บุรีรัมย์ 5 ส.ค.-สุดสลด พ่อตัดสินใจปลิดชีพลูกสาววัย 10 ขวบ ก่อนตายตามหนีความจน ในบ้านพบจดหมายลาตาย เมียทิ้งไปมีใหม่ น้ำไฟถูกตัด และยังพบใบเขียนขอทุนเรียนดีของลูกสาว
สภ.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งพบศพที่บ้านสาวเอ้ รุดตรวจสอบพร้อมกู้ภัย เป็นบ้านไม้ยกสูง ใช้สังกะสีทำเป็นฝาบ้าน ใต้ถุนบ้านดัดแปลงเป็นห้องนอน พบศพผู้เสียชีวิต 2 คน คือ นายไพบูลย์ หรือ แอ๊ด อายุ 31 ปี และน้องข้าว ลูกสาว อายุ 10 ปี นักเรียน ป.4 คาดเสียชีวิต 3 วัน ตรวจสอบโดยรอบไม่พบร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินหรือร่องรอยการต่อสู้ ตามร่างกายของนายแอ๊ดไม่พบบาดแผล มีเพียง ด.ญ.ข้าว มีบาดแผลศีรษะคล้ายถูกของแข็งทุบ ภายในบ้านยังพบใบขอทุนเรียนดีของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่ขอมาจากครู วางอยู่ภายในบ้าน แต่ยังไม่ทันกรอกข้อมูลและยื่นขอทุน พบจดหมายลาตาย คาดว่าพ่อเป็นคนเขียนก่อนก่อเหตุ พร้อมวาดภาพใบหน้าคน 2 คนในจดหมาย ตำรวจสันนิษฐานว่าพ่อน่าจะใช้ของแข็งทุบศีรษะลูกสาวก่อนแล้วจับแขวนคอ ก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะผูกคอตายตาม
สอบถามเพื่อนบ้านซึ่งพบศพสองพ่อลูก เล่าว่าได้กลิ่นเหม็นเน่าจากตัวบ้าน และไม่เห็นนายแอ๊ดกับลูกสาวมา 2-3 วันแล้ว จึงเดินดูที่บ้าน พอเปิดประตูเข้าไปก็พบทั้งสองเสียชีวิตแจ้งผู้นำหมู่บ้านและเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
สาเหตุเชื่อว่ามาจากความยากจน เพราะนายแอ๊ดอาศัยกับลูกสาวตามลำพัง หลัง 5 ปีก่อนแยกทางภรรยา สองพ่อลูกอยู่ด้วยความยากลำบาก นายแอ๊ดมีโรคประจำตัว คือ โรคหอบหืด ไม่สามารถไปรับจ้างงานหนักได้ จะรับจ้างงานที่ไม่ค่อยหนักใกล้บ้าน บางวันหาปู ปลา มาเลี้ยงลูกสาว ถ้าหาปลาได้เยอะจะเอาไปขาย ได้เงินเก็บไว้ให้ลูกสาวไปโรงเรียน หลายครั้งต้องงัดสังกะสีหลังคาบ้านไปขาย หากไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียน เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา บ้านนายแอ๊ดถูกตัดน้ำตัดไฟ เพราะไม่มีเงินไปจ่าย จึงอยู่ในความมืด พาลูกสาวนอนนอกบ้าน หุงข้าวทำกับข้าวด้วยเตาถ่านกลางคืนจุดเทียน
ล่าสุดวันนี้ หน่วยกู้ภัยนำร่างสองพ่อลูกส่งตรวจชันสูตรที่ รพ.บุรีรัมย์ กลับมายังวัดบ้านสาวเอ้ อ.คูเมือง เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาและฌาปนกิจศพวันนี้ เนื่องจากมีสภาพเน่าเปื่อยแล้ว โดยมี สส. ญาติ ชาวบ้าน ครู เพื่อนนักเรียนร่วมงานจำนวนมาก ทั้งญาติและชาวบ้านทำพิธีจุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี พร้อมจะรื้อบ้านทิ้งตามความเชื่อคนเฒ่าคนแก่ เพราะการตายลักษณะดังกล่าวถือเป็นการตายโหงพร้อมกัน หากไม่รื้อบ้านทิ้งวิญญาณจะเฮี้ยนหลอกหลอนคนอื่น
เพื่อนบ้าน บอกว่าสองพ่อลูกน่าสงสาร ที่ผ่านมามีชาวบ้านคอยช่วยตามกำลัง ทั้งให้เงินไปโรงเรียน ช่วงที่โดนตัดน้ำก็แบ่งน้ำให้ใช้ ที่ผ่านมาตนเคยบอกนายแอ๊ดว่าจะขอลูกสาวไปดูแลส่งเสียให้เรียนเพราะตนไม่มีลูกสาว แต่นายแอ๊ดไม่ยอม เพราะเขารักลูกมาก
ด้านนายสมศักดิ์ บุญมี ผอ.โรงเรียนบ้านสาวเอ้ บอกว่าน้องที่เสียชีวิตเป็นเด็กร่าเริงไม่เคยแสดงออกว่ามีอาการซึมเศร้า ส่วนเรื่องทุนการศึกษาสำหรับเด็กยากจนน้องได้รับอยู่แล้วแต่อาจไม่เพียงพอ ที่ผ่านมาครูเยี่ยมบ้านติดตามความเป็นอยู่ทุกปี ก็ทราบปัญหาและหารือทางครอบครัว ซึ่งญาติพยายามจะช่วยแบ่งเบาโดยย่าจะให้ทั้งสองคนไปอยู่ด้วย หรือจะเอาหลานไปช่วยเลี้ยงแต่พ่อไม่ยอม เมื่อเกิดปัญหารุมเร้ามากก็เครียด ทางโรงเรียนและชุมชนไม่ได้ละเลย ที่ผ่านมาผู้เป็นพ่อเองก็ไม่เคยไปขอความช่วยเหลือหรือปรึกษากับใคร แต่กลับตัดสินใจก่อเหตุสลด.-สำนักข่าวไทย