1 ส.ค. – งดงามอลังการ ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา หนึ่งเดียวในโลก ที่สระบุรี ส่วนที่สุรินทร์ จัดยิ่งใหญ่ ช้าง 53 เชือก ร่วมขบวนมหกรรมแห่เทียนพรรษา-ตักบาตรบนหลังช้าง
เริ่มแล้วกับงานย้อนตำนานสระบุรี สืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลกกับประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาถวายเทียนพระราชทานประจำปี 2566 และประเพณีล้างเท้าพระ ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา หนึ่งปีมีหนึ่งครั้ง และมีเพียงแห่งเดียวที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดงานตักบาตรดอกเข้าพรรษา และถวายเทียนพระราชทาน ประจำปี 2566 พร้อมนำพี่น้องพุทธศาสนิกชนร่วมตักบาตรดอกเข้าพรรษาเพื่อให้พระสงฆ์ได้นำดอกไม้นั้นไปบูชารอยพระพุทธบาทอีกต่อหนึ่ง และประกอบพิธีล้างเท้าพระ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาเป็นประเพณีสำคัญของชาวสระบุรีที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องตักบาตรดอกเข้าพรรษา ที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร
โดยงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาจะมีไปจนถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2566 ซึ่งวันนี้และวันพรุ่งนี้ (1-2 ส.ค.) จะมีพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษา และล้างเท้าพระวันละ 2 รอบ รอบแรก เวลา 09.00 น. รอบ 2 เวลา 15.00 น.
ชมภาพขบวนช้าง 53 เชือกร่วมแห่เทียนพรรษา
ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดี ศรีณรงค์จางวาง เจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดสุรินทร์ มีการจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาและตักบาตรบนหลังช้างประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม เพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีอันดีงามของไทย และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์
โดยมีการจัดขบวนแห่ต้นเทียนและประกวดขบวนแห่เทียนพรรษาจาก 12 คุ้มวัด ที่ประดับตกแต่งสวยงาม รวมทั้งขบวนฟ้อนรำศิลปวัฒนธรรม 3 ชนเผ่า เขมร ลาว กูย และยิ่งใหญ่ด้วยขบวนช้างพลายงาสวย 9 เชือก ที่ด้านบนประดับด้วยรูปพระบรมสารีริกธาตุ รูปพระพุทธรูป พระพุทธชินราช และรูปเกจิอาจารย์ที่ชาวสุรินทร์ให้ความเคารพนับถือ พร้อมทั้งขบวนช้างแฟนซีที่ประดับตกแต่งสวยงาม หลากสีสัน อย่างยิ่งใหญ่ จำนวน 53 เชือก เคลื่อนขบวนจากบริเวณหน้ามลฑลทหารบกที่ 25 เข้ามายังตัวเมืองสุรินทร์ ผ่านอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง เข้าไปตามเส้นทางในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ไปหยุดที่หน้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ซึ่งตลอดเส้นทางสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาร่วมชมงานเป็นอย่างมาก .-สำนักข่าวไทย