สั่งปรับสปีดโบ๊ทฝ่าคลื่นลมแรงจากพีพี กลับภูเก็ต

3 ส.ค. – เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต สั่งปรับผู้ควบคุมเรือนำเที่ยวสปีดโบ๊ท ฝ่าฝืนคำสั่งเดินเรือขณะคลื่นลมแรง ด้านกัปตันเรือขอความเป็นธรรม พร้อมแจงเหตุผลต้องฝ่าคลื่นจากพีพี กลับภูเก็ต


กรณีปรากฎภาพเรือนำเที่ยวสปีดโบ๊ทอย่างน้อย 2 ลำ แล่นฝ่าคลื่นลมแรงจากเกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อกลับมายังท่าเทียบเรือใน จ.ภูเก็ต และมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่โดยสารมากับเรือไม่สวมใส่เสื้อชูชีพ จนเป็นที่วิตกเรื่องของความปลอดภัย เกรงเกิดเหตุไม่คาดคิด เนื่องจากในระยะนี้คลื่นลมในทะเลค่อนข้างแรง และมีประกาศจากทางหน่วยงานราชการให้ระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

เรื่องนี้ เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต มีคำสั่งให้ตรวจสอบ พบว่าเรือเร็วทั้ง 2 ลำ คือเรือณัฐทิชา 555 และเรือ ที เอส เค 6 ได้ฝ่าคลื่นลมแรงความสูงประมาณ 3 เมตร ระหว่างทางกลับจากเกาะพีพี จ.กระบี่ เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมาจริง จึงได้สั่งปรับผู้ควบคุมเรือ ฐานฝ่าฝืนคำสั่งเดินเรือขณะคลื่นลมแรง และนัดให้มาชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป


ทั้งนี้ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ได้มีประกาศให้ระมัดระวังการเดินเรือ ระหว่างวันที่ 2-3 สิงหาคมนี้ เนื่องจากมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ตอนบน ประกอบกับมีพายุดีเปรสชั่นกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนมากขึ้น และมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย ขอให้นายเรือและผู้ควบคุมเรือ เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือห่างฝั่ง บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตควรงดออกจากฝั่ง และเรือที่มีขนาดความยาวน้อยกว่า 10 เมตร ห้ามออกจากฝั่งไปยังทะเลเปิด

