเงิน หรือคืนรถให้กับผู้เสียหาย พบว่าเจ้าของเต็นท์รถ อ้างว่ากำลังอยู่กับเจ้านาย แต่รับปากว่าจะรีบดำเนินการให้
ขณะที่พระอมรมิตร เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเตรียมออกหมายค้นเต็นท์รถมือสอง จ.บุรีรัมย์ เพื่อติดตามยึดรถคืน ทั้งนี้ เต็นท์รถมือสองแห่งนี้เคยถูก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล นำกำลังบุกตรวจค้น จับกุม และยึดทรัพย์มูลค่า 200 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 เนื่องจากมีพฤติกรรมหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน มีผู้เสียหายมากกว่า 130 ราย โดยเสี่ยเจ้าของเต็นท์รถ พร้อมภรรยาและลูกน้องรวม 4 คน ถูกดำเนินคดี แต่ปัจจุบันยังเปิดดำเนินกิจการอยู่ และยังมีพฤติกรรมหลอกหลวงซื้อขายรถยนต์ซ้ำ จนมีผู้เสียหายรายใหม่เพิ่ม.–สำนักข่าวไทย