“บิ๊กโจ๊ก” ลงพื้นที่บ้านมูโนะ ติดตามคดีโกดังดอกไม้ไฟระเบิด

นราธิวาส 2 ส.ค. – พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” พร้อมอัยการ และชุดสืบสวน ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีโกดังเก็บพลุระเบิด พื้นที่บ้านมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส


จากกรณีเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 15.05 น. เกิดเหตุโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิดที่บ้านมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทำให้บ้านเรือนประชาชนบริเวณโดยรอบได้รับความเสียหายกว่า 400 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิต 12 ราย ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 200 ราย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สืบสวนหาสาเหตุการเกิดเหตุระเบิดดังกล่าว รวมทั้งตรวจสอบการเก็บรักษาดอกไม้ไฟ ว่าดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่


วันนี้ (2 ส.ค. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมด้วยพนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการสืบสวนกรณีดังกล่าว

จากการสืบสวนทราบว่าโกดังเก็บดอกไม้ไฟเป็นของร้านวิรวัฒน์พานิช เจ้าของคือ น.ส.ปิยะนุช อายุ 42 ปี และนายสมปอง อายุ 42 ปี ซึ่งมีโกดังเก็บดอกไม้ไฟอยู่ในบริเวณดังกล่าว 2 แห่ง สาเหตุเกิดการระเบิดคาดว่ามาจากการดัดแปลงอาคารที่เกิดเหตุเพื่อเก็บของ ตามวันเวลาเกิดเหตุมีช่างเชื่อมโลหะเข้าไปต่อเติมอาคาร และเกิดสะเก็ดไฟขณะทำงานร่วงหล่นใส่ดอกไม้ไฟในโกดังจนเกิดระเบิดขึ้น

นอกจากนี้กรณีของการเก็บรักษาดอกไม้ไฟในโกดังทั้งหมดพบว่าร้านวิรวัฒน์พานิชสั่งซื้อดอกไม้ไฟมาจากบริษัทนำเข้าดอกไม้ไฟจากจีน ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย จากนั้นนำมาเก็บในโกดังเพื่อนำมาจำหน่ายให้กับร้านค้าและประชาชนทั่วไปในพื้นที่ แต่ร้านดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตในการจำหน่ายดอกไม้ไฟตามกฎหมายแต่อย่างใด


หลังเกิดเหตุได้ติดตามตัวเจ้าของร้านทั้ง 2 ราย พบว่าเดินทางออกไปยังประเทศมาเลเซียหลังเกิดเหตุ เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.มูโนะ ภ.จว.นราธิวาส ขออนุมัติหมายจับเจ้าของร้านทั้ง 2 ราย ในความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันทำ สั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่งดอกไม้เพลิง โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และร่วมกันก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในโอกาสแรกขอแสดงความเสียใจไปยังพี่น้องประชาชนชาวมูโนะที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว จากเหตุการณ์นี้มีพี่น้องชาวมูโนะได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างมากกว่า 400 หลังคาเรือน ซึ่งหน่วยงานรัฐและเอกชนกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากความประมาทในการซ่อมแซมอาคารดังกล่าว หลังเกิดเหตุจึงได้พยายามติดตามเจ้าของกิจการ 2 คน ซึ่งทราบว่าหลบหนีไปยังประเทศมาเลเซียแล้ว จึงได้ออกหมายจับ และเตรียมประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีต่อไป

ในส่วนของการขายดอกไม้ไฟและการเก็บรักษาดอกไม้ไฟเป็นจำนวนมากนั้น อยู่ระหว่างการสืบสวนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อหรือจำหน่ายดอกไม้ไฟ ว่ามีการลักลอบส่งออกด้วยหรือไม่ หากพบว่ามีการกระทำผิดในส่วนอื่นก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติม รวมทั้งหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าวจริงจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐดังกล่าวทั้งหมดโดยเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ครบ 72 ชม. ตึก สตง.ถล่ม ไม่หยุดค้นหาผู้รอดชีวิต

ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุตึก สตง.พังถล่ม แม้เวลาผ่านมาครบ 72 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่้ทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิต หวังมีปาฏิหาริย์

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้