นายอำเภอเมืองภูเก็ต พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ เจ้าท่า ภูมิภาค สาขาภูเก็ต, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวเรือณัฐทิชา 555 และเรือ ที เอส เค 6, กัปตันเรือ และมัคคุเทศก์ ร่วมชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวออกไป เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นายจิรทีปต์ ประโมงกิจ กัปตันเรือณัฐทิชา 555 ซึ่งเป็นเรือที่ถูกถ่ายคลิป ขอความเป็นธรรม พร้อมแจงเหตุผลต้องฝ่าคลื่นจากพีพีกลับภูเก็ต หลังมีการเผยแพร่ภาพขณะเรือแล่นฝ่าคลื่นสูง โดยระบุว่า ก่อนเดินทางได้ตรวจเช็กสภาพอากาศเรียบร้อย ซึ่งในการนำเรือออกไปในช่วงเช้าวันเกิดเหตุสถานการณ์ปกติ กระทั่งไปถึงเกาะพีพี จ.กระบี่ เรียบร้อย และก่อนที่จะนำเรือกลับมายัง จ.ภูเก็ต ได้มีการตรวจสภาพอากาศและประเมินศถานการร์แล้ว พบว่า คลื่นลมจะแรงในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. จึงได้แจ้งไปยังบริษัทฯ ให้ทราบ และให้นำเรือออกจากเกาะพีพีเวลาประมาณ 13.50 น. เพราะในการเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งจะถึงก่อนที่จะสภาพอากาศจะเปลี่ยนแน่นอน แต่หลังจากที่ออกเรือมาได้ประมาณ 20-30 นาที ปรากฏว่า ได้เกิดคลื่นลมแรงรวมทั้งมีฝนตกด้วย โดยมีเรือที่ออกมาในเวลาไล่เลี่ยกันประมาณ 10 ลำ เรือของตนมี 2 เครื่อง จึงได้ขับตามเรือ 3 เครื่อง ซึ่งเป็นเรือใหญ่ เหหมือนเป็นเรือนำร่องช่วยฟันคลื่นให้ รวมทั้งยังมีเรือลำอื่นๆ ตามกันมาด้วย ซึ่งจะมีความปลอดภัยมากกว่าการนำเรือกลับไปยังเกาะพีพี เพราะการเลี้ยวเรือกลับมีโอกาสพลาดและพลิกคว่ำได้ ซึ่งการขับตามกันมาเป็นวิธีการของคนเดินเรือที่รู้กันเมื่อเจอกับคลื่นจะต้องให้เรือที่มีขนาดใหญ่นำหน้าเพื่อช่วยฟันคลื่น และเกาะกลุ่มกันไป เพื่อความปลอดภัย ส่วนที่เห็นภาพว่าเรือไปทางซ้ายทีขวาที เป็นลักษณะของการเดินเรือเมื่อเจอคลื่น เพราะหากให้เรือปะทะกับคลื่นโดยตรงจะทำให้เรือแตกได้ จำเป็นต้องวิ่งแนวเฉียงเป้นการเล่นคลื่นเพื่อลดแรงกระแทกซึ่งในวันนั้นคลื่นสูงประมาณ 3-4 เมตร ในส่วนของผู้ประกอบการของเรือทั้ง 2 ลำ ยืนยันว่า ก่อนออกเรือทุกครั้งจะตรวจสอบสภาพเรือ ความพร้อมของเรือ อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ชูชีพ ตลอดจนความพร้อมของคนขับเรือแลควบคุมเรือ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยที่หน่วยงานภาครัฐกำหนดทุกประการ และเมื่อเรือออกจากท่าก็จะมีการประสานกับทางกัปตันเรือตลอด รวมทั้งจะแจ้งสภาพอากาศ รวมทั้งการสอบถามความเห็นขอกัปตันเรือ เพราะบางครั้งขาไปสภาพคลื่นลมสงบ แต่เมื่อไปถึงกลางทะเลก็อาจมีคลื่นลมได้ ซึ่งในระหว่างนั้นก็ต้องให้กัปตันช่วยประเมิน ซึ่งเราให้ความสำคัญมากในเรื่องของความปลอดภัย


ส่วนกรณีที่เห็นนักท่องเที่ยวบางคนไม่สวมเสื้อชูชีพขณะที่อยู่บนเรือนั้น ทางมัคคุเทศก์แจ้งว่า ก่อนออกจากท่าฯ นักท่องเที่ยวทุกคนที่ลงเรือสวมเสื้อชูชีพทุกคน แต่เมื่อนั่งไปได้ระยะหนึ่งปรากฏว่าเมาคลื่น อาเจียน จึงถอดเสื้อชูชีพออก และเป็นช่วงที่กล้องจับภาพได้ มีเพียง 2 คน แต่หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อยนักท่องเที่ยวก็ใส่เสื้อชูชีพกลับเหมือนเดิม

ด้านนายอดูลย์ ระลึกมูล เจ้าพนักงานตรวจเรือ ย้ำขอให้ติดตามประกาศของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต และให้ผู้ประกอบการกวดขันเพื่อรักษาตามมาตรการความปลอดภัยในช่วงมรสุมนี้ และขอให้นายเรือและผู้ควบคุมเรือเพิ่มความระมัดระวังเดินเรือ หลีกเลี่ยงการเดินเรือห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ควรงดออกจากฝั่ง และเรือที่มีขนาดความยาวน้อยกว่า 10 เมตร ห้ามออกจากฝั่งไปยังทะเลเปิด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